Disrupt Health Impact Fund ลงทุนใน Jona สตาร์ทอัพ AI ถอดรหัสสุขภาพจากไมโครไบโอม

จะดีแค่ไหนถ้าเรารู้ล่วงหน้าว่าร่างกายกำลังเสี่ยงกับโรคอะไร ไม่ใช่การพึ่งดวง แต่คือการถอดรหัสจาก 'เพื่อนตัวจิ๋ว' นับแสนล้านชีวิตที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา หรือที่เรียกกันว่า ‘ไมโครไบโอม’ (Microbiome)

ล่าสุด Disrupt Health Impact Fund กองทุน DeepTech ด้านสุขภาพของไทยที่นำโดย “กระทิง-พูนผล ปิ่นประภาภรณ์” ได้ประกาศขยายการลงทุนครั้งสำคัญใน ‘Jona’ สตาร์ทอัพ HealthTech สัญชาติอเมริกัน ผู้พัฒนาเทคโนโลยี AI สุดล้ำสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลไมโครไบโอมโดยเฉพาะ 

ทำไม ‘ไมโครไบโอม’ ถึงสำคัญ?

คุณกระทิง พูนผล ประธานกองทุน Disrupt Health Impact Fund กองทุน 500 TukTuks และ ORZON Ventures ชี้ว่า ศาสตร์ด้านไมโครไบโอมกำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะเริ่มมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือออกมายืนยันแล้วว่า ความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องการขับถ่าย แต่เชื่อมโยงไปถึงระบบภูมิคุ้มกัน, สุขภาพผิว, การทำงานของสมอง และแม้กระทั่งสุขภาพจิต 

จนตอนนี้ US FDA ได้อนุมัติให้นำการปรับสมดุลไมโครไบโอมมาใช้รักษาบางโรคแล้ว จึงมองว่านี่คือตลาดที่กำลังจะเติบโตมหาศาล โดย Precedence Research คาดการณ์ว่าตลาด AI ในธุรกิจสุขภาพทั่วโลกจะพุ่งแตะ 6.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2577 

Jona คือใคร ทำอะไร ?

การอ่านผลตรวจไมโครไบโอมมีความซับซ้อนมหาศาล เพราะในลำไส้เรามีจุลินทรีย์กว่าแสนล้านประเภท และมีงานวิจัยใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา Jona จึงเข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วยการพัฒนา AI ที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด และฝึกฝนให้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ไมโครไบโอมโดยเฉพาะ 

โดยมีคณะที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Advisory Board -SAB) ที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ทั้งด้าน AI แพทย์ นักโภชนาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการยืดอายุ ที่มาร่วมให้คำแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์และทบทวนผลลัพธ์จาก AI

Jona มีแพลตฟอร์มที่ช่วยประมวลผลข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์กว่า 200,000 ฉบับทั่วโลก ทำให้แพทย์อ่านผลตรวจได้แม่นยำยิ่งขึ้น และมีที่มาที่ไปของข้อมูลประกอบ

อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ถือเป็นไม้เด็ดคือ ‘Microbiome Digital Twin’ หรือโมเดลจำลองดิจิทัลของไมโครไบโอม ที่สามารถพยากรณ์ได้ว่า หากเราปรับเปลี่ยนการกินอาหาร ไลฟ์สไตล์ หรือใช้ยาบางชนิด จะส่งผลกระทบต่อสมดุลจุลินทรีย์และสุขภาพโดยรวมของเราอย่างไร  ทำให้การดูแลสุขภาพไม่ใช่การเดาสุ่มอีกต่อไป 

ดร. ลีโอ เกรดี้ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Jona เปิดเผยว่า จุดแข็งของบริษัทคือ AI ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างเจาะจง ทำให้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างจุลินทรีย์และสุขภาพได้ดีกว่า โดยบริษัทตั้งเป้าจะใช้เงินทุนรอบนี้เร่งการเติบโตให้ได้ถึง 10 เท่า และขยายผลไปทั่วโลก 

Disrupt Health Impact Fund มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเฟ้นหานวัตกรรม DeepTech ด้าน Healthcare ที่มีศักยภาพจากทั่วโลก โดยมีแผนจะลงทุนใน 15 บริษัท (ทั้งในไทยและต่างประเทศ) ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ด้วยเม็ดเงินลงทุนเริ่มต้นราว 17-25 ล้านบาทต่อบริษัท 

โดยกองทุนจะมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมที่พร้อมใช้งานจริงในระดับโลก ซึ่งอาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดแล้ว หรืออยู่ในขั้นตอนการวิจัยในมนุษย์เพื่อรอการรับรองจาก FDA  โดยมีโฟกัสใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

  • Self-Care เทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง 
  • Preventive Medicine เวชศาสตร์ป้องกันโรค 
  • Aging Society นวัตกรรมเพื่อผู้สูงวัย 
  • Holistic Wellness การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม 
  • Smart Hospital เทคโนโลยีสำหรับโรงพยาบาลอัจฉริยะ 

ปัจจุบัน กองทุนฯ มีนักลงทุน 7 ราย ซึ่งเป็นนักลงทุนส่วนบุคคลที่สนใจธุรกิจด้าน Health & Wellness และยังคงเปิดรับพันธมิตรที่สนใจร่วมลงทุน พร้อมมองหาบริษัท DeepTech ที่มีศักยภาพเพื่อมาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการสุขภาพไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง 



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

คุยกับ LINE และทีมผู้ชนะ จาก LINE HACK 2025 เผยเบื้องหลังการปั้นไอเดียจาก Pain Point สู่นวัตกรรมด้วย AI+ LINE MINI App

หากพูดถึงเวที Hackathon ที่นักพัฒนาไทยเฝ้ารอ ชื่อของ LINE HACK ย่อมติดอยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ และในปี 2025 งานก็ได้เดินทางมาถึงครั้งที่ 6 ด้วยรูปแบบและเป้าหมายใหม่...

Responsive image

2026 วิกฤตฟองสบู่ ‘ศัพท์ AI’ เมื่อเรากำลังเข้าสู่ยุคที่คนพูดเก่ง... อาจไม่ได้ทำงานเป็น

ปี 2026 ตลาดแรงงานเผชิญ AI Language Inflation เมื่อ JD และ Resume เต็มไปด้วย Buzzwords จนคนเก่งตัวจริงอาจหลุดระบบ และความเป็นมนุษย์กลายเป็นทักษะสำคัญที่สุด...

Responsive image

NVIDIA เปิดตัว Nemotron 3 ชุดโมเดล AI แบบเปิดรุ่นใหม่ ปูทางสู่ยุค Multi-Agent AI

NVIDIA ประกาศเปิดตัว NVIDIA Nemotron 3 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI แบบ Open Source พร้อมชุดข้อมูลและ Library ที่ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อน Agentic AI ที่มีประสิทธิภาพ และมีความเฉพาะทางสำหรับห...