ก่อนหน้านี้ Grab ได้รับเงินลงทุนจากธนาคารกสิกรไทยเป็นจำนวน 1,600 ล้านบาท เพื่อพัฒนา Wallet อย่าง GrabPay by KBank รวมถึงการพัฒนาให้แอปพลิเคชัน K PLUS และ Grab ใช้งานร่วมกันได้
ส่วนคู่แข่งคนสำคัญของ Grab ผู้ใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน (Ride-hailing) อย่าง Go-Jek ประกาศขยายบริการตัวเองออกสู่ 4 ประเทศ คือ เวียดนาม, ไทย, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ โดยได้เปิดตัว GO-VIET ในเวียดนาม และเปิดตัว GET ในไทยที่งาน Thailand Digital Big Bang 2018 รวมถึงกำลังจะได้เงินลงทุนอีก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกด้วย
ล่าสุดคู่แข่งคนสำคัญของ Grab ผู้ใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน (Ride-hailing) อย่าง Go-Jek ได้ประกาศร่วมมือกับธนาคาร DBS จากประเทศสิงคโปร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งการร่วมเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะเป็นการร่วมมือกันพัฒนาระบบชำระเงิน (Payment Services) ของ DBS ให้สามารถใช้งานบนแอป Go-Jek ได้ โดยช่วงแรกจะเริ่มจากในประเทศสิงคโปร์ก่อน หลังจากนั้นจะยกระดับให้รองรับในระดับภูมิภาค Southeast Asia ต่อไป
นอกจากนี้ Andre Soelistyo ประธานของ Go-Jek ยังเปิดเผยอีกว่าจะเริ่มทดลองให้บริการ Ride-hailing ที่ประเทศสิงคโปร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
หลังจากก่อนหน้านี้ได้เริ่มเปิดรับสมัครคนขับรถยนต์ให้กับ Go-Jek ผ่านบริการ 'GOCAR' ไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (ขณะนี้สิงคโปร์ยังไม่อนุญาตให้มี Ride-hailing ประเภทมอเตอร์ไมค์ในเวลานี้)
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด