Grab กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.7 แสนล้านบาท เปิดตัว 'Grab For Good' ยกระดับชีวิตและมอบโอกาสให้กับผู้พิการ | Techsauce

Grab กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.7 แสนล้านบาท เปิดตัว 'Grab For Good' ยกระดับชีวิตและมอบโอกาสให้กับผู้พิการ

  • Grab ประกาศเป้าหมายของโปรแกรม ‘Grab for Good Grab เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ เพื่อยกระดับทักษะและมอบโอกาสให้แก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้พร้อมรับอนาคตเศรษฐกิจดิจิทัลภายในปี 2025    

  • จับมือพันธมิตรกับบริษัท Microsoft ในโครงการ ‘Tech for Good เทคโนโลยีสร้างสรรค์สังคม’ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านทักษะเชิงเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมจัดโครงการพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ Grab และครอบครัว

  • เตรียมเปิดตัวโครงการระดับภูมิภาค ‘Break the Silence’ เพื่อสร้างโอกาสให้กับคนหูหนวก และ    ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน

  • Grab เปิดเผยรายงานผลลัพธ์ทางสังคมฉบับแรก ที่คาดการณ์ว่าบริษัทได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.7 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 12 เดือน จนถึงมีนาคม 2019

Grab ผู้นำซูเปอร์แอปแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวโปรแกรมเพื่อสังคม ‘Grab For Good' Grab เพื่อชีวิตทีดีกว่า’ เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นด้วยการเข้าถึงเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกสำหรับบางคน รวมถึงพัฒนาทักษะและบริการด้านดิจิทัล เพื่อสร้างความพร้อมให้ผู้คนเหล่านี้ในการเป็นส่วนหนี่งในเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงเพิ่มโอกาสในการมีทางเลือกที่มากขึ้นและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น 

ด้วยการผสานกันระหว่างเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และพันธมิตร Grab ได้ตั้งเป้าการดำเนินการโปรแกรม ‘Grab เพื่อชีวิตทีดีกว่า’  ที่จะบรรลุภายเป้าหมายในปี 2025 ไว้ดังนี้ 

  • พัฒนาการมีส่วนร่วมและทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล: สร้างความเชื่อมั่นว่าทุกคน ไม่ว่าจะมีภูมิหลังแบบใดหรือศักยภาพเช่นไร สามารถได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยแกร็บตั้งเป้าที่จะส่งมอบทักษะความเข้าใจ รวมถึงการเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 3 ล้านคน ภายในปี 2025 ด้วยการร่วมมือกับรัฐบาล บริษัทเอกชนและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

  • ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดย่อมและขนาดเล็ก: ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมเป็นกลุ่มที่สำคัญในโมเดลธุรกิจของ Grab ทั้งยังเป็นเส้นเลือดสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Grab มุ่งมั่นที่จะช่วยธุรกิจดั้งเดิมและร้านค้าขนาดเล็กกว่า 5 ล้านแห่งในการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์เข้ากับขั้นตอนและกระบวนการทำงาน เพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการจัดการค่าใช้จ่ายและเพิ่มการผลิต

  • เสริมสร้างแรงงานที่พร้อมก้าวสู่อนาคต: 16 เปอร์เซ็นต์ของเยาวชนในอาเซียนต้องการทำงานด้านเทคโนโนโลยีในอนาคต Grab มีแผนการจะให้การอบรมแก่นักศึกษาจำนวน 20,000 คน ผ่านโครงการค้นหาผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี โดยการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการศึกษา องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี 

เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ Grab ประกาศเปิดตัวโครงการหลัก 2 โครงการภายใต้โปรแกรม ‘Grabเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ได้แก่ การอบรมเพื่อพัฒนาทักษะรวมถึงความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระหว่าง Grab และ Microsoft และ  โครงการ ‘Break the Silence’ ที่เป็นโครงการระดับภูมิภาค เพื่อช่วยคนหูหนวกและผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน ในการเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านทาง Ecosystem ของ Grab

โครงการทั้ง 2 โครงการเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการระยะยาวเพื่อพัฒนาทักษะทั้งรายบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กด้วยทักษะด้านเทคโนโลยีที่สำคัญและเครื่องมือต่างๆ ในการเดินหน้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล  ทั้งนี้มีโครงการอีกหลายโครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ 

“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2030 แต่ยากจะปฏิเสธความจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงโอกาสความสำเร็จในการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วย หากภาคเอกชนร่วมกันสร้างโปรแกรมสำหรับชุมชนในแต่ละประเทศ เทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่สามารถเอื้อมถึงได้สำหรับหลายคน นอกจากนี้ทักษะการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ยังจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น” แอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Grab กล่าว

แอนโทนี่ ตัน เพิ่มเติมว่า”Grab เพื่อชีวิตที่ดีกว่าคือการสร้างแพลตฟอร์มที่ทั่วถึง และเป็นพันธกิจของเราในการสร้างผลลัพธ์ในทางบวกและยั่งยืนในประเทศที่เรากำลังดำเนินธุรกิจอยู่”

Grab เพื่อชีวิตที่ดีกว่า: รายงานผลลัพธ์ทางสังคมระหว่างปี 2018 – 2019

โปรแกรมเพื่อสังคม ‘Grab เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ มาจากความมุ่งมั่นของแกร็บในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงระยะเวลากว่า 7 ปีของ Grab จากรายงานผลลัพธ์ทางสังคมเล่มแรกซึ่งประกาศในวันนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว Grab ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปราว 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาทในระยะเวลา 12 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม 2019  โดยผลการคำนวณนี้ได้รับการรับรองจากบริษัทตรวจสอบบัญชีเคพีเอ็มจี (KPMG) ตามกระบวนการที่ตกลงกันไว้

ผู้ประกอบการขนาดย่อมกว่า 9 ล้านราย หรือราว 1 ใน 70 คนของประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรายได้เพิ่มขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม Grab ทั้งจากการเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์ผู้ส่งของ ร้านค้า และพาร์ทเนอร์ตัวแทน ซึ่ง 21 เปอร์เซ็นต์ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ Grab ไม่เคยทำงานมาก่อน ขณะที่อีก 31 เปอร์เซ็นต์ของพาร์ทเนอร์ตัวแทนไม่เคยมีรายได้ก่อนเข้าร่วมตัวแทน Grab-Kudo นอกเหนือจากโอกาสทางเศรษฐกิจ รายงานนี้ยังรวมถึงการที่แกร็บช่วยพัฒนาการเข้าถึงบริการทางการเงินและการจ่ายเงินแบบดิจิทัล ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2012 Grab ได้ช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กจำนวน 1.7 ล้านรายเปิดบัญชีธนาคารบัญชีแรกได้สำเร็จ แกร็บยังช่วยผลักดันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการก้าวสู่อนาคตสังคมไร้เงินสด โดยมีผู้ใช้เงินดิจิทัลมากกว่า 9 เท่าบน Grab เมื่อเทียบกับอัตราการทำธุรกรรมไร้เงินสดทั่วประเทศทั้งหมด

Grab ร่วมมือ Microsoft เดินหน้ายกระดับทักษะให้กับประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่าหลายล้านคน

เพื่อผลักดันโครงการ ‘Grab เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ Grab ได้ประกาศเป็นพันธมิตรในระดับภูมิภาคกับ Microsoft ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับคนทำงานให้เท่าทันยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ปัจจุบัน มีประชากรวัยทำงานจำนวน 6.6 ล้านคนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  ใน 6 ประเทศต้องการปรับทักษะใหม่ภายในปี 2028 โดยประชากร 41 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนนี้ ขาดทักษะทางด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับงานในอนาคต

ความร่วมมือระหว่าง Grab และ Microsoft จะช่วยดึงทรัพยากร ความสามารถและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทออกมาเพื่อปิดช่องว่างด้านทักษะในการทำงาน รวมถึงเติมเต็มวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้านเทคโนโลยีและการเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ความท้าทายที่เรามองเห็นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคือการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม เราเชื่อว่าทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยี ความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดความฉลาด การคิดอย่างเป็นระบบและทักษะการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นกุญแจที่นำไปสู่อนาคต เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งในการเป็นพันธมิตรกับ Grab เพื่อเปิดตัวเส้นทางในการพัฒนาทรัพยากรแรงงานที่มีความรู้ด้านดิจิทัลทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาของประชากรรุ่นใหม่ ความมุ่งมั่นที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือการเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ทุกคนและทุกองค์กรบนโลกบรรลุผลสำเร็จยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Grab เรากำลังสร้างคนทำงานที่จะเปลี่ยนครอบครัว ชุมชนและประเทศ เพื่อสร้างโลกของพรุ่งนี้” แอนเดรีย เดลลา แมทเทีย ประธาน Microsoft เอเชียแปซิฟิก กล่าว

“ในขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังโตขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะเติบโตไปด้วยกันรวมถึงได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล สิ่งที่ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษคือการที่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และครอบครัวสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จากคอร์สของ Microsoft รวมถึงการได้รับประกาศนียบัตรด้วย” ฮุย หลิง ตัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Grab กล่าว

การเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะเน้นไปในเรื่องของความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในหลายระดับ โดย Grab และ Microsoft จะร่วมมือกันใน 3 ด้านดังต่อไปนี้

ฝึกฝนนักศึกษาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต 

  • Grab และ Microsoft จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่ได้รับการคัดเลือกทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการจัดอบรมกับทักษะที่ใช้ได้จริงและทักษะทางเทคนิคซึ่งเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรม

  • Microsoft จะให้ข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม รวมถึงหลักสูตร แพลตฟอร์มการเรียนรู้และประกาศนียบัตร นอกเหนือจากอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีที่ช่วยในการเรียนรู้อย่างซอฟต์แวร์ Azure เพื่อการศึกษา ในขณะที่แกร็บจะสนับสนุนด้านการศึกษาประยุกต์ด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม รวมถึงข้อมูล พร้อมมอบประสบการณ์ในการเรียนรู้ความท้าทายของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านแฮกกาธอนและการฝึกงาน

  • Grab และ Microsoft ประกาศพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยแห่งอินโดนีเซีย และวิทยาลัยเทคโนโลยีบันดุงในการสนับสนุนโปรแกรมที่ได้รับการรับรองจากไมโครซอฟท์ โดยคาดว่าจะมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นภายใน 6 เดือนหลังจากนี้

สนับสนุนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และครอบครัวให้ประสบความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการพัฒนาทักษะดิจิทัล

  • Grab จะสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ สามารถเข้าเรียนหลักสูตรพัฒนาทักษะออนไลน์ของ Microsoft ได้ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ โดยจะสามารถเรียนคอร์สพื้นฐาน เช่นความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ การใช้อินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น  หลังจากจบแล้ว จะได้รับประกาศนียบัตรจาก Microsoft โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

  • โดยจะเริ่มเปิดตัวด้วยภาษาอังกฤษใน Grab Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอบรมออนไลน์ในแอปพลิเคชัน Grab ก่อนที่จะเปิดตัวภาษาอื่นๆ ปีหน้า

  • Microsoft และ Grab จะร่วมมือกับมูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) และศูนย์การเรียนรู้ Empire Code เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคน โดยเฉพาะบุตรและคู่สมรสของพาร์ทเนอร์ Grab ในการเข้าถึงการศึกษาคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมผ่านแพลตฟอร์ม FutureReadyASEAN 

ปูทางให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สามารถทำงานในสายเทคโนโลยีได้ ด้วยการสนับสนุนจาก Generation: You Employed ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในระดับโลก

  • Grab และ Microsoft จะปูทางให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่สนใจในอาชีพด้านเทคโนโลยี โดยการสนับสนุนจาก Generation: You Employed  องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านการสร้างทักษะในการทำงาน โดยโปรแกรมนี้จะครอบคลุมถึง หลักสูตรการฝึกปฎิบัติพัฒนาโดย Generation และยังเปิดโอกาสให้ได้รับประกาศนียบัตรจากไมโครซอฟท์ ซึ่งผู้ที่เรียนจบโครงการนี้สามารถสัมภาษณ์งานกับบริษัทพันธมิตรของ Grab และ Microsoft ได้ในตำแหน่งด้านเทคโนโลยี

  • โครงการทดลองแรกจะเริ่มในประเทศสิงคโปร์ซึ่งจะเพิ่มทักษะให้กับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่จำนวน 100 คน โดยจะเริ่มฝึกอบรมกลุ่มแรกในปีเดือนมิถุนายนปีหน้า นอกจากนี้โปรแกรมนี้ยังจะได้รับการบรรจุในแผนการของโครงการ SkillsFuture ของการพัฒนาแรงงานและสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสนับสนุนการทำงานของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ Grab ชาวสิงคโปร์อย่างเป็นระบบ และจะเปิดตัวในประเทศอื่นหลังจากการประเมินโครงการแรก

ตอบสนองผู้ที่มีความพิการ

หัวใจหลักของโปรแกรม ‘Grab เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’  คือการที่ทุกคน ไม่ว่าจะมีภูมิหลังอย่างไรหรือศักยภาพด้านไหน  ก็สามารถได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล

ตั้งแต่วันนี้ แกร็บจะขยายโครงการ ‘Break the Silence’ ไปยังอินโดนีเซียและสิงคโปร์ รวมถึงการพัฒนาโครงการในมาเลเซียและไทยที่กำลังดำเนินการอยู่ โดย Grab มีพาร์ทเนอร์หูหนวกมากกว่า 500 คนบนแพลตฟอร์ม และวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนอีก 2 เท่าภายในปีต่อมา

โดยในสัปดาห์หูหนวกโลกปีนี้ (วันที่ 23 – 30 กันยายน) Grab จะเปิดตัวการเป็นพันธมิตรกับ Gerkatin ในอินโดนีเซีย สหภาพคนหูหนวกแห่งมาเลเซีย สมาคมคนหูหนวกแห่งสิงคโปร์ และสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนหูหนวกและผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินในภูมิภาค

บัมยัง ปราเซโย ประธานคณะกรรมการสวัสดิการและผู้หูหนวกแห่งอินโดนีเซีย (IAWD/Gerkatin) กล่าวว่า “การหาโอกาสในการเพิ่มรายได้เป็นความท้าทายสำหรับชุมชนของเรา สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ คือการขาดอุปกรณ์สนับสนุนในการสื่อสารภาษามือเพื่อสนับสนุนคนหูหนวกในการทำงาน เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่องค์กรเช่น Grab ต้อนรับเราในการเป็นผู้ขับขี่บนแพลตฟอร์ม ผู้ค้าและพาร์ทเนอร์ผู้ส่งของ การเป็นพันธมิตรกับแกร็บช่วยสร้างพลังให้กับสมาชิกในชุมชนของเราให้มีความมั่นใจในความสามารถและมีอิสระทางการเงิน สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ เรามีความเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญสำหรับประเทศอินโดนีเซียในการเดินหน้าเป็นหนึ่ง”

Grab กำลังดำเนินการพัฒนากระบวนการและฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชันเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับผู้โดยสารได้ง่ายขึ้น รวมถึงฟีเจอร์แชท (ดูได้จาก ภาคผนวก B) โดยเฉพาะ ในมาเลเซีย แกร็บจะผลิตพจนานุกรมสัญลักษณ์เพื่อให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไปในการสื่อสารกับชุมชนคนหูหนวกผ่านทางวิดเจ็ตในแอปพลิเคชันแกร็บรวมถึงการอบรมรายเดือนแก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ในการช่วยผู้โดยสารที่มีความพิการ

อัล โคซาร์ วิราวัน พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่หูหนวกของ Grab กล่าวว่า “ผมถูกเลิกจ้างจากงานเก่าเพราะความบกพร่องทางการได้ยิน การหาแหล่งรายได้ใหม่ถือเป็นเรื่องยากลำบากจนกระทั่งผมรู้จักแกร็บ ตอนนี้ผมเป็น(พาร์ทเนอร์)ผู้ขับขี่ Grab มาปีกว่าแล้วและไม่เคยรู้สึกว่าตัดสินใจผิดเลย ผมอยากขอบคุณแกร็บสำหรับโอกาสดีๆ แบบนี้ และผมมีความสุขมากที่แกร็บพยายามหาทางพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น”

ฮุย หลิง ตัน กล่าวว่า “ปัจจุบัน มีผู้พิการเกือบ 800 คน ทั้งคนหูหนวก สมองพิการ หรือผู้ที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว ที่สามารถเข้าถึงโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มแกร็บ พวกเขาให้บริการลูกค้าของเราในฐานะพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่หรือผู้ส่งของ ไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่พบเจอ ความยืนหยัดทำให้พวกเขาเป็นอิสระทางการเงิน ซึ่งแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนอย่าง Grab ไม่เคยกีดกันใคร ในทางตรงกันข้าม เราเปิดประตูแห่งโอกาสให้กว้างยิ่งขึ้น”

เพื่อรองรับความต้องการของผู้พิการ Grab เปิดตัว GrabGerek บริการการเดินทางสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ ในอีก 2 เมืองของอินโดนีเซีย โดย GrabGerek จะเปิดตัวในเมืองเมดานและเมืองเซอมารังในเดือนธันวาคมปีนี้

Grab ยังมีบริการการเดินทางสำหรับผู้ที่มีความต้องการการเข้าถึงที่แตกต่างกันไปในสิงคโปร์และไทย คือ GrabAssist พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่จะได้รับการอบรมพิเศษรวมถึงการดูแลรถเข็น ไม้เท้าช่วยเดิน เก้าอี้รถเข็นไฟฟ้าและอุปกรณ์ช่วยเคลื่อนไหวอื่นๆ การช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายระหว่างรถเข็นและพาหนะ ภาษามือขั้นต้นเพื่อสื่อสารกับผู้พิการทางการได้ยินเกี่ยวกับเส้นทางและจุดหมายปลายทาง และสิ่งที่ควรระวังอื่นๆ เช่น สิ่งที่ควรพูดและไม่ควรพูด

 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

10 Tech Event ในเอเชีย ที่สายเทคฯ ธุรกิจ ไม่ควรพลาด ปี 2024

เพราะเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง องค์กรจึงต้องหมั่นอัปเดตเทรนด์ความรู้ใหม่ ๆ วันนี้ Techsauce คัดสรร 10 งานประชุมเทคโนโลยีระดับเอเชีย ที่สายเทคไม่ควรพลาดในปี 2024 รวมไว้ในบทความเดียวก...

Responsive image

SCBX ไตรมาส 1 ปี 67 กำไร 11,281 ล้านบาท เตรียมลุย 'Virtual Bank' พร้อมก้าวสู่องค์กร AI-First Organization

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ของปี 2567 จำนวน 11,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน...

Responsive image

เปิดตัว Meta AI ใหม่ ถามได้ทุกเรื่อง สร้างภาพได้ทุกอย่าง ใช้ได้ทุกแอปฯ​ โซเชียลของ Meta

สำหรับ Meta AI เป็นแชทบอทที่เคยเปิดตัวให้เห็นครั้งแรกในงาน Connect 2023 ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) อย่าง Llama 2 แต่ล่าสุดได้มีการอัปเกรดไปใช้โมเดลภาษาใหม่ Llama 3...