Nokia ส่งฟีเจอร์โฟน รุ่น Nokia 110 4G และ 105 4G อัปเกรดใหม่ ชี้ตลาดยังมีดีมานด์ | Techsauce

Nokia ส่งฟีเจอร์โฟน รุ่น Nokia 110 4G และ 105 4G อัปเกรดใหม่ ชี้ตลาดยังมีดีมานด์

HMD Global ประเทศไทย พร้อมจำหน่าย Nokia 110 4G (2023) และ Nokia 105 4G (2023)  อัพเกรดสเปคใหม่ ดีครบเครื่อง สวย คงทนเหมือนเดิม รองรับเครือข่าย 4G ใช้งานสองซิม บันทึกการโทรอัตโนมัติ ดีไซน์ตัวเครื่องเน้นความคลาสสิกแต่ร่วมสมัย โค้งมน พื้นผิวนาโน เฉดสีทันสมัย หน้าจอขนาด 1.8 นิ้ว พร้อมโหมดซูมขยายเอาใจผู้สูงวัย ปุ่มกดขนาดใหญ่ใช้งานง่ายมากขึ้น อัพเกรดลำโพงให้ดังขึ้น เพิ่มความจำสูงสุดถึง 32 GB บันทึก MP3 ได้กว่า 1,000 เพลง มีวิทยุ FM พร้อมเกมงูสุดคลาสสิก แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 1450 mAh ใช้งานได้ยาวนาน เน้นกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการเครื่องสำรอง ผู้สูงอายุ และกลุ่มองค์กร พบฟีเจอร์โฟนยังมีดีมานด์ ผู้บริโภคเริ่มมองหาฟีเจอร์โฟน เพื่อออกห่างจากโซเซียลและสมาร์ทโฟน 

 

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) กล่าวว่า โทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟนยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุในประเทศที่มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น และกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือปุ่มกด เน้นใช้งานง่าย ตัวอักษรมองเห็นชัดเจน แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานได้นาน สามารถฟังเพลงและฟังวิทยุได้ตลอดทั้งวัน รวมไปถึงวัยทำงานซึ่งต้องการใช้เป็นเครื่องสำรองที่สามารถใช้งานได้นานไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดเร็ว รวมไปถึงลูกค้ากลุ่มบริษัทและองค์กรที่มองหามือถือสำหรับใช้ในการทำงาน ปัจจุบัน โนเกีย ยังคงเป็น ผู้นำตลาดมือถือ ฟีเจอร์โฟนทั่วโลก และในประเทศไทย คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยพบว่าคนกลุ่ม Gen Z ในอเมริกาเริ่มหันมาให้ความสนใจซื้อฟีเจอร์โฟน สำหรับใช้งานมากขึ้น เนื่องจากต้องการลดการติดสมาร์ทโฟน หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อลดความเครียดจากการใช้สมาร์ทโฟนและโซเซียลมีเดียตลอดเวลา ทำให้ผู้บริโภคเริ่มเลือกใช้ฟีเจอร์โฟนเพื่อเว้นระยะจากโซเซียลมีเดียต่าง ๆ  

 

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) 

ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาด ให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงการใช้งานโทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟน ที่สามารถรองรับการใช้งานเครือข่าย 4G ที่มีความเสถียรในการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น โนเกียได้อัพเกรด Nokia 110 4G (2023) และ Nokia 105 4G (2023) ทั้งสเปคภายในและภายนอก ดีไซน์โดดเด่นสอดรับไลฟ์ไตล์คนรุ่นใหม่ กลับมาปลุกตลาดฟีเจอร์โฟนในประเทศไทยอีกครั้ง โดยจะจำหน่ายฟีเจอร์โฟนทั้ง  2 รุ่น สุดคุ้มเริ่มต้นราคา Nokia 105 4G (2023) ราคา 1,290.- และ Nokia 110 4G (2023) ราคา 1,350.- บาท  ด้วยฟังก์ชันเครื่องเกินราคา พร้อมเน้นคุณภาพการใช้งานทนทาน ที่ผ่านการทดสอบความทนทานอย่างเข้มงวด ใช้งานได้นานอย่างมั่นใจ 

Nokia 110 4G (2023)  และ Nokia 105 4G (2023) อัพเกรดรองรับการใช้งานเครือข่าย 4G ที่มีเสถียรภาพในการเชื่อมต่อมากยิ่งขึ้น หน้าจอขนาด 1.8 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีการแสดงผล IPS เพิ่มการมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีโหมดซูมขยายตัวหนังสือให้เห็นชัดขึ้น คุณภาพเสียงสัมผัสการโทรที่ชัดเจนด้วยระบบ HD ที่เพิ่มแบนด์วิดท์เป็นสองเท่าพร้อมบันทึกการโทรอัตโนมัติ สแตนด์สบายใช้งานได้นานสะใจกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 1450 mAh แม้อยู่ในการใช้งานบนเครือข่าย 4G มีโหมดประหยัดแบตเตอรี่ พร้อมรองรับการใช้งานสองซิมการ์ด และสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 32GB

ทั้งนี้ ด้านปุ่มกดยังเน้นขนาดใหญ่เป็นเอกลักษณ์ให้สัมผัสใช้งานง่ายมากขึ้น ซึ่งทําให้การส่งข้อความเป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยเฉพาะผู้สูงวัย และในส่วนของตัวเครื่องภายนอกออกแบบเน้นความคลาสสิกแต่ร่วมสมัย พร้อมพื้นผิวนาโนที่ดูดี และสัมผัสที่ดีในมือของผู้ใช้งาน ปรับเฉดสีที่ทันสมัยโดดเด่นสะดุดตา ประกอบกับดีไซน์มีความโค้งมน เพื่อง่ายต่อการใช้งาน จับถนัดกระชับมือ และสำหรับระบบการเชื่อมต่อที่รองรับ Bluetooth พร้อมไฟฉายในตัวเครื่อง วิทยุรองรับสัญญาณคลื่น FM หรือ MP3 ที่สามารถโหลดเพลย์ลิสต์ได้มากกว่า 1,000 เพลง โดยมีโหมดทั้งไร้สายและแบบมีสาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมด้วยเกมงูสุดคลาสสิก

อย่างไรก็ดี แม้ Nokia 110 4G (2023) และ Nokia 105 4G (2023) จะเหมือนกันเป็นแฝดพี่แฝดน้อง แต่ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นคือ กล้องถ่ายภาพที่มีเฉพาะใน Nokia 110 4G (2023) เท่านั้น โดยมาพร้อมกล้องหลังที่มีความละเอียด QVGA ซึ่งนับเป็นความละเอียดที่เพียงพอจะใช้ในการถ่ายภาพ และส่งข้อความในรูปแบบ MMS ไปให้แก่เพื่อน หรือลูกหลานได้อย่างรวดเร็วการใช้งานบนเครือข่าย 4G

สำหรับ Nokia 110 4G (2023) มาพร้อมลวดลายพื้นผิวนาโน ให้เลือก 2 สี คือ Midnight Blue (สีน้ำเงิน) และสี Arctic Purple (สีม่วง) และยังคงเน้นความทนทานต่อรอยขีดข่วนในการใช้งาน ในราคาเพียง 1,350.- และ Nokia 105 4G (2023) มีให้เลือก 2 สี Charcoal (สีเทาดำ) และ Ocean Blue (สีฟ้า) ในราคาเพียง 1,290.-  พร้อมจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ร้าน TG FONE (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ) และ Nokia Official Store ในช่องทางออนไลน์ อาทิ Shopee / Lazada ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “Nokia 110 4G (2023) และ Nokia 105 4G (2023)” อัพเกรดสเปคใหม่ ได้ที่ https://www.nokia.com/phones/th_th/feature-phones


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...