CEO Amazon กลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่

Jeff Bezos, CEO Amazon กลายเป็นเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ จากการจัดอันดับของ Bloomberg Billionaires Index ส่วน Mukesh Ambani เศรษฐีจากธุรกิจ Telco ในอินเดีย มีมูลค่าทรัพย์สินตีตื้น Jack Ma แล้ว Photo: Amazon

Jeff Bezos  ผู้ก่อตั้งและ CEO ของเว็บไซต์ E-Commerce อย่างบริษัท Amazon ในวัย 54 ปี มีมูลค่าทรัพยืสินพุ่งไปสูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจากการจัดอันดับของ Bloomberg Billionaires Index

ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินของ Bezos ตอนนี้ก็มีมากกว่ามูลค่าทรัพย์สินของ Bill Gates เศรษฐีอันดับสองของโลกและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Microsoft อยู่ที่ 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Bezos ตอนนี้ เคยอยู่จุดเดียวกับที่ Gates เคยยืนอยู่เมื่อปี 1999 ในเวลายุคดอทคอมกำลังบูม ซึ่งในเวลานั้น Gates มีทรัพย์สินอยู่ที่ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าคิดค่าเงินเฟ้อเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้วจะพบว่า Gates ในเวลานั้นมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 1.49 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทำให้ CEO ของ Amazon ผู้นี้รวยที่สุดนับตั้งแต่การบันทึกเศรษฐีของโลกโดย Forbes ที่เริ่มเผยอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 1982

ส่วนเศรษฐีจากธุรกิจด้านพลังงานที่ชื่อว่า Mukesh Ambani ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท Reliance Industries ในอินเดีย มีมูลค่าทรัพย์สินตีตื้น Jack Ma ขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับ 1 ของเอเชียแล้ว แต่ในวันนี้ก็ร่วมลงมาเป็นรองอีกครั้ง

อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg (1) (2)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

SCBX ประกาศ ดร.อารักษ์ นั่งซีอีโอคนต่อไป มีผล 1 มกราคม 2570

SCBX ประกาศแต่งตั้ง ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่ เริ่ม 1 มกราคม 2570 รับไม้ต่อนายอาทิตย์ นันทวิทยา พร้อมเดินหน้าสู่ยุคใหม่ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี...

Responsive image

จีนปักธงรถยนต์ต้องใช้ชิปจีน ที่ผลิตในประเทศ 100% ด้าน BYD, Geely นำทัพใช้ภายในปี 2026

จีนเร่งเครื่องยุทธศาสตร์ชาติ! ค่ายรถยักษ์ใหญ่ BYD, Geely, SAIC ตั้งเป้าผลิตรถยนต์จะใช้ชิปจีนที่ผลิตในประเทศ 100% ภายในปี 2026 เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก...

Responsive image

วิจัยชี้ ChatGPT ทำสมองขี้เกียจ ใช้บ่อย ๆ อาจทำให้มนุษย์คิดเองไม่เป็น

ChatGPT ไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้นเสมอไป แต่กำลังสร้าง “หนี้ทางความคิด” ที่อาจทำให้เราคิดเองไม่เป็นในระยะยาว...