จากกรณีการควบรวมกิจการระหว่าง Grab กับ Uber ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดคุณธรินทร์ ธนียวันกรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย ได้ส่งจดหมายถึงสื่อมวลชนโดยมีเนื้อหาใจความสำคัญดังนี้
"จนถึงเวลานี้ ทุกท่านคงได้รับทราบข่าวสารเกี่ยวกับการที่แกร็บได้ทำการควบรวมกิจการของอูเบอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ผมจึงขอถือโอกาสนี้เล่าถึงส่วนหนึ่งของความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าที่ผมมีอยู่ให้ท่านทราบ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นของทีมงานเราในประเทศไทย และเพื่อให้ท่านทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกในอนาคต
ประการแรก ในฐานะที่แกร็บเป็นบริษัทที่เกิดและเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นบริษัทจดทะเบียนอย่างถูกต้องในประเทศไทย ผมเชื่อว่า การพัฒนาที่เกิดขึ้นครั้งนี้คือการเติบโตครั้งสำคัญอีกก้าวหนึ่งสำหรับพวกเราทุกคน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะจากมุมมองของผมในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท แกร็บ ประเทศไทย เท่านั้น แต่เพราะแกร็บเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่เกิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มธุรกิจในภูมิภาคภายในเวลาเพียงไม่ถึง 6 ปี ก่อนที่จะเข้ามาให้บริการในประเทศไทยเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จะมีใครคาดคิดว่า บริษัทที่เริ่มต้นในภูมิภาคของเราจะมาได้ไกลจนถึงวันนี้ ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แกร็บกำลังมุ่งสู่เป้าหมายตามแผนที่เราวางไว้ นั่นคือ การก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มให้บริการเรียกรถโดยสาร รับส่งอาหาร และบริการด้านการเงิน ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันสำหรับพวกเราชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนที่อยู่ใน 195 เมืองของทั้ง 8 ประเทศทั่วภูมิภาคเช่นกัน
การที่เราได้รวมทีมงานของอูเบอร์เข้ามาในบริษัทฯ ของเรานั้น ถือเป็นพลังที่จะช่วยขับเคลื่อนความตั้งใจของเราที่จะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แกร็บ มีความเชื่อมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ว่า เราต้องมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการของเราในทุกขั้นตอนเพื่อให้เราสามารถนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า การที่เราสามารถควบรวมกิจการในครั้งนี้ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า การที่แกร็บที่ยึดมั่นความต้องการของผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราเป็นหลักเป็นเรื่องที่เราเดินมาถูกทางแล้ว
เราคาดหวังว่า การควบรวมกิจการครั้งนี้ จะผลักดันให้เกิดประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารของเรา ด้วยจำนวนผู้เรียกใช้บริการและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่มากขึ้น เราจะสามารถให้บริการรับส่งที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งนั่นก็ยังหมายความว่า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลมากขึ้น ในขณะที่ผู้โดยสารของเราเองก็จะมีความไว้วางใจในบริการของเรามากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ผู้ใช้รายใหม่ของแกร็บก็จะได้รับประโยชน์จากบริการพิเศษ เพราะแกร็บมีโปรแกรมสะสมแลกคะแนน “แกร็บรีวอร์ดส” (GrabRewards) สำหรับผู้โดยสาร และโครงการ “Better365” สำหรับพาร์ทเนอร์ ผู้ขับขี่ ในขณะที่ แกร็บรีวอร์ดส จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารและช่วยให้เงินที่จับจ่ายผ่านการเดินทางกับเรามีมูลค่ามากขึ้น โครงการ Better365 ก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่ของเราได้รับสิทธิประโยชน์ที่ดีขึ้นมากมาย จากบริการสนับสนุนและช่วยเหลือต่างๆ ที่เรามอบให้ ซึ่งรวมถึงโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่รายอื่นเป็นระยะๆ เช่น กิจกรรมการฝึกอบรมพิเศษ วันกิจกรรมกีฬา ตลอดจนงานอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ได้มารวมตัวและพบปะสังสรรค์กัน ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีโอกาสนำเสนอสิ่งเหล่านี้กับสมาชิกผู้โดยสารและผู้ขับขี่ใหม่ทั้งหมด
นอกจากนี้ ในอนาคต เราจะเดินหน้าผลักดันให้เกิดการเติบโตในก้าวใหม่ นั่นคือ การให้บริการที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบริการการเดินทาง การชำระเงิน การสั่งอาหารมารับประทาน หรือการหารายได้เพิ่มเพื่อดูแลครอบครัว โดยในปัจจุบัน แกร็บ ได้ให้บริการแก่ผู้คน 90 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยให้บรรดาพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พันธมิตรคู่ค้ารายย่อย และตัวแทน รวมกว่า 5 ล้านคน สามารถหารายได้ได้ ขณะนี้ เรากำลังดำเนินการขยายบริการ “แกร็บฟู้ด” (GrabFood) เพื่อมอบโอกาสในการทำงานรับส่งอาหารแก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ และมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณที่ทุกท่านได้ให้ความไว้วางใจและให้การสนับสนุนแกร็บด้วยดีมาโดยตลอด ขอบคุณที่เป็นพลังผลักดันให้เราเดินหน้าทำในสิ่งที่ดีมาจนถึงทุกวันนี้ และขอบคุณที่ให้โอกาสเราได้นำเสนอบริการต่างๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของท่าน แกร็บ ยังมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอีกมากมาย ซึ่งผมจะนำมาแจ้งให้ท่านอีกแน่นอนในอนาคตอันใกล้ครับ"
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด