เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา Mojang Studios ผู้พัฒนาเกม Minecraft ได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ทางการว่าพวกเขาจะไม่ซัพพอร์ต NFTs และผลิตภัณฑ์ใด ๆ จาก Blockchain ทั้งสิ้น เพราะจากการประเมินคุณสมบัติพบว่าไม่เหมาะสมตรงกับเป้าหมาย ค่านิยม และความเชื่อของเกม Minecraft 

โดยระบุว่าการกำหนดราคาและการเก็งกำไรเพื่อลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ NFTs จะทำให้คนหลุดโฟกัสกับการเล่นเกม และไปโฟกัสที่การเก็งกำไรแทน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันไม่สอดคล้องกับความสุขและความสำเร็จในระยะยาวของผู้เล่น

NFTs คือ โทเคนรูปแบบหนึ่งที่ทำงานบนระบบบล็อกเชน ซึ่งมีเป้าหมายที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น ดิจิทัลไอเท็มที่มีเอกลักษณ์ ภาพกราฟิก หรือตัวอวตารบนวิดีโอเกม

 โดยในปีที่ผ่านมา NFTs มีมูลค่าพุ่งหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เม็ดเงินหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม NFTs ได้รับการโต้เถียงจากหลายวงการ โดยเฉพาะในหมู่เกมเมอร์ และบริษัทอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายในการผสมผสานเทคโนโลยีนี้เข้าไปในเกมของตนเอง เช่นบริษัท Ubisoft Entertainment Sa นอกจากนี้ยังตกเป็นเป้าหมายในการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากหน่วยงานที่คอยกำกับดูแลผู้บริโภคในวงกว้าง เพราะลักษณะในการเก็งกำไร ที่ผู้ซื้อขายมีเป้าหมายเข้ามาเพื่อทำกำไรอย่างรวดเร็ว 

Mojang กล่าวว่า “NFTs ไม่สอดคล้องกับค่านิยมและความเชื่อของ Minecraft และเพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้เล่น Mincraft จะได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและได้มีส่วมร่วมกันอย่างทั่วถึง จะไม่มีการอนุมัติเทคโนโลยีบล็อกเชนให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์ของเรา ไม่อนุญาตและไม่ยินดีให้สร้าง NFTs ที่เกี่ยวข้องกับเกมไม่ว่าจะทางใดก็ตาม” 

หลังจากที่ Microsoft ได้เข้าซื้อ Minecraft ในปี 2014 ด้วยราคา 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Minecraft ขึ้นแท่นเป็นเกมที่ขายดีตลอดกาล โดยมียอดขายทั้งหมดมากกว่า 238 ล้านยูนิต โดยบริษัทมีความเชื่อว่าความสำเร็จนี้มาจากการให้ความสำคัญกับการพัฒนาให้เกมเป็นเกมที่เข้าถึงง่ายและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว 

นอกจากนี้ประมาณเดือนก่อน ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft อย่าง Bill Gates ก็ได้ตำหนิ NFTs ว่ามีพื้นฐานมาจาก Greater Fool Theory 100% กล่าวคือ ทฤษฎีภายใต้กลไก NFTs ถูกประเมินค่าสูงเกินไปและราคาจะเพิ่มขึ้นอีก ถ้ามีคนที่โง่กว่าและพร้อมจะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เป็นไปได้ว่าการแบน NFTs จะครอบคลุมเกมและซอฟ์ตแวร์อื่น ๆ ภายใต้เครือด้วยเช่นกัน

อ้างอิง : CNBC , Decrypt