Salesforce ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด "Agentforce" ที่นำเทคโนโลยี AI มาช่วยยกระดับการทำงานในหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขาย การตลาด หรือการให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะการใช้ระบบเจ้าหน้าที่อัตโนมัติ (Autonomous Agents) ที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดภาระงานที่ซ้ำซาก
มาร์ค เบนิออฟ (Marc Benioff) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซลส์ฟอร์ซ กล่าวถึง Agentforce ว่าเป็นการปฏิวัติการพัฒนา AI จากยุคของ Copilot ไปสู่การทำงานอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม "แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการทำงานที่ซับซ้อน และยังช่วยให้สามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ"
1. ระบบ AI ที่เหนือกว่าด้วย Atlas Reasoning Engine
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Agentforce คือ "Atlas Reasoning Engine" ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติงานได้โดยอัตโนมัติ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความซับซ้อนในกระบวนการทำงาน แต่ยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. Low-code: ลดภาระการเขียนโปรแกรม
Agentforce ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างและปรับแต่งตัวแทน (Agent) ได้อย่างง่ายดายผ่านเครื่องมือ Low-code ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างระบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมเชิงลึก
3. การใช้งานที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม
แพลตฟอร์มนี้ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำหลายแห่ง เช่น OpenTable, Saks, และ Wiley โดย Agentforce สามารถผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันขององค์กรได้อย่างราบรื่น ทั้งยังรองรับการทำงานในหลากหลายช่องทาง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับขนาดการให้บริการได้ตามความต้องการ
ตัวอย่างเช่น Wiley ใช้ Agentforce ช่วยในการจัดการบริการลูกค้าด้วยระบบอัตโนมัติ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับแชทบอทแบบเดิม ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
ในขณะเดียวกัน OpenTable ใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเสริมศักยภาพการติดต่อกับลูกค้าของร้านอาหารได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วน Saks ใช้ Agentforce เพื่อพัฒนากลยุทธ์การให้บริการลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกสินค้าลักซ์ชัวรี ทำให้การให้บริการลูกค้าในทุกช่องทางทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หนึ่งในจุดแข็งของ Agentforce คือการทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติของ Salesforce โดยองค์กรสามารถขยายความสามารถของระบบได้อย่างง่ายดายผ่านการใช้เครื่องมือเช่น Salesforce Flow, MuleSoft, และ Apex ทำให้องค์กรสามารถสร้างระบบที่ทำงานอย่างอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์
เครือข่ายพันธมิตรของ Agentforce ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายจากบริษัทพันธมิตรชั้นนำ เช่น Amazon Web Services, Google, IBM, Workday และอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ Agentforce ในการปรับแต่งและขยายศักยภาพของธุรกิจได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า Agentforce นำเสนอการใช้งาน AI ที่ล้ำสมัยและครบวงจรเพื่อให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล ลดภาระงานที่ซ้ำซาก และช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น การผสาน AI กับการทำงานของมนุษย์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรในทุกอุตสาหกรรมสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด