Sam Altman CEO ของ OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT ได้รับเชิญจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเจ้าตัวได้พูดถึงโอกาสในการขยายสำนักงานของบริษัทมาที่นี่และการทำงานร่วมกับรัฐบาลในการดูแลผู้ใช้งานด้วย
การเดินทางมาญี่ปุ่นเป็นการเดินทางออกนอกสหรัฐฯครั้งแรกของ Altman หลังเปิดตัว ChatGPT เมื่อปลายปีที่แล้ว และหลังได้พบกับ Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น CEO ของ OpenAI ก็เผยว่ามีแผนจะเปิดออฟฟิศและขยายบริการของบริษัทมาที่ญี่ปุ่นด้วย พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้
โดยระหว่างพบกันทั้งสองได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับ AI ทั้งในมิติของการพัฒนา ประโยชน์ รวมถึงความเสี่ยงที่จะตามมาด้านความเป็นส่วนตัวและการละเมิดลิขสิทธิ์
"เราหวังว่าจะสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาวญี่ปุ่น ทำให้โมเดลดีขึ้นกว่าเดิมสำหรับภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น" Altman กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยเขาเสริมว่าปัจจุบันมีคนญี่ปุ่นใช้งาน ChatGPT มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน
ด้านทางการญี่ปุ่นเองก็มอง AI เป็นนวัตกรรมสำคัญเช่นกัน โดย Hirokazu matsuno เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกล่าวว่าภาครัฐญี่ปุ่นจะพิจารณาการนำ AI แบบ ChatGPT มาใช้ในการทำงาน เพื่อลดภาระเจ้าหน้าที่ หากข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้รับการแก้ไข
Taro Kono รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของญี่ปุ่นหวังว่าเทคโนโลยี AI จะ มีส่วนร่วมอย่างมากในการปฏิรูปรูปแบบการทำงานของภาครัฐ แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะเอามาใช้เลยในเร็ว ๆ นี้ เพราะยังมีข้อกังวลเรื่องการที่ปัญญาประดิษฐ์อาจให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านข้อมูลของอิตาลีได้ประกาศแบน ChatGPT เนื่องจากข้อสงสัยเรื่องการดึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไปฝึกโมเดลโดยไม่ได้รับการยินยอม และไม่มีมาตรการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึง ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วัน OpenAI ก็เผยแพร่มาตรการปกป้องผู้ใช้งาน และได้สัญญากับทางการอิตาลีในการประชุมร่วมกันแล้วว่าบริษัทจะสร้างมาตรการเพื่อป้องกันข้อกังวลดังกล่าว
บริษัทในญี่ปุ่นแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งที่สนับสนุนให้พนักงานใช้ AI ช่วยทำงาน และฝั่งที่ห้ามอย่างเด็ดขาด เช่น Panasonic Connect ส่งเสริมให้พนักงานใช้ ChatGPT ในการทำงานได้ เช่น ช่วยเตรียมเอกสาร รายงาน ตรวจสอบการเขียนโค้ด ขอคำแนะนำด้านธุรกิจ เป็นต้น และพนักงานจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้วย เพื่อป้องกันความผิดพลาด
นอกจากนั้นบริษัทได้ทำข้อตกลงกับ Microsoft ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์ว่าจะไม่ใช้เนื้อหาที่ป้อนลงไปสำหรับวัตถุประสงค์อื่น เช่น การฝึกอบรม AI และเตือนไม่ให้พนักงานป้อนข้อมูลส่วนตัวลงไป
อีกด้านหนึ่ง ธุรกิจธนาคารอย่าง MUFG Bank, Mizuho Bank และ Sumitomo Mitsui Banking Corp. ไม่อนุญาตให้พนักงานใช้ AI เด็ดขาด เพราะธุรกิจการเงินความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญ และหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ข้อมูลลูกค้าหลุดออกไป หรือ AI ให้ข้อมูลผิดพลาดและส่งผลต่อการบริการ จะสร้างผลเสียมากมายตามมา
อ้างอิง : Reuters , Japantimes
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด