SM Entertainment ร่วมกับ KAIST พัฒนาเทคโนโลยี Metaverse ผสานโลกจริงกับโลกเสมือนไว้ด้วยกัน หนุน K-Pop สร้างปรากฎการณ์ระดับโลก | Techsauce

SM Entertainment ร่วมกับ KAIST พัฒนาเทคโนโลยี Metaverse ผสานโลกจริงกับโลกเสมือนไว้ด้วยกัน หนุน K-Pop สร้างปรากฎการณ์ระดับโลก

ในขณะที่วงการ K-pop และโลก Metaverse ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือนกำลังผนึกรวมเข้าด้วยกันมากขึ้น บริษัท SM Entertainment ก็ได้ร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงของเกาหลี (KAIST) เพื่อการวิจัยในเคสนี้

SM Entertainment

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน บริษัท SM Entertainment ได้ประกาศเซ็นสัญญา MOU เพื่อดำเนินการวิจัยโลก Metaverse ที่สำนักงานใหญ่ KAIST ในเมืองแทจอน โดยมี อี ซูมาน ผู้ก่อตั้งบริษัท SM, ซีอีโอ อี ซองซู และอี กวังฮยอง ซึ่งเป็นประธาน KAIST เข้าร่วมด้วย

กล่าวคือ บริษัท SM และ KAIST วางแผนที่จะเปิดตัวโปรเจ็กต์ร่วมกันเกี่ยวกับคอนเทนต์ด้านบันเทิง, AI และหุ่นยนต์ รวมถึงทำวิจัยการสร้าง Digital Avatar และวัฒนธรรมด้านเทคโนโลยี (Cultural Technology) ด้วย

หัวใจหลักที่สร้าง K-pop ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกก็คือ ‘วัฒนธรรมด้านเทคโนโลยี’

อี กวางฮยอง ประธาน KAIST กล่าวว่า “ผมหวังว่าจินตนาการด้านวัฒนธรรมของ SM จะมาบรรจบกับเทคโนโลยีขั้นสูงของ KAIST ได้อย่างพอดิบพอดี และกลายเป็นผลผลิตทางความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่จะออกสู่ตลาดบันเทิงในอนาคต ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมด้วย”

นอกจากนี้ อี ซูมาน ยังได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘โลกบันเทิงในอนาคตที่ KAIST และ SM อยู่ร่วมกัน’ แก่นักศึกษาสถาบัน KAIST เขากล่าวในช่วงหนึ่งของการบรรยายว่า “หัวใจหลักที่สร้าง K-pop ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกก็คือ ‘วัฒนธรรมด้านเทคโนโลยี’ จากความรู้และประสบการณ์ของผม ผมได้สร้างคอนเซปต์ที่เรียกว่า ‘culture technology (CT)’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับการสร้างคอนเทนต์” และเสริมว่า “SM ใส่ใจถึงความสำคัญในการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ ๆ โดยพยายามที่จะหลอมรวมวัฒนธรรมและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง” และมีการกล่าวถึงคอนเสิร์ต ‘Beyond Live’ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์ของ SM และคอนเทนต์โฮโลแกรมในกรณีตัวอย่างของ CT

อี ซูมานเน้นย้ำว่า “สำหรับชีวิตและอนาคตที่มนุษยชาติอยู่ร่วมกัน วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์จะต้องผนึกรวมเข้าด้วยกันโดยธรรมชาติ ผมคิดว่าโปรดิวเซอร์ในอนาคตก็คือนักวิทยาศาสตร์ด้านวัฒนธรรมนี่เอง” และพูดถึงโลกบันเทิงในอนาคตว่า “จะกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเหล่าคนดังและหุ่นยนต์ และหุ่นยนต์ก็เริ่มมาจากการเป็น Avatar” 

อีกทั้งยังได้กล่าวถึง ‘aespa’ วงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ของค่าย ที่ขณะนี้ได้เริ่มแสดงให้เห็นถึงโลกอนาคตที่ว่านี้แล้ว โดย aespa เป็นวงที่เดบิวต์เมื่อปีที่แล้ว มีคอนเซปต์คือ สมาชิกแต่ละคนในวงจะมี Avatar เป็นของตนเอง ซึ่งตัว Avatar จะมีชื่อว่า ‘ae’ สามารถสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวสมาชิกในชีวิตจริงได้

นอกจาก SM Entertainment แล้ว ล่าสุด ในอุตสาหกรรม K-pop ยังมีการใช้โลก Metaverse กันอย่างแข็งขัน ไม่ว่าจะเป็น HYBE, YG Entertainment และ JYP Entertainment ที่ได้ลงทุนในแพลตฟอร์มแห่งโลกเสมือนจริงนี้ ซึ่งรวมถึง Snow อันเป็นบริษัทย่อยของ Naver ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน Avatar ชื่อว่า ‘Zepeto’ โดยแม้แต่วงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกอย่าง BLACKPINK ก็ยังจัดงานแฟนไซน์ผ่านโลกเสมือนจริงนี้เช่นเดียวกัน

อ้างอิง: allkpop 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สยาม เอไอฯ ได้รับ NVIDIA DGX Blackwell B200 รายแรกในอาเซียน

NVIDIA DGX Blackwell B200 เป็นหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ Siam.AI Cloud ทำให้สามารถรองรับการประมว...

Responsive image

Infineon เสริมแกร่งและกระจายฐานการผลิต ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ในประเทศไทย

Infineon Technologies AG ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (Backend Production) แห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการ การลงทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพื่อเพิ่มประ...

Responsive image

Techsauce จับมือ KUMPUL เสริมแกร่งสตาร์ทอัพไทย-อินโดฯ สู่เวทีโลก

Techsauce และ KUMPUL ได้ร่วมลงนาม MOU อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2025 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสตาร์ทอัพข้ามพรมแดนและนวัตกรรมระดับโลก ผนึกกำลังสร้างระบบนิเวศท...