ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ คนที่ 20 ‘ยุน ซอกยอล (Yoon Suk-yeol)’ วัย 61 ปี อดีตอัยการสูงสุดจากพรรคพลังประชาชน (People Power: PPP) ได้ชนะคู่แข่งอย่างพรรคเดโมเครติกของรัฐบาล (DPK) ด้วยคะแนนที่ต่างกันเพียง 0.8% เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
การได้รับชัยชนะของเขาในครั้งนี้จะส่งผลต่อทิศทางในประเทศเกาหลีใต้อย่างมาก และอาจกระทบไปยังประเทศในกลุ่มเอเชีย (ประเทศเกาหลีใต้มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชียและอันดับ 10 ของโลก) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม Blockchain เนื่องจากระหว่างการหาเสียงเขาสัญญาว่าจะลดกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาและส่งเสริมให้มี Unicorn ในอุตสาหกรรมนี้ และเสนอเพิ่มเกณฑ์ภาษีกำไรจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 4 หมื่นเหรียญสหรัฐ และถ้ามีกำไรจากคริปโตมากกว่า 2 พันเหรียญสหรัฐใน 1 ปี จะต้องเสียภาษี 20% ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในปี 2023
นอกจากนี้เขาจะตรวจสอบการห้ามระดมทุน ICO ในปี 2017 และอาจเรียกคืนโดยวิธีการระดมทุนแบบแยกส่วน เนื่องจาก ICO มักมีปัญหาการหลอกลวงโดยผู้ออกสกุลเงินนำเงินหนีไป (Rug pulls) อีกทั้งเขายังได้รับความนิยมจากการหาเสียงที่เปิดตัว Collection NFT ของตัวเองด้วย
ขณะที่ก่อนหน้านี้ในสมัยของ อดีตประธานาธิบดีอย่าง Moon Jae-In ได้มีนโยบายต่อต้านคริปโตทำให้ปัจจุบันมีการเรียกเก็บเงินที่เกี่ยวข้องกับ crypto อย่างน้อย 14 ฉบับที่หมุนเวียนอยู่ในรัฐสภาเกาหลีใต้ และกฎที่เข้มงวดในอุตสาหกรรมคริปโตทำให้ผู้ประกอบการเกือบ 70 แห่งปิดตัวลงในปีที่ผ่านมา ดังนั้น Yoon Suk-yeol จึงเปรียบเหมือนผู้นำความหวังกลับมาสู่วงการคริปโต แน่นอนว่านโยบายที่เป็นมิตรกับ blockchain ของเขานั้นมีเพื่อดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ยังมีนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างการลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ ลดกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้ตลาดทำงานได้สะดวกขึ้น และกระตุ้นการสร้างงานผ่านภาคเอกชนแทนภาครัฐ
แม้ว่านโนบายต่าง ๆของ Yoon Suk-yeol จะเป็นผลดีต่อวงการธุรกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอุตสาหกรรม blockchain แต่เขาก็ยังมีนโยบายที่ถูกตั้งคำถามจากสังคมไม่น้อยเช่นกันอย่างเช่น การยกเลิกการเก็บภาษีคนรวยที่มีรายได้จากการลงทุนมากกว่า 50 ล้านวอนด้วย (4 หมื่นเหรียญสหรัฐ) ซึ่งอาจทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างชนชั้นมากขึ้น และยังมีประเด็นที่ร้อนแรงอย่างการยุบกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัวที่เป็นที่น่าจับตามอง
ทั้งนี้ทิศทางเศรษฐกิจและสังคมของเกาหลีใต้จะเป็นไปในทิศทางไหนภายในเวลา 5 ปีที่ประธานธิบดีคนนี้ดำรงตำแหน่ง และจะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิง: coindesk, Business Today
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด