Elizabeth Holmes เจ้าของสตาร์ทอัพ Theranos ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง โดยมีการกล่าวในการพิจารณาคดีว่าเธอจงใจโกหกเกี่ยวกับเทคโนโลยีว่าสามารถรู้ผลวินิจฉัยได้จากการตรวจเลือดเพียงไม่กี่หยด ซึ่งเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาซึ่งแต่ละข้อมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี
ในขั้นตอนพิจารณาคดีได้มีการเรียกพยานมากว่า 30 คนเพื่อพิสูจน์ว่า Holmes รู้อยู่แล้วว่าเครื่อง Edison ที่ขายให้กับนักลงทุนเป็นสิ่งลวงโลกแต่เธอยังคงเพิกเฉย และบอกกับนักลงทุนว่าเทคโนโลยีของเธอกำลังถูกพัฒนาไปตามแผนการที่วางไว้
สำหรับสตาร์ทอัพ Theranos เคยมีมูลค่าบริษัทถึง 9 พันล้าน และเคยเป็นที่ชื่นชอบของวงการเทคโนโลยีชีวภาพ และ Silicon Valley ทั้งยังเคยระดมทุนได้มากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ จากบรรดามหาเศรษฐีในหลายวงการ อย่างเช่น Rupert Murdoch จากวงการสื่อ และ Larry Ellison แห่งวงการเทคโนโลยี
บริษัท Theranos เคยประกาศว่าจะเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมสุขภาพด้วยเครื่องที่สามารถตรวจหาโรคอย่างมะเร็งและเบาหวานด้วยเลือดเพียงไม่กี่หยด ซึ่งคำอ้างเหล่านี้ก็ได้ถูกเปิดโปงในปี 2015 หลังจากการขุดคุ้ยของ The Wall Street Journal ได้รายงานว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจเลือดนั้นไม่สามารถใช้งานได้จริง
Holmes ประสบความสำเร็จอย่างมากถึงขั้นที่ Inc. Magazine ขนานนามว่าเป็น Steve Jobs คนต่อไป ทั้งยังได้รับการยกย่องจาก Forbes ว่าเป็น มหาเศรษฐีหญิงอายุน้อยที่สุดในโลกที่สร้างตัวเองขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังติดอันดับรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลปีของ 2018 จากนิตยสาร Time แต่บริษัทของเธอก็ได้หยุดดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2018 หลังเรื่องราวสุดอื้อฉาวของบริษัท
ในการตัดสินครั้งนี้เธอยอมรับในส่วนของความผิดพลาดของเครื่อง Edison แต่ยังคงยืนยันว่าเธอไม่รู้เห็นในเรื่องการหลอกลวงผู้ป่วยและบรรดานักลงทุน พร้อมกล่าวโทษอดีตหุ้นส่วนที่เป็นแฟนเก่าของเธอ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรที่ผิดพลาดที่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของความล้มเหลวของสตาร์ทอัพ Theranos
อ้างอิง BBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด