Photo: Volkswagen

ก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ได้เริ่มเปิดตัวบริษัทลูกที่ชื่อว่า MOIA ในปี 2016 เน้นให้ความสำคัญกับบริการเรียกรถผ่านแอป (Ride-hailing) และบริการเรียกรถเพื่อเดินทางไปร่วมกัน (Car-pooling) และเตรียมเปิดอีกหนึ่งบริการเพื่อให้ครบวงจรมากขึ้น นั่นคือ "บริการให้เช่ารถยนต์" (Car-sharing) ภายใต้แฟลตฟอร์มที่ชื่อว่า 'WE' ซึ่งดำเนินกิจการโดย Urban Mobility

ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ จะถือเป็นการชนกับคู่แข่งอย่าง DriveNow และ Car2Go ที่ให้บริการในเยอรมนีมาก่อนแล้ว ซึ่งเตรียมรวมกิจการ Car-sharing เข้ากับ BMW และ Daimler อีกด้วย

โดยโฟล์คสวาเกนกล่าวว่า ที่ผ่านมาว่าบริการให้เช่ารถยนต์ดังกล่าวเตรียมเริ่มให้บริการตามเมืองต่างๆ ของประเทศเยอรมนีในปี 2019 อีกทั้งยังเตรียมขยายบริการดังกล่าวไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ ในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย ภายในปี 2020 โดยเน้นให้บริการรถยนต์จากโฟล์คสวาเกนเป็นส่วนใหญ่

ดูเหมือนว่าตอนนี้โฟล์คสวาเกนพยายามเดินหน้าต่อหลังจากเคยเกิดเรื่องอื้อฉาวกรณีข้อมูลการปล่อยมลพิษของรถยนต์ดีเซลของโฟล์คสวาเกนในช่วงปี 2015 ซึ่งผลกระทบดังกล่าวยังคงมีอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนี และทำให้ทุกค่ายรถยนต์ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป คือ ไม่ต้องการซื้อรถยนต์เป็นของตัวเองมากขึ้น

Herbert Diess, CEO คนใหม่ของ Volkswagen ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญที่โฟล์คสวาเกนต้องเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้เร็วขึ้น และสร้างสิ่งใหม่ๆ ด้านต่างๆ ให้เกิดขึ้น เช่น Mobility Services ตัวใหม่ ซึ่งโฟล์คสวาเกนก็ส่งสัญญาณแล้วว่าต้องการมีส่วนร่วมในกลุ่มธุรกิจแห่งอนาคตอันนี้

นอกจากนี้ Renault ก็ประกาศแผนในวันพุธว่าจะเปิดตัวโครงการ Ride-hailing และ Car-sharing เพื่อให้บริการครอบคลุมเมืองหลวงต่างๆ และพื้นที่โดยรอบของฝรั่งเศสภายในเดือนกันยายน

ส่วน Renault และ PSA (ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ Peugeot) กำลังร่วมเสนอโครงการให้เช่ารถยนต์ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อแทนที่บริการของ Autolib บริการ Electric Car Sharing ที่ดำเนินการโดยกลุ่ม Vincent Bollore ที่รวมเอาผู้ประกอบการจากฝรั่งเศสเข้ามาร่วมให้บริการ ซึ่งต่อมายุติการให้บริการไปหลังจากมีข้อพิพาทกับเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นนั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก Volkswagen และ Reuters