Generative AI พิสูจน์แล้วใช้งานได้จริง! NTT DATA เผยองค์กรพร้อมลงทุน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพทางธุรกิจ | Techsauce

Generative AI พิสูจน์แล้วใช้งานได้จริง! NTT DATA เผยองค์กรพร้อมลงทุน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพทางธุรกิจ

NTT DATA เผยผลวิจัย Generative AI หมดช่วง “ลองใช้” พบองค์กรทั่วโลกกำลังเปลี่ยนจากการทดลอง สู่การลงทุนจริงจังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ

NTT DATA เผย Generative AI  หมดช่วงทดลอง องค์กรพร้อมลงทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจอย่างจริงจัง

  • 97% ของ CEO ทั่วโลกคาดว่า GenAI จะส่งผลกระทบสำคัญต่อธุรกิจ
  • 99% ขององค์กรทั่วโลก รวมถึงใน APAC มีแผนลงทุนเพิ่มเติมใน GenAI
  • ในประเทศไทย กว่า 90% ระบุว่าโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน GenAI อย่างมีประสิทธิภาพ

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 15 พฤศจิกายน 2024 – NTT DATA (เอ็นทีที ดาต้า) ผู้นำระดับโลกด้านบริการธุรกิจดิจิทัลและ IT เปิดเผยผลการวิจัยครั้งสำคัญเกี่ยวกับ Generative AI (GenAI) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรหลายแห่งกำลังเปลี่ยนจากการทดลองไปสู่การใช้งานจริงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ รวมถึงยกระดับวัฒนธรรมองค์กร การปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความปลอดภัย และความยั่งยืน

รายงานเรื่อง GenAI ระดับโลก: องค์กรกำหนดเส้นทางชีวิต GenAI ในปี 2025 ไว้อย่างไร? หรือ “Global GenAI Report: How organizations are mastering their GenAI destiny in 2025” พบว่าเกือบทุกองค์กรที่ทำการสำรวจได้เริ่มลงทุนใน GenAI แล้ว โดย 83% (94% ใน APAC) ได้จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน GenAI เพื่อพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีนี้ในระดับองค์กรผ่าน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย:

  • การให้คำแนะนำและการจัดการองค์ความรู้แบบเฉพาะบุคคล
  • การควบคุมคุณภาพ
  • การวิจัยและพัฒนา (R&D)

สำหรับเอเชียแปซิฟิก ยูสเคสการใช้งานหลักของ GenAI ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประกอบด้วย:

  • การวิจัยและพัฒนา (R&D) 
  • การให้คำแนะนำและการจัดการองค์ความรู้เฉพาะบุคคล 
  • การทำกระบวนการให้เป็นอัตโนมัติ (Process automation)

ยูทากะ ซาซากิ ประธานและ CEO ของ NTT DATA Group กล่าวว่า “อนาคตนั้นชัดเจน Generative AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือธรรมดา แต่เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง เมื่อเราก้าวข้ามช่วงการทดลองไปแล้ว องค์กรต้องเดินหน้าด้วยความรอบคอบ หากเราดำเนินการเร็วเกินไป อาจเกิดผลกระทบที่ไม่คาดคิด แต่ถ้าช้าเกินไปก็อาจล้าหลัง การใช้ GenAI อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราจัดทำแผนงานเพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ GenAI อย่างเต็มที่ เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน”

การสำรวจพบสองในสามของผู้บริหารระดับ C-level ระบุว่า GenAI จะเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างมากใน 6 ด้าน ได้แก่:

  • ผลงานและประสิทธิภาพ
  • ความยั่งยืน
  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบ
  • กระบวนการทางธุรกิจ
  • ความปลอดภัย
  • ประสบการณ์ของพนักงาน

สำหรับเอเชียแปซิฟิก สองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้บริหารระดับ C-suite เชื่อว่า GenAI จะช่วยปรับปรุง 5 ด้านหลัก ได้แก่:

  • ผลงานและประสิทธิภาพ
  • เป้าหมายด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
  • ด้านนวัตกรรม
  • ยกระดับความปลอดภัย
  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบและกระบวนการ

ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลง 

การสำรวจพบว่าวงจรการรวมและบูรณาการเทคโนโลยี GenAI กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยจากการผสมผสานแนวทางการทดลอง การปรับใช้โดยแบ่งเป็นระยะ และการทำโปรเจ็กต์แบบเฉพาะเจาะจง มีแนวโน้มว่าแผนการใช้จ่ายที่เน้นเฉพาะเจาะจงจะเข้ามาแทนที่การทดลองแบบกระจัดกระจายในช่วงไม่นานนับจากนี้ ผลการวิจัยที่สำคัญในส่วนนี้ประกอบด้วย:

  • การสำรวจพบว่า CEO กว่า 97% (99% ในเอเชียแปซิฟิก) คาดหวังผลกระทบที่สำคัญจาก GenAI
  • 70% ของ CEO ทั่วโลก (71% ในเอเชียแปซิฟิก) คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2025
  • 83% ขององค์กร (86% ในเอเชียแปซิฟิก) มีแผนกลยุทธ์เกี่ยวกับ GenAI แต่ 51% (49% ในเอเชียแปซิฟิก) ยังไม่ได้ปรับกลยุทธ์นั้นให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจ ช่องว่างนี้จึงจำกัดผลตอบแทนจากการลงทุน และลดความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ของ GenAI ในปัจจุบัน

ความท้าทายด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมดเห็นด้วยว่า GenAI สามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และปรับปรุงกระบวนการทางการวิจัยและพัฒนาได้ ดังนั้น ในขณะที่เทคโนโลยี GenAI ถูกนำมาใช้และมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว องค์กรทั้งหลายจึงต้องประเมินและพัฒนากลยุทธ์ รวมถึงปรับรูปแบบการดำเนินงานอยู่เสมอ ผลการวิจัยที่สำคัญในส่วนนี้ประกอบด้วย:

  • 90% ของผู้ตอบแบบสอบถาม (91% ในเอเชียแปซิฟิก) ระบุว่าโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน GenAI
  • CIO และ CTO กว่า 96% (97% ในเอเชียแปซิฟิก) เชื่อว่าโซลูชันบนระบบคลาวด์เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการสนับสนุนแอปพลิเคชัน GenAI

ด้านวัฒนธรรมและบุคลากร

การสำรวจพบว่า 96% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก (97% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) กำลังพิจารณาว่า GenAI สามารถปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร รวมถึงรองรับการทำงานของพนักงานให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม กว่า 67% (64% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ระบุว่าพบปัญหาพนักงานในองค์กรขาดทักษะที่จำเป็นในการทำงานร่วมกับ GenAI และประมาณครึ่งหนึ่งมีแผนพัฒนาทักษะให้พนักงาน

ความท้าทายในการนำ GenAI ไปใช้งาน ประกอบด้วย:

  • ผู้ใช้บางรายมองว่าโซลูชัน GenAI มีประโยชน์ที่จำกัด
  • มีการรับรู้เกี่ยวกับโซลูชัน GenAI อย่างจำกัดหรือไม่มีเลย
  • ผู้ใช้รู้สึกต่อต้านเทคโนโลยีนี้
  • กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงของ GenAI

ในขณะที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการนำ GenAI ไปใช้งานมากที่สุด ได้แก่:

  • ผู้ใช้บางรายมองว่าโซลูชัน GenAI มีประโยชน์จำกัด
  • ความจำเป็นในการฝึกอบรมผู้ใช้
  • ข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ GenAI
  • ข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ GenAI

ข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ GenAI

เมื่อ GenAI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การสร้างสมดุลระหว่างความรับผิดชอบและนวัตกรรมถือเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรม และเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับผู้นำ องค์กร และสังคมโดยรวม ผู้บริหารส่วนใหญ่ตระหนักถึงพันธกิจในการสร้างสมดุลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากผลการสำรวจต่อไปนี้:

  • ผู้นำ 81% ทั่วโลก (83% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ระบุว่า "มีความสำคัญมาก" ที่ผู้นำจะต้องช่วยให้พนักงานสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความรับผิดชอบ
  • 72% (71% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) กล่าวว่าองค์กรของตนไม่มีนโยบายการใช้งาน GenAI สำหรับพนักงาน รวมถึงแนวทางในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของ GenAI ที่ชัดเจน
  • CISO กว่า 45% แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น โดยกล่าวว่ารู้สึก “ถูกกดดัน ถูกคุกคาม หรือรู้สึกหนักใจ”
  • ผู้ตอบแบบสอบถาม 82% ทั่วโลก (80% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) มองว่ากฎระเบียบ AI ในปัจจุบันยังไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กลยุทธ์ GenAI ขององค์กรมีความซับซ้อนขึ้น และเมื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบกลายเป็นเรื่องสำคัญ องค์กรต่างๆ คาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับมาตรการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ GenAI

แม้จะเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ผู้ตอบแบบสำรวจ 68% (75% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ยอมรับว่ารู้สึก “ตื่นเต้น” และ “ทึ่ง” กับศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงที่ GenAI ทำได้

อภิชิต ดูเบย์ (Abhijit Dubey) CEO ของ NTT DATA, Inc. กล่าวว่า “สถานการณ์นี้เป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์โลก เนื่องจาก GenAI กำลังก้าวขึ้นมาเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนโลกยุคถัดไปที่กำลังจะมาถึง NTT DATA รู้สึกถึงความรับผิดชอบอย่างยิ่งต่อทั้งลูกค้า พนักงานของเรา และสังคม ในการทำให้แน่ใจว่าทุกสิ่งที่เราออกแบบ และนำไปใช้งานหรือจัดการนั้นมีความยืดหยุ่น มีความสามารถ และมีความรับผิดชอบสูง”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อว.-บพข. ร่วมผลักดัน Deep Tech Startup ไทยเจาะตลาดนอร์ดิก

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดยหน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน "OKRs Workshop: From Epicenter to Th...

Responsive image

Wavemaker และ กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุน Series B ใน 24X เดินหน้ายกระดับตลาดซ่อมบำรุง

24X ประกาศความสำเร็จครั้งใหม่ในการระดมทุนรอบซีรีส์ บี โดยสองกลุ่มนักลงทุนระดับชั้นนำอย่าง เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์สและกรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือกรุงศรี ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ 24X ในการ...

Responsive image

ทีทีบี ยกระดับ "ยินดี-Yindee" ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ ตอบทุกคำถามฉับไว บน Mobile Banking ด้วย Azure OpenAI ครั้งแรกในไทย

ทีทีบี มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย Digital Transformation โชว์ความสำเร็จการพัฒนาผู้ช่วยบนมือถือ “ยินดี-Yindee” เวอร์ชันใหม่ ถือเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่นำ Generative AI ผ่าน Microsoft A...