นักศึกษา มจธ. คว้ารางวัลวิจัยเด่นจากสกสว. นำเทคโนโลยีสแกนวัตถุ 3 มิติ ประเมินสภาพโบราณสถาน | Techsauce

นักศึกษา มจธ. คว้ารางวัลวิจัยเด่นจากสกสว. นำเทคโนโลยีสแกนวัตถุ 3 มิติ ประเมินสภาพโบราณสถาน

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสแกนวัตถุ 3 มิติ และวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์เพื่อการประเมินและติดตามสภาพโครงสร้างโบราณสถานของไทย กรณีศึกษาวัดหลังคาขาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการคัดเลือกเป็น “งานวิจัยเด่น” 1 ใน 25 ผลงาน และได้รับรางวัลชมเชยประเภทความนิยมด้านผลงานวิจัยและความนิยมด้านการนำเสนอจากกลุ่มงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรมจากผลงานทั้งสิ้น 221 ผลงาน ในงานการประชุมวิชาการระดับบัณฑิตศึกษา สกสว. ประจำปี 2019

คุณพีรสิทธิ์ มหาสุวรรณชัย นักศึกษาปริญญาเอกภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้รับทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) โดยมี ผศ.ดร.ชัยณรงค์ อธิสกุล เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา เปิดเผยว่า ได้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการประเมินสภาพโบราณสถานของประเทศไทย นำร่อง ณ วัดหลังคาขาว ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงลึกด้านวิศวกรรมศาสตร์ โดยการนำเทคโนโลยีการสแกนวัตถุ 3 มิติ มาใช้ในการหาขนาดมิติและรูปทรงเจดีย์วัดหลังคาขาว โดยเครื่องสแกนวัตถุ 3 มิติ จะหมุนรอบตัวเอง 360 องศา เมื่อพบวัตถุจะสะท้อนกลับมาเป็นข้อมูลกลุ่มจุด ที่จะสามารถต่อเป็นกลุ่มข้อมูลพิกัด 3 มิติ ได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้เทียบเท่ากับขนาดจริงและมีความแม่นยำสูง ทำให้ทราบขนาดความสูง ความกว้าง ความหนา ด้านในและด้านนอกของเจดีย์ เพื่อนำมาประเมินผล นอกจากนั้นยังเก็บตัวอย่างของอิฐก่อและปูนก่อโบราณ เพื่อมาทดสอบในห้องปฏิบัติการภาควิชาวิศวกรรมโยธา

เมื่อได้ข้อมูลกลุ่มจุด 3 มิติ และข้อมูลสมบัติของวัสดุโบราณแล้ว จะนำมาประเมินด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ ทำให้สามารถบอกได้ว่าโบราณสถานมีการเอียงตัวในมุมที่โครงสร้างยังอยู่ในสภาวะที่มีเสถียรภาพหรือไม่ รวมถึงวัสดุมีค่ากำลังเพียงพอหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้กรมศิลปากรใช้ในการบูรณะโบราณสถาน การประเมินโบราณสถานวัดหลังคาขาว เป็นการพัฒนากระบวนการประเมินและติดตามสภาพโครงสร้าง เพื่อสามารถนำไปใช้สำหรับการศึกษาโบราณสถานแห่งอื่น โดยการติดตามสภาพโครงสร้างด้วยการเก็บซ้ำจากครั้งแรก 6 เดือน เพื่อให้ทราบว่าในระยะเวลา 6 เดือน โบราณสถานเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อการคาดการณ์อนาคต

ที่ผ่านมาการประเมินสภาพโบราณสถานต้องใช้กำลังคน และการตั้งนั่งร้านในการเก็บข้อมูลที่สูง ซึ่งใช้เวลานานและงบประมาณมาก ด้วยเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยให้การประเมินสภาพโบราณสถาน ใช้ระยะเวลาเก็บข้อมูลลดลง ไม่ต้องตั้งนั่งร้าน ให้ความแม่นยำสูง นอกจากนี้ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลเหล่านี้สามารถช่วยให้การประเมินและติดตามสภาพโบราณสถานของไทยตามหลักวิศวกรรมเกิดความยั่งยืน

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Siriraj x MIT Hacking Medicine เปิดทางสู่นวัตกรรมขับเคลื่อนการดูแลผู้สูงอายุในประเทศกำลังพัฒนา

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ MIT ประสบความสำเร็จในการจัดประชุมวิชาการ Siriraj x MIT Hacking Medicine ภายใต้หัวข้อ “Scaling Aged Care in Developing Countries”...

Responsive image

ttb แบงก์ไทยรายแรก ปฏิวัติบริการ Mobile Banking ด้วย Generative AI

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb เตรียมสร้างความฮือฮา ด้วยการเปิดตัว “Yindee” ผู้ช่วยบนมือถือเวอร์ชั่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Generative AI ซึ่งจะช่วยตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ...

Responsive image

ลอรีอัลเปิดเวที Big Bang Beauty Tech Innovation มุ่งผลักดันนวัตกรรมความงามแห่งอนาคต

ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ประกาศรายชื่อสตาร์ทอัพผู้ชนะเลิศจากเวที Big Bang Beauty Tech Innovation การแข่งขันเฟ้นหานวัตกรรมเปลี่ยนโลกความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้แปซิฟิกใต้ ตะวั...