การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เทรนด์ทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีการคาดการณ์ไว้ถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ต่อภาวะหลังการแพร่ระบาดซึ่งหนึ่งในเทรนด์ที่เข้ามาแทนที่และเป็นที่น่าจับตามองคือเทรนด์ การใช้งานบริการด้านไอที (IT Services) ซึ่งมีธุรกิจเริ่มหันมาใช้บริการมากขึ้น โดยจากผลประกอบการทางธุรกิจของ Lenovo เมื่อไตรมาสที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มธุรกิจบริการด้านไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเราเติบโตขึ้น 1.2 เท่า ซึ่งรวดเร็วกว่าการเติบโตของธุรกิจฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
สำหรับ Lenovo งานบริการด้านไอทีของเราถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันได้แก่ งานบริการพ่วงหรือ Attached Services and Software ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์และบริการที่พ่วงมากับอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ที่เราจำหน่าย โดยจะครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้ตามวัฎจักรการใช้งาน, งานบริการที่มีการจัดการเป็นสัญญาจ้าง หรือ Managed Service and Device-as-a-Service (DaaS) คืองานที่ให้บริการผ่านโซลูชั่นเฉพาะรายและการเช่า โดยลูกค้าจะจัดจ้างบุคลากรภายนอกอย่าง Lenovo ให้ดูแลจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และปล่อยเช่าฮาร์ดแวร์มากกว่าการซื้อ ท้ายคืองานบริการที่ซับซ้อนหรือ Complex Solutions ซึ่งเป็นการรวมงานบริการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และบริการไว้ด้วยกัน
สิ่งหนึ่งที่บริการทั้งหมดเหล่านี้มีเหมือนกันคือความสามารถในการเสริมประสิทธิภาพให้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งทำให้เครื่องใช้งานได้เกิดประโยชน์ และคล่องตัวยิ่งขึ้น
สำหรับธุรกิจ เทรนด์ด้านงาน IT Service ที่จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าแบ่งได้เป็น 3 เทรนด์อันได้แก่
สำหรับปี 2020 แน่นอนว่าการปรับตัวทางธุรกิจเพื่อตอบรับ digital transformation หรือการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลคือความท้าทายสำคัญที่ธุรกิจมากมายกำลังเผชิญ แผนกไอทีของบริษัทไม่เพียงอยู่ในภาวะกดดันอย่างมากในการพัฒนาประสิทธิภาพและการปฏิบัติงานเพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลได้อย่างราบรื่น แต่แผนกไอทียังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทางดิจิทัล ควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายด้วย
ความกดดันนี้เองที่เป็นตัวกระตุ้นให้แผนกไอทีของบริษัทต่างต้องมองกาผู้เชี่ยวชาญงานด้าน IT service เพื่อมาดูแลจัดการงานไอทีพท้นฐานแทน เพื่อที่แผนกไอทีจะได้ทุ่มเทเวลาไปให้กับการแก้ไขและพัฒนางานด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่มีความสำคัญยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่แผนกไอทีมองหาไม่ใช่เพียงพันธมิตรที่แค่เพื่อแบ่งเบาภาระจากงานประจำ แต่สิ่งที่แผนกไอทีต้องการแท้จริงนั้นคือพันธมิตรมืออาชีพที่จะช่วยสร้างโซลูชั่นที่ตรงต่อความต้องการ เป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับแผนกไอทีเพื่อสร้างผลลัพธ์ตามที่ธุรกิจได้ตั้งเป้าหมายไว้
นอกจากนี้ เงินลงทุนที่ต้องใช้เพื่อให้แน่ใจว่าระบบ IT พื้นฐานของธุรกิจจะสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นในแต่ละวันนั้นอาจมีราคาค่อนข้างสูง ทั้งธุรกิจยังต้องจ้างบุคลลากรที่มีความรู้และทักษะมาเพื่อดูแลระบบ ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่ใช้จ่ายในด้าน IT นั้นจะคุ้มค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ธุรกิจจึงหันมาให้ความสำคัญกับการใช้บริการด้าน IT Service มากขึ้น
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือหากต้องเปลี่ยนให้พนักงานทำงานจากที่บ้านอย่างกระทันหัน และรับมือกับความต้องการที่แตกต่างของพนักงานในแต่ละแผนก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในปัจจุบันช่วยให้ธุรกิจสามารถรองรับการทำงานแบบ remote working ของพนักงานและการใช้เทคโนโลยีเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคได้ดีขึ้น วิธีการนี้สามารถทำได้โดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีอยู่ด้วเทคโนโลยียุคใหม่ อาทิ การใช้งานระบบคลาวด์ หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีหรือโซลูชั่นที่จะนำมาใช้ต้องเป็นเทคโนโลยีที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ
สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานทุนคนมีเทคโนโลยีโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในระดับ CEO ไปจนถึงพนักงานบรรจุสินค้าหรือพนักงานบริการขนส่งสินค้า อปกรณ์ที่มีความสำคัญตั้งแต่ชุดชาร์จแบตเตอรี่แล็ปท็อป ไปจนถึงจอมอนิเตอร์, ระบบ VPN และระบบความปลอดภัยซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท, ความแตกต่างดังกล่าวยังรวมถึงบริการที่บริษัทใช้อยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงทีมงานผู้ให้บริการว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
การทำงานร่วมกับพันธมิตรและที่ปรึกษาด้านไอทีที่น่าเชื่อถือนั้นจะเป็นการสร้างความความพร้อมให้แก่ธุรกิจเพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาด้านไอทีที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อสร้างความพร้อมให้กับธุรกิจในทุก ๆ เหตุการณ์ ธุรกิจจำเป็นต้องมีการวางแผนในการคาดการณ์ ป้องกัน และตอบสนองต่อปัญหาเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจจะสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและอยู่รอดในระยะยาว ผู้ให้บริการด้านไอทีที่ดี ควรมีกรอบการทำงานที่ยืดหยุ่นต่อความต้องการของลูกค้าเพื่อรองรับความต้องการที่ลูกค้ามีได้อย่างครอบคลุม
แล้วอะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้? ในขณะที่ธุรกิจต่างกำลังปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ งาน IT service ได้กระตุ้นให้มีการนำเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมาปรับใช้กับทุกภาคส่วนของธุรกิจ โดยการทำให้เทคโนโลยีงเหมาะสมต่อขนาดของธุรกิจ เหมาะสมต่อการนำมาปรับใช้ และการจัดการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นให้กับผู้ใช้ Lenovo เชื่อว่าจะมีธุรกิจอีกมากมายที่หันมาใช้งานบริการด้านไอทีเพื่อสร้างสังคมดิจิทัลอย่างครอบลุม น่าเชื่อถือ และยั่งยืน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด