Schneider Electric ลด “หนี้นิเวศโลก” ด้วยโมเดลสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน | Techsauce

Schneider Electric ลด “หนี้นิเวศโลก” ด้วยโมเดลสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ก่อนหน้าวันหนี้นิเวศโลก (Earth Overshoot Day) ที่ผ่านมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น ได้เคยมีการประกาศถึงคำมั่นสัญญาในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันโดยใช้ทรัพยากรจากโลกเพียงใบเดียว (One-planet compatibility) ในเรื่องของกรอบการทำงานที่จำเป็นต่อความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาว

โดยในเอกสาร White Paper เกี่ยวกับการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ได้มีการเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม ได้วางแนวทางโดยละเอียดพร้อมกับมาตรวัดที่สนับสนุนกรอบการทำงานเพื่อการอยู่ร่วมกันและการสร้างความก้าวหน้าของมนุษยชาติโดยใช้ทรัพยากรจากโลกเพียงใบเดียว โดยเป็นการพัฒนาร่วมกับเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก (Global Footprint Network) องค์กรนานาชาติด้านความยั่งยืนที่คิดค้นในเรื่องของรอยเท้าทางนิเวศ หรือ Ecological Footprint ซึ่งเป็นผลกระทบทางระบบนิเวศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์

การอยู่ร่วมกันโดยใช้ทรัพยากรจากโลกเพียงใบเดียว กลายเป็นเข็มทิศอันทรงพลังในการประเมินกลยุทธ์องค์กรท่ามกลางข้อจำกัดด้านทรัพยากรในระบบนิเวศ

วันหนี้นิเวศโลก เป็นวันที่กำหนดขึ้นเมื่อความต้องการของมนุษย์ทั้งในเรื่องอาหาร ไฟเบอร์ ป่าไม้และการดูดซับคาร์บอน (รอยเท้านิเวศทั่วโลก) อยู่ในระดับที่เกินความสามารถที่ระบบนิเวศของโลกจะรองรับหรือผลิตขึ้นมาใหม่ได้ทันในปีนั้นๆ (ความสามารถทางชีวภาพของโลก)

โดยในปีนี้ตามข้อมูลจากเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก วันหนี้นิเวศโลกมาถึงเร็วที่สุดคือวันที่ 29 กรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันเน้นให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรทางชีวภาพเร็วเกินกว่าที่ธรรมชาติจะผลิตขึ้นใหม่ได้ทันถึง 1.75 เท่า ทำให้เกิดการขาดดุลทางระบบนิเวศมากขึ้นไปอีก 4 เดือน

จากการเผาผลาญทรัพยากรที่เป็นต้นทุนธรรมชาติบนโลก หรืออาจกล่าวได้ว่ามนุษย์ “ใช้” โลกไป 1.75 เท่า  การปลดปล่อยคาร์บอนคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของรอยเท้านิเวศทั้งหมด

ตั้งแต่โลกตกอยู่ในสภาพการเป็นหนี้นิเวศตั้งแต่ ช่วงตอนต้นของทศวรรษที่ 1970 วันหนี้นิเวศโลกก็เลื่อนวันตามรอบปีปฏิทินโดยมาถึงเร็วขึ้นเรื่อยๆ 30 ปีที่แล้ว ยังอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม ถัดมาอีก 20 ปีก็เลื่อนเร็วขึ้นจนมาอยู่ปลายเดือนกันยายน หลังจากที่วันหนี้นิเวศมาถึงช้าลงได้ไม่นาน ก็เริ่มร่นเข้ามาใกล้ขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีการดูดซับคาร์บอนในปริมาณมาก

แนวโน้มที่พลิกผัน

การอยู่ร่วมกันโดยใช้ทรัพยากรจากโลกใบเดียวจำต้องมีการย้ายวันหนี้นิเวศโลกกลับสู่วันที่ 31 ธันวาคมหรือไกลกว่านั้น การเป็นเศรษฐกิจปลอดคาร์บอนนับเป็นแรงผลักอันทรงพลังสู่การย้ายวัน #MoveTheDate  ตามข้อมูลจากเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก

การลดการปลดปล่อยคาร์บอนทั่วโลกเพียงครึ่งเดียวจะช่วยย้ายวันให้ไกลออกไปได้ 3 เดือน สำหรับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้ทำงานร่วมกับเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลกเพื่อประเมินหาโซลูชัน ซึ่งการวิจัยของ 2 องค์กรนี้ชี้ให้เห็นว่าหากทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ของอาคารและระบบโครงสร้างอุตสาหกรรมที่มีอยู่มีการติดตั้งระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียนที่มีพร้อมอยู่แล้ว

จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค และบรรดาพันธมิตร ด้วยสมมุติฐานที่ว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้พลังงานของมนุษย์แต่อย่างใด วันหนี้นิเวศโลกก็อาจจะถูกย้ายให้ไกลออกไปอย่างน้อย 21 วัน นั่นหมายความว่าลำพังการปรับปรุงระบบจัดการพลังงานเพียงอย่างเดียวสามารถสร้างความแตกต่างได้มากถึง 3 สัปดาห์  และการมองอีกมุมก็คือ

หากเราย้ายวันหนี้นิเวศโลกให้ไกลออกไป 5 วันในทุกๆ ปี เราจะกลับสู่การใช้ทรัพยากรบนโลกใบเดียวได้ก่อนปี 2050 สอดคล้องกับ Paris Climate Agreement มาธิส แวกเกอร์นาเจล ผู้ก่อตั้ง Global Footprint Network กล่าวไว้ว่า

 

บริษัทชั้นนำอย่างชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้านพลังงานและการใช้ทรัพยากร รื่นรมย์กับโมเดลธุรกิจที่เจริญเติบโตเนื่องจากโมเดลนี้สร้างบนฐานของการช่วยให้มนุษยชาติหลุดจากการเป็นหนี้ระบบนิเวศ

ตัวบ่งชี้สำหรับธุรกิจ

ความเจริญก้าวหน้าที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรบนโลกใบเดียว เป็นเข็มทิศนำทางที่เรียบง่ายสู่การประเมินกลยุทธ์ขององค์กรท่ามกลางคำถามสำคัญ 2 ประการ นั่นคือ “เราจะดำเนินธุรกิจบนข้อจำกัดของการใช้ทรัพยากรจากโลกใบเดียวได้หรือไม่? และ “การนำเสนอของเราช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเป็นหนี้นิเวศโลกได้หรือไม่?

ตามที่มีการระบุอยู่ใน White Paper สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริหารระดับสูง “กรณีศึกษาทางธุรกิจสำหรับการเจริญเติบโตด้วยการใช้ทรัพยากรจากโลกใบเดียว” แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่มอบคุณค่าในระยะยาวจากหลายบริษัทในหลากหลายภาคส่วน เช่น พลังงาน อาหาร การดูแลสุขภาพ และการบำบัดของเสีย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Siriraj x MIT Hacking Medicine เปิดทางสู่นวัตกรรมขับเคลื่อนการดูแลผู้สูงอายุในประเทศกำลังพัฒนา

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ MIT ประสบความสำเร็จในการจัดประชุมวิชาการ Siriraj x MIT Hacking Medicine ภายใต้หัวข้อ “Scaling Aged Care in Developing Countries”...

Responsive image

ttb แบงก์ไทยรายแรก ปฏิวัติบริการ Mobile Banking ด้วย Generative AI

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb เตรียมสร้างความฮือฮา ด้วยการเปิดตัว “Yindee” ผู้ช่วยบนมือถือเวอร์ชั่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Generative AI ซึ่งจะช่วยตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ...

Responsive image

ลอรีอัลเปิดเวที Big Bang Beauty Tech Innovation มุ่งผลักดันนวัตกรรมความงามแห่งอนาคต

ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ประกาศรายชื่อสตาร์ทอัพผู้ชนะเลิศจากเวที Big Bang Beauty Tech Innovation การแข่งขันเฟ้นหานวัตกรรมเปลี่ยนโลกความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้แปซิฟิกใต้ ตะวั...