วัคซีน Moderna ได้รับการอนุมัติจาก อย. ของสหรัฐอเมริกาให้ใช้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปได้ | Techsauce

วัคซีน Moderna ได้รับการอนุมัติจาก อย. ของสหรัฐอเมริกาให้ใช้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปได้

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โมเดอร์น่า (Moderna) ประกาศว่า วัคซีนโมเดอร์น่า (Moderna) ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 17 ปี โดยเป็นการฉีดแบบชุด 2 เข็มห่างกัน1 เดือน ในขนาดที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ 

Moderna

โดยเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี ใช้ที่ขนาด 25 ไมโครกรัม เด็กอายุ 6-11 ปี ที่ขนาด 50 ไมโครกรัม และวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ที่ขนาด 100 ไมโครกรัม ต่อเข็ม  ซึ่งการฉีดแบบชุด 2เข็มห่างกัน 1 เดือนนี้มีความเหมาะสมที่จะช่วยป้องกันเด็กจากโรค โควิด-19 สำหรับการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ที่เด็ก ๆ จะต้องกลับสู่ห้องเรียนหรือศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน อันเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง  

ปัจจุบัน วัคซีนโมเดอร์น่าได้ถูกนำไปใช้ฉีดในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนหลายล้านคนแล้วทั่วโลก พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัย เช่นเดียวกับที่มีรายงานในกลุ่มอายุอื่น ๆ 

Stéphane Bancel ตำแหน่ง Chief Executive Officer ของโมเดอร์น่า ได้กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างมากที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาอนุมัติการใช้วัคซีนโมเดอร์น่าในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กซึ่งมีความเสี่ยงสูง เพราะเราเชื่อว่า เด็ก ๆ จำเป็นต้องได้กลับไปใช้ชีวิตที่มีสังคมเพื่อให้พวกเขาได้มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่เหมาะสม นอกจากนี้แล้วการอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก จะทำให้บุคลากรทางการศึกษามีเครื่องมือที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดโควิด-19 ในห้องเรียนและศูนย์รับเลี้ยงเด็ก” 

ข้อมูลจากการศึกษาทางคลินิกในเด็กและวัยรุ่นจำนวนมากกว่า 14000 คน ร่วมกับการติดตามผลตั้งแต่ 2 ถึง 11 เดือนในกลุ่มช่วงอายุต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนโมเดอร์น่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ 14 วันภายหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มที่สอง โดยข้อมูลจากผลการศึกษาทางคลินิก (KidCOVE trial) ระยะที่ 2/3 ในกลุ่มอาสาสมัครเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ดีและมีระดับเทียบเท่ากับที่ตรวจพบในผู้ใหญ่อายุ 18-25 ปี ในCOVE adult study 

ซึ่งถือว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์หลักของการศึกษา ถึงแม้ว่าขนาดวัคซีนที่ให้ในเด็กจะน้อยกว่า คือที่25 ไมโครกรัมห่างกัน 4 สัปดาห์ ก็ตาม โดยที่ประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มเด็กอายุ 6 ถึง 23 เดือน และ 2 ถึง 5 ปี อยู่ที่ 51% และ 37% ตามลำดับ ใกล้เคียงกับที่ประเมินได้ในผู้ใหญ่ในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโอไมครอนในช่วงดำเนินการวิจัย 

นอกจากนี้ในเด็กอายุ 6 ถึง 11 ปี ผลการศึกษาทางคลินิกที่ขนาด 50 ไมโครกรัม ห่างกัน 4สัปดาห์ ก็แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ไม่ด้อยกว่าระดับที่ตรวจพบในผู้ใหญ่ อายุ 18-25 ปี เช่นเดียวกัน โดยที่ประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันการติดเชื้อ 88% ตามข้อกำหนดของ US CDC 

Moderna

จากผลการศึกษาทางคลินิก (TeenCOVE trial) ในวัยรุ่น อายุ 12 ถึง 17 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 นั้น โดยใช้วัคซีนโมเดอร์น่าที่ขนาด 100 ไมโครกรัม ห่างกัน 4 สัปดาห์ พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ 93% ซึ่งการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าผลการศึกษาในผู้ใหญ่อายุ 18-25 ปี เช่นกัน 

จากผลการศึกษาทางคลินิกในเด็กและวัยรุ่น แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยต่อวัคซีนโมเดอร์น่าในทุกกลุ่มอายุเด็ก ไม่มีรายงานการเสียชีวิตหรือการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ โดยอาการไม่พึงประสงค์เฉพาะที่ที่มีการรายงานบ่อยในทุกช่วงกลุ่มอายุคือ อาการปวดบริเวณที่ฉีด ส่วนอาการทางระบบที่มีการรายงานบ่อยที่สุด ในเด็กโตจะเป็นอาการปวดหัวและอ่อนเพลีย ส่วนในเด็กเล็กจะเป็นอาการไม่สบายตัวงอแง  

ปัจจุบันนี้ในสหรัฐอเมริกา วัคซีนโมเดอร์น่าได้รับการขึ้นทะเบียนการใช้งานแบบเต็มรูปแบบจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของการได้รับอนุญาตให้ใช้ภายใต้ EUA ประกอบไปด้วย วัคซีนโมเดอร์น่าที่ขนาด 100 ไมโครกรัม ในการใช้ฉีดเป็นเข็มที่สามในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องระดับปานกลางถึงรุนแรง และวัคซีนโมเดอร์น่าที่ขนาด 50 ไมโครกรัม ในการใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มแรก (เข็ม 3) ในผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป และในการใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สอง (เข็ม 4) ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป และเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในระดับปานกลางหรือรุนแรง 

ทางบริษัทจะยังคงดำเนินการรวบรวมและติดตามข้อมูลการใช้วัคซีนโควิดจากการใช้จริงทั่วโลกต่อไป ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ข้อมูลจากการศึกษาทั่วโลก ยังคงยืนยันได้ดีถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโมเดอร์น่า

RELATED ARTICLE

Responsive image

“TRIS CORP” ชี้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัว และเร่งดำเนินการตามกรอบ Data Governance เพื่อยกระดับขีดความสามารถองค์กร และขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล

บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กร จัดงานสัมมนา “Exclusive Seminar : Deep Dive Into Data Governance มุ่งสู่องค์กรดิจิทัลยั่งยืนตามกฎหมายใหม่” เพื่อแลก...

Responsive image

ส่องเทคโนโลยี Smart Factory จาก SABUY Group (สบาย) และ PTECH (พลัส เทคฯ) ที่ช่วยให้ชีวิตพนักงานสะดวกสบายขึ้นได้ทุกมิติ

ส่องเทคโนโลยี Smart Factory ในโรงงานต้นแบบ จาก SABUY Group (สบาย) และ PTECH (พลัส เทคฯ) ที่ช่วยให้ชีวิตพนักงานสะดวกสบายขึ้นได้ทุกมิติ ทั้งการใช้จ่าย สวัสดิการพนักงาน และอีกมากมาย...

Responsive image

VCs Night Networking Party งาน Networking ใหญ่ที่สุดในไทยสำหรับ VCs และ Startups

Networking ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ‘VCs Night Networking Party’ วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 นี้ ตั้งแต่เวลา 18:30 - 21:30 ที่ Grand Hall, True Digital Park West...