ตามรอยกลยุทธ์ธนาคารทั้ง 4 ตั้งบริษัทใหม่รับมือ FinTech

ตามรอยกลยุทธ์ธนาคารทั้ง 4 ตั้งบริษัทใหม่รับมือ FinTech

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าแบงค์ใหญ่ของไทยหลายรายต่างปรับตัวกันอย่างหนัก เพื่อรับมือกับ Disruption ที่เข้ามา แน่นอนว่ามันคือการปรับทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์จากผู้บริหารสูงสุดวัฒนธรรมองค์กรการทรานฟอร์มจุด Touchpoint ต่างๆ เข้าสู่ดิจิทัล แต่สำหรับบทความนี้เราจะไปเน้นถึงเรื่องการแตกบริษัทเพื่อเสริมทัพบริษัทแม่ งานนี้แต่ละรายมีกลยุทธ์ในการรับมืออย่างไร ไปดูกัน

โดยโมเดลของการตั้งบริษัทนั้นก็คล้ายๆ กัน มีส่วนที่แยกโฟกัสด้านเทคโนโลยีโดยตรง คล้ายๆ กับ Lab และทำควบคู่กันไปกับการหานวัตกรรมจากภายนอก ก็ต้องมีหน่วยลงทุน Corporate Venture Capital หาดีล หาพาร์ทเนอร์ เพื่อเรียนรู้ insight เพื่อหาโซลูชั่น และเทคโนโลยีมาเสริมทัพ ซึ่งจะเตะเข้าประตูไหม ดีลไหนโดน ดีลไหนเกิด เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

หรือ Accelerator ที่เกิดคำถามขึ้นว่า ถ้าโจทย์คือหาเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงกับบริษัท Accelerator ควรออกมาเป็นแบบใด หรือปรับโมเดลอย่างไรให้เหมาะสมกันแน่ ท่ามกลางจำนวนโครงการที่มีหลายโครงการเหลือเกินในเวลานี้ และทุกรายตอนนี้ก็อยู่ในช่วงเรียนรู้ Journey ไปด้วยกัน สำหรับบทความนี้เราไปตามรอยของทั้ง 4 ธนาคารกันดีกว่าว่า แต่ละรายทำอะไรไปกันบ้าง

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

Digital Ventures

สำหรับฟากของธนาคาร SCB มีความเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากการตั้ง Digital Ventures ก่อนในปี 2016 แยกออกมาจากบริษัทแม่ ปัจจุบันบริหารโดย คุณอรพงศ์ เทียนเงิน  เราได้เห็น Corporate Venture Capital (CVC) ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการลงทุนทั้งในกองทุนที่ลงทุนใน Startup และลงทุนตรงด้วย

โดยกองทุนที่ลงทุน ได้แก่

  • Golden Gate Ventures กองทุนที่เน้นลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • DYMON ASIA กองทุนที่เน้นลงทุนใน FinTech
  • nyca กองทุนที่เน้นลงทุนใน FinTech
  • SBI Group กองที่เน้นลงทุนใน AI และ Blockchain
  • Viola FinTech กองทุนจากอิสราเอลที่เน้นลงทุนใน FinTech
  • Arbor Ventures กองที่เน้นลงทุนใน FinTech, Big Data, Cloud Computing เน้นลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนบริษัทที่ลงทุนส่วนใหญ่แล้วเป็นการลงทุนในบริษัทต่างประเทศ เพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจโดยตรงของทางธนาคาร

  • Ripple  Startup ที่นำเสนอโซลูชั่นการโอนเงินบนเทคโนโลยี Blockchain
  • pulseiD Startup ด้านการบริการข้อมูลจากฮ่องกง เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์พิกัดเส้นทางการเดินทางของบุคคลเพื่อสร้างการระบุตัวตนลูกค้า 
  • Paykey แพลตฟอร์มการชำระเงินบนคีย์บอร์ดของอุปกรณ์สื่อสารที่ช่วยให้ลูกค้าธนาคารต่าง ๆ สามารถโอนเงินผ่าน Social Network
  • IndoorAtlas ผู้พัฒนาเทคโนโลยีระบุพิกัดตำแหน่ง Indoor Positioning System หรือ IPS โดยธนาคารได้ใช้เทคโนโลยีนี้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Chatuchak Guide ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สร้างหน้าร้านออนไลน์ให้กับร้านค้าในตลาดนัดจตุจักร
  • 1QBit Startup สาย Quantum Computing

โดย Digital Ventures ได้ประกาศเงินลงทุนสนับสนุนอีกครั้งเมื่อช่วงต้นปีมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ขนาดเงินลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่ตั้งกองทุนมา

นอกจากนี้ Digital Ventures ยังมีโครงการที่สนับสนุน Startup ดังนี้

  • DVA : Accelerator program ที่ปัจจุบันมีด้วยกัน 2 Batchs แล้ว โดย Startup ที่อยู่ในโครงการมีความหลากหลายทั้งสาย Property, FoodTech, HealthTech และมีกลุ่มของMarketplace ด้วย เป็นต้น โดยผู้ชนะเลิศใน Batch 0 คือ Onestockhome และ Batch 1 คือ Meticuly

  • U.REKA โครงการที่จับมือร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย เน้นสนับสนุนโครงการDeepTech เน้นสาย AI & Machine learning, Blockchain, Cloud & Security, VR/AR, Quantum Computing และ Big Data & Data Analysis

SCB Abacus

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร : ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์

เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่น่าจับตาเมื่อธนาคารตั้งบริษัทลูก SCB Abacus เป็นบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีบทบาทชัดเจนคือการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล (BIG DATA) เพื่อพัฒนาธุรกิจและบริการของธนาคาร เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2017 โดยถือเป็นบริษัทแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินและการธนาคารที่แยกตัวออกมามุ่งเน้นในเรื่องนี้โดยตรง

ในแง่ของบริการสิ่งที่ทาง SCB Abacus จะมุ่งเน้นคือ Credit Scoring, Robo-Advisory Platform และ Personalization Engine ตัวอย่างผลงานที่น่าสนใจได้แก่ ฟีเจอร์ “โปรเพื่อคุณ” (My Deals) ในแอปฯ SCB EASY และแอปฯ เก็บหอมแนะนำรูปแบบการออมด้วย AI

ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)

KBank แยกตัวบริษัทออกมาใหม่เช่นกัน แต่อาจแตกต่างในเชิงโครงสร้างเมื่อเทียบกับ SCB โดย KBTG เสมือน Lab คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ มี Beacon Venture Capital เป็นหน่วยลงทุน โดยมี KVision ที่พึ่งเปิดตัวไปหาดีลน่าสนใจจากต่างแดนเข้ามาด้วย รายละเอียดมีดังนี้

Kasikorn Business – Technology Group (KBTG)

ประธาน คุณกระทิง พูนผล (มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป)

KBTG เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 ถือเป็นกลุ่มบริษัท เพราะภายในยังมีบริษัทย่อยอีก 5 บริษัทด้วยกันได้แก่

  1. Kasikorn Technology Group Secretariat วางแผนและติดตามการทำงานของบริษัทในกลุ่ม KBTG สนับสนุนการจัดการด้านการเงินและด้านบุคลากรของกลุ่มบริษัท และประสานการทำงานร่วมกัน (Alignment) ระหว่างกลุ่มบริษัทและธนาคารกสิกรไทย
  2. Kasikorn Labs ค้นคว้าเทคโนโลยีและรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อระบบธนาคารดิจิทัล (Digital Banking) และระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) สร้างและทดลองระบบต้นแบบก่อนประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ของธนาคารกสิกรไทย
  3. Kasikorn Soft ออกแบบและสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจ (Business Requirement) ของธนาคารกสิกรไทย และรองรับการนำนวัตกรรม(Innovation) มาใช้ในธนาคารให้มีความรวดเร็วและคุณภาพสูงสุด
  4. Kasikorn Pro บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของธนาคารกสิกรไทย ทั้งในส่วนที่มีการสร้างขึ้นใหม่ ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
  5. Kasikorn Serve สนับสนุนการทำงานของกลุ่มบริษัท ทั้งทางด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การทดสอบและการปฏิบัติการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

ตัวสำนักงานตั้งอยู่ที่แจ้งวัฒนะ โดยเรามักเห็นโครงการต่างๆ ของทางธนาคาร อย่างการจับมือกับ IBM นำ Blockchain มาใช้กับ Smart Contract การพัฒนา K PLUS AI-Driven Experience (KADE) จะอยู่ภายใต้ KBTG รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เปิดให้นักพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมกับ Open API อาทิ TechJam ก็อยู่ภายใต้ KBTG เช่นกัน

Beacon Venture Capital

กรรมการผู้จัดการ คุณธนพงษ์ ณ ระนอง

เป็น Corporate Venture Capital หรือ CVC ของทางธนาคารกสิกรไทย โดยมีการลงทุนทั้งในกองทุนได้แก่

  • Vertex Ventures กองทุนที่เน้นลงทุนใน Startup ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย
  • DYMON ASIAN กองทุนที่เน้นลงทุนใน FinTech

ลงทุนใน Startup ไทย อาทิ

  • Flow account ซอฟแวร์บัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพาทเนอร์เพื่อนำโซลูชั่นมานำเสนอให้กับ SMEs ของทางธนาคาร สำหรับการลงทุนโดย Beacon ถือเป็นการลงทุนระดับ Pre-Series A ร่วมกับนักลงทุนชั้นนำอย่าง SBI Investment, Golden Gate Ventures และ 500 Tuktuks
  • Eventpop Startup ด้าน Event management platform ในรอบ Series A โดยลงทุนร่วมกับ InVent
  • Ookbee Startup สาย Digital Content ที่ใครหลายคนรู้จักดี เป็นการลงทุนในรอบ Pre-Series C เพื่อสนับสนุนการเปิดตัว C-Channel ในไทย
  • ลงทุนใน Grab 1600 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว GrabPay by KBank
  • ลงทุนใน InstaReM ระดับ Series C ซึ่งเป็น FinTech Startup ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ มูลค่า 1,500 ล้านบาท

Kasikorn Vision Company (KVision)

เป็นบริษัทใหม่ที่ทาง Kbank พึ่งประกาศทุ่ม 8,000 ล้านบาท เป็น Investment Holding Company เพื่อเข้าไปค้นหาพันธมิตรในกลุ่มประเทศที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและนำใช้กับผู้บริโภคใน 4 ประเทศ คือ

  • สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปัจจุบันมีจำนวน Unicorn หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐด้าน FinTech แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว
  • เวียดนาม
  • อินโดนีเซีย ประเทศที่มีการเติบโตของ Tech Startup เป็นอันดับต้น ๆ ใน AEC+3
  • อิสราเอล ที่เป็นจุดกำเนิดเทคโนโลยีใหม่และเป็นแหล่งรวมของ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

โดยหลังจากที่ไปหาดีลที่น่าสนใจได้แล้วนั้น Kvision จะศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุน ทั้งในรูปแบบการเข้าไปถือหุ้นโดยตรง  และในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็มีข่าวสะเทืยนวงการเมื่อ LINE ผู้นำด้านโมบายแพลตฟอร์มที่เรารู้จักกันดี ประกาศร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย (ผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น หรือ KVision นี้เอง) ตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ กสิกร ไลน์ ขึ้นมา เน้นการให้บริการด้านสินเชื่อ

ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร : ยาญชัย ตันติรัฐพงศ์

ธนาคารที่ได้ขึ้นชื่อว่า มีสินทรัพย์มากที่สุดของไทย มีการจัดตั้ง Corporate Venture Capital และโครงการที่สนับสนุน FinTech ดังต่อไปนี้

Bualuang Ventures

เป็น Corporate Venture Capital (CVC) ของทางธนาคาร โดยให้การสนับสนุน 3 ธีมได้แก่ กิจการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) , ธุรกิจท่องเที่ยว (Tourism) ซึ่ง 2 ธุรกิจนี้เป็นไปตามแนวโน้มสภาวะการเติบโตของประเทศไทย และสุดท้ายคือ การเงินหรือ FinTech ที่เน้นรายที่สามารถทำงานร่วมกันเพื่อเสริมทัพ ต่อยอดส่วนธุรกิจหลักของทางธนาคารได้ นอกจากนี้ทาง Bualuang Ventures ยังเปิดเผยว่ากองทุนยังสนับสนุนธุรกิจ SMEs ที่มีโอกาสเติบโตด้วยเช่นกัน โดยเงินทุนที่ตั้งไว้ต่อปีอยู่ที่ 500 ล้านบาทต่อปี (ประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

โครงการ Bangkok Bank Innohub

เป็นโครงการที่จับมือร่วมกับ Nest ซึ่งเป็น Corporate Accelerator ในฮ่องกง โดย Accelerator นี้จะแตกต่างกับโครงการอื่นๆ ในไทยคือ เปิดรับ Startup จากทั่วโลก และเน้นด้าน FinTech โดยตรง โดยใน Batch แรกปี 2017 มี Startup ที่ผ่านเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 8 ทีม โดยมี FinTech Startup ไทยที่ได้รับคัดเลือกคือ Stock Radars โดยปัจจุบัน Stock Radars ได้ร่วมมือกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในรูปแบบของการเป็น Partnership ส่วนปี 2018 นั้นได้เปิดรับ Startup เข้ามาอีก 8 ทีม ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Startup ที่มีเทคโนโลยีเชิงลึก อาทิ AI จากต่างประเทศ

นอกจากนี้ทางธนาคารกรุงเทพถือเป็นธนาคารแรกของไทยที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ R3 ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาแพลตฟอร์ม Distributed Ledger Technology ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ทาง ธปท. สร้างความร่วมมือในโครงการอินทนนท์นั่นเอง)

ธนาคารกรุงศรี (Krungsri)

ถือเป็นบริษัทลูกของยักษ์ใหญ่อย่าง Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) จากญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งธนาคารที่มีความเคลื่อนไหวในโลก Startup มาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และจับมือร่วมกับ IBM ในโครงการ Blockchain

Krungsri Finnovate

ประธานกรรมการ : ฐากร ปิยะพันธ์

Krungsri Finnovate คือ Corporate Venture Capital (CVC) ของทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยเน้นลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมในไทยและแถบอาเซียนดังต่อไปนี้ AI, Big Data, Blockchain, Smart API, Super Mobile app, Biometric, Digital Lending Platform, Insurance Tech, Robo-Advisor โดยมีเงินลงทุนสนับสนุนอยู่ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันมีประธานกรรมการ คือ คุณฐากร ปิยะพันธ์

ปัจจุบันมีการลงทุนในกองทุนได้แก่

  • SBI Group กองทุนที่เน้นลงทุนใน AI และ Blockchain เพื่อเข้าถึง DeepTech Startup จากทั่วโลก

ลงทุนในธุรกิจ Startup ไทยตรง ได้แก่

  • Finnomena FinTech Startup สายการลงทุน โดยลงทุนร่วมกับ CVC อย่างเบญจจินดา และ กองทุน 500 TukTuks
  • Omise บริษัท FinTech startup พัฒนาระบบชำระเงินออนไลน์ payment gateway เป็นการลงทุนในรอบ Series B+
  • Baania บริษัท PropTech Startup ที่พัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Big Data ทั้ง AI และ Machine Learning เพื่อใช้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นการร่วมลงทุนกับ CVC หลายราย อาทิ ปตท. AddVentures ในเครือ SCG และกองทุน 500 Tuktuks

นอกจากนี้ใน Krungsri Finnovate ยังมีโครงการสนับสนุน Startup อีก 2 โครงการได้แก่

  • Krungsri Uni Startup ที่เฟ้นหา Talent ในระดับมหาวิทยาลัยที่มีทักษะความเชี่ยวชาญสายเทคโนโลยี และมีความสนใจในเรื่อง Big Data/AI, Blockchain เป็นต้น ได้มีโอกาสแสดงฝีมือในงาน Hackathon
  • Krungsri RISE โครงการ Accelerator ของธนาคารกรุงศรี โดยเปิดมาด้วยกันทั้งสิ้น 3 Batchs และมี Startup หลายหลายทั้ง FinTech, Lifestyle, InsurTech, PropTech เป็นต้น โดย Baania และ Finnomena ก็เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

บทสรุป

เคยมีคนกล่าวว่า จริงๆ แล้ว ธนาคารเอง ก็ไม่ได้เกรงกลัวธนาคารกันเองเท่าไหร่ เรียกว่าสู้รบปรบมือกันมานาน พอจะดูเกมกันออกอยู่แล้ว และก็ไม่ได้เกรงกลัว FinTech Startup ที่มาจากตลาดไทยมากนัก (แม้ปรากฏการณ์ของ Unbundling of a Bank ที่บริการต่างๆ ของ Bank จะถูกแย่งชิงออกเป็นเสี่ยงๆ แต่สำหรับตลาดไทยอาจไม่ได้เหมือนตลาดโลกตะวันตกขนาดนั้น) แต่รายที่น่ากลัวที่สุดในเวลานี้คือ กลุ่มผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีเชิงลึกพร้อม consumer behavior ขนาดมหาศาล ต่างหาก วันดีคืนดีก็มาบรรจบเป็นคู่แข่ง ที่มาจากภาคธุรกิจอื่น ไม่ต้องหันมองไปไหนไกล ยักษ์ใหญ่จากจีนนี่แหล่ะ รวมถึง Super App ทั้งหลายที่มาจากโลกอินเทอร์เน็ต

และทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพรวมความเคลื่อนไหวของแต่ละธนาคารในการเตรียมรับมือ (ข้อมูลล่าสุดถึงเดือน สิงหาคม 2018) ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อนั้นต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดของแต่ละดีลสามารถคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ลิงค์ที่แนบไว้ในเนื้อหาแต่ละช่วงได้เลย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

5 เคล็ดลับมองโลก จากผู้นำระดับท็อปที่ประสบความสำเร็จ

แม้ว่าจะไม่สูตรตายตัวที่จะประสบความสำเร็จแต่มี 5 อันดับที่ขาดไม่ได้ของเหล่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกตั้งแต่ Elon Musk , Jeff Bezos จนไปถึง Susan Wojcicki ถ้าอยากรู้ว่า...

Responsive image

5 คนที่ควรมีในชีวิต ถ้าคิดอยากประสบความสำเร็จ

เส้นทางสู่ความสำเร็จ เดินคนเดียวอาจไปถึงช้า จะดีกว่าไหมถ้ามีคนที่ใช่เคียงข้างไปด้วย บทความนี้จะชวนทุกคนตามหา 5 ความสัมพันธ์ที่เราควรมี เพื่อเส้นทางสู่ความสำเร็จ...