ถ้ารู้สึกหมดไฟ หรือเบื่อหน่ายกับงาน อาจไม่ใช่เพราะอาการ Burnout แต่เป็นเพราะ 'Boreout' ปรากฏการณ์ที่ตรงข้ามกับความเหนื่อยล้า แต่เกิดจาก 'ความเบื่อหน่าย' ที่สะสมจนกระทบต่อความสุขในการทำงาน
Adam Grant นักจิตวิทยาองค์กรจาก Wharton อธิบายว่า Boreout คือภาวะที่คนทำงานรู้สึก 'เฉยชา' เพราะขาดความท้าทาย ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ หรือมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ลดลง โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานแบบไฮบริดและรีโมตแพร่หลายมากขึ้น
Burnout คือการทำงานหนักจนหมดแรง แต่ Boreout คือทำงานไปวัน ๆ จนหมดใจ — Adam Grant
ข้อมูลจาก Gallup ในปี 2024 ระบุว่า 80% ของพนักงานในสหรัฐฯ ชอบการทำงานแบบไฮบริดหรือรีโมต แม้ว่าจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น แต่ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยคือ 'การขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม' ซึ่งทำให้คนทำงานรู้สึกเหงาและเบื่อหน่ายมากขึ้น
มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้คุณตกอยู่ในภาวะ Boreout เช่น:
หลายคนไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้า แต่พวกเขาแค่รู้สึกว่า 'สิ่งที่ทำมันไม่ช่วยเติมพลังให้ชีวิตเลย' จนทำให้พวกเขากลายเป็นเหมือนซอมบี้ที่ทำงานไปวัน ๆ — Adam Grant
การรับมือกับ Boreout ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวพนักงานเพียงอย่างเดียว แต่องค์กรเองก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดึงดูดใจมากขึ้นได้
สำหรับผู้นำองค์กร:
"คุณไม่จำเป็นต้องเห็นหน้าทุกคนในทุกการประชุม บางครั้งการปิดกล้องช่วยให้คนได้พัก และพวกเขาจะกลับมาโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น" — Adam Grant
สำหรับพนักงาน:
ลองค้นหาสิ่งที่คุณอบและเชื่อมโยงมันกับงานที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมส่วนตัว หรือภารกิจขององค์กรที่คุณรู้สึกว่ามีความหมาย — Adam Grant
Boreout อาจเป็นภัยเงียบที่ทำให้คุณรู้สึกหมดพลังโดยไม่รู้ตัว แต่ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีทำงาน การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า และการมองหาความหมายในงานที่ทำ คุณก็สามารถเปลี่ยนความเบื่อหน่ายให้เป็นแรงบันดาลใจได้อีกครั้ง
อ้างอิง: cnbc