เปิดคู่มือหลังเผชิญภัยพิบัติ ผู้นำควรดูแลทีมอย่างไร? เทคนิคจาก UN ที่ใช้ได้จริง

เมื่อวันที่ 28 มีนาคมได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ ผู้นำทีมจะต้องรับบทหนักในการขับเคลื่อนให้ทีมสามารถดำเนินงานต่อไป และในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลคนในทีมให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ การจัดการในสถานการณ์เช่นนี้นอกจากการตอบสนองต่อความต้องการภายนอกอย่างเช่น น้ำ อาหาร และที่อยู่อาศัยแล้ว ความต้องการภายในก็มีความสำคัญไม่น้อย และบทความนี้จะสรุปแนวทางการจัดการทีมจาก United Nations’ Leadership in Emergencies ที่สามารถนำไปใช้ในการฟื้นฟูทีมหลังเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินได้

เปิดคู่มือหลังเผชิญภัยพิบัติ ผู้นำควรดูแลทีมอย่างไร? เทคนิคจาก UN ที่ใช้ได้จริง

การจัดการทีมในช่วงวิกฤต: ภาวะผู้นำที่สำคัญในช่วงหลังเกิดภัยพิบัติ

1. การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการฟื้นตัว

หัวหน้าทีมต้องทำให้บรรยากาศในการทำงานเอื้อต่อการฟื้นตัวของสมาชิกในทีม ซึ่งต้องคำนึงถึงการจัดการความต้องการส่วนตัวของตัวเองด้วย เช่น ความต้องการของครอบครัว ทั้งนี้ หัวหน้าทีมต้องคอยดูแลความเป็นอยู่ของทีมไปพร้อมกับการช่วยเหลือตนเองให้มีพลังพอที่จะสนับสนุนผู้อื่นได้

2. การตรวจสอบตัวเองก่อนสนับสนุนคนอื่น

หัวหน้าทีมต้องเช็กตัวเองก่อนว่าตนเองได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าตนเองสามารถให้การสนับสนุนทีมได้อย่างเต็มที่ หากหัวหน้าทีมไม่สามารถจัดการกับความเครียดของตัวเองได้ ก็จะยากที่จะให้การสนับสนุนคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ความเข้าใจในความเครียดและการสนับสนุนจิตใจ

ความเครียดอาจทำให้สมาชิกในทีมโฟกัสกับงานได้ยากหรือตัดสินใจได้ไม่ดีเท่าสถานการณ์ปกติ หากมีงานบกพร่องหรือไม่ได้ตามที่คาดหวัง ต้องมีความเข้าอกเข้าใจในทีม และไม่ละเลยการสนับสนุนทางจิตใจให้กับทีมเพื่อฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงาน

4. การช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอาการช็อก

บางครั้งสมาชิกในทีมอาจแสดงอาการช็อกหลังจากการเจอสถานการณ์ภัยวิกฤตหรือพิบัติที่เกิดขึ้น หัวหน้าทีมควรช่วยทำความเข้าใจว่าอาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของคนที่ประสบเหตุการณ์อันตราย และไม่ใช่การตีตนเกินไปหรือความอ่อนแอ

5. การยอมรับความแตกต่างของปฏิกิริยาจากทีม

สมาชิกในทีมอาจมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันแม้ในสถานการณ์เดียวกัน สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าแต่ละคนมีการฟื้นฟูในแบบที่แตกต่างกัน และการให้เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คนในทีมรู้สึกดีขึ้น

6. การให้การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ

หากทีมงานมีความรู้สึกว่าจำเป็นต้องการความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาหรือบุคลากรทางการแพทย์ ควรให้การติดต่อและเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมเพื่อการสนับสนุนที่ดีที่สุด

หลักการในการดูแลทีมทางด้านอารมณ์

ในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ ผู้นำทีมสามารถใช้หลักการปฐมพยาบาลทางอารมณ์เพื่อช่วยในการฟื้นฟูจิตใจของทีมได้ โดยแบ่งออกเป็น 10 หลักการสำคัญดังนี้

1. ใจเย็น

เนื่องจากอารมณ์เป็นสิ่งส่งอิทธิพลต่อกันได้ หากผู้นำใจเย็นก็จะทำให้คนอื่น ๆ สามารถใจเย็นขึ้นได้ ที่สำคัญคือต้องใจเย็นโดยไม่ได้ตัดขาดจากสถานการณ์จนมากเกินไปด้วย

2. สร้างความอบอุ่น

การใช้เสียงที่อบอุ่นและท่าทางที่เปิดรับสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบพูด จะช่วยให้ทีมงานรู้สึกว่ามีคนรับฟังและเข้าใจในความรู้สึกของพวกเขา

3. รับรู้ความยากลำบาก

การแสดงออกว่ารับทราบถึงความยากลำบากที่ทีมงานแต่ละคนกำลังเผชิญ จะช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าความรู้สึกของตนเองได้รับการเข้าใจและยอมรับ

4. การฟังอย่างตั้งใจ

การแสดงออกถึงความเข้าอกเข้าใจและตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบพูด รวมถึงการถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขากล่าว จะช่วยให้คนในทีมรู้สึกว่าเขาถูกฟัง

5. ความจริงใจ

การฟังและแสดงความเข้าใจต้องทำด้วยความจริงใจ ไม่ควรทำเพื่อเป็นการปลอบใจเท่านั้น เพราะสมาชิกในทีมสามารถรับรู้ได้ถึงความจริงใจหรือการแกล้งทำ

6. การสร้างพลังบวก

การมอบกำลังใจและเน้นย้ำจุดแข็งของสมาชิกในทีมจะช่วยสร้างพลังบวกให้กับพวกเขา ซึ่งอาจมอบหมายงานที่ทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสถานการณ์

7. ดูแลความปลอดภัย

การดูแลความปลอดภัยของสมาชิกในทีม โดยการถามถึงความปลอดภัยของครอบครัวหรือคนใกล้ชิด จะช่วยให้ทีมรู้สึกว่าหัวหน้าทีมใส่ใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด

8. ดูแลความต้องการทางกาย

การดูแลความต้องการทางกาย เช่น การช่วยเหลือสมาชิกในทีมที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม เป็นการแสดงถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบ

9. การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง

การสร้างช่องทางการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน จะช่วยให้ทีมไม่ต้องวิตกกังวลกับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือสับสน

10. การเข้าถึงความช่วยเหลือ

การช่วยทีมให้สามารถเข้าถึงการสนับสนุนที่จำเป็น เช่น การเข้าถึงบริการทางจิตวิทยาหรือการแพทย์ สามารถช่วยให้สมาชิกในทีมฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังมี Toolkit สำหรับการเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ เพื่อให้ทีมสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างคล่องตัว ตัวอย่างเช่น การแบ่งงานที่จำเป็นและงานที่สามารถเลื่อนออกไป เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาจำกัด หรือการเตรียมการให้พนักงานดูแลตัวเองเพื่อพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

สถานการณ์ฉุกเฉินอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมให้ทีมทุกคนพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อ่านฉบับเต็มได้ที่ : https://hr.un.org/sites/hr.un.org/files/Leadership_in_Emergencies_Toolkit.pdf

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เปิดกลยุทธ์การจ้างงานจาก CEO Duolingo ไม่รับพนักงานที่ไม่มี 5 คุณสมบัติสำคัญนี้!

เผยกลยุทธ์การจ้างงานของ CEO Duolingo ที่เลือกคนที่ตรงตาม 5 คุณสมบัติสำคัญ พร้อมความสำคัญของการรักษาวัฒนธรรมองค์กรที่สนุกสนาน...

Responsive image

5 เคล็ดลับรีแบรนด์จาก Steve Jobs ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Apple

เจาะลึกกลยุทธ์รีแบรนด์จาก Steve Jobs ที่ทำให้ Apple กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก พร้อมวิธีที่ธุรกิจยุคใหม่สามารถนำไปใช้ได้...

Responsive image

ทำไม Andy Jassy อยู่ Amazon ได้เกือบ 30 ปีโดยไม่รู้สึกเบื่อ?

ตอนที่ Andy Jassy เริ่มทำงานที่ Amazon ในปี 1997 เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะอยู่ได้นานขนาดนี้ แถมเคยบอกกับเพื่อนด้วยซ้ำว่า คงไม่ทำงานที่ไหนยาว ๆ เหมือนพ่อที่อยู่บริษัทเดิมมา 45 ปีแน่นอน แ...