ถอดรหัส 4 เคล็ดลับ MR. D.I.Y. ปั้นธุรกิจจาก 1 สู่ 1,000 สาขา

ถ้าพูดถึงร้านขายของที่แทบจะมีครบทุกอย่างในราคาสบายกระเป๋า หลายคนน่าจะนึกถึง “MR.DIY” ที่เราเห็นอยู่แทบทุกห้าง ช่วงไม่กี่ปีมานี้ MR.DIY โผล่ขึ้นเต็มไปหมด และล่าสุดก็เพิ่งเปิดสาขาที่ 1,000 ในไทยไปเรียบร้อย คำถามคือแล้วเขาโตมาถึง 1,000 สาขาได้ยังไง ขายอะไรถึงขยายสาขาได้เร็วขนาดนี้? มาฟังคำตอบจากคุณอานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัทมิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย ใน session “From One Store to 1,000 : MR.DIY’s Winning Growth Strategy in Thailand จากร้านเดียวสู่ 1,000 สาขา: กลยุทธ์การเติบโตของ MR.DIY ในประเทศไทย ณ งาน AssetWise presents MarketingOopsSummit2025

MR.DIY เปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ซีคอน บางแค เมื่อปี 2016 ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักมาก แต่วันนี้ผ่านมา 7-8 ปี เขาขยายได้ถึง 1,000 สาขาทั่วประเทศและกระจายครบทั้ง 77 จังหวัด

ซึ่งเขาไม่ได้แค่ขยายสาขาเร็วอย่างเดียว แต่ยังขยายแบบมีระบบ ซึ่งเป็นจุดที่ธุรกิจค้าปลีกหลายเจ้าทำพลาด มีหลายเจ้าขยายก่อนค่อยคิดทีหลัง แต่ MR.DIY ทำตรงข้าม เขาวางระบบไว้ก่อน ตั้งแต่เรื่องสินค้า, การบริหารสต็อก, การหาทำเล, ไปจนถึงการจัดการทีม

3 สิ่งสำคัญที่ MR.DIY ยึดถือในการทำธุรกิจ 

1. ราคาเข้าถึงง่าย

MR.DIY ไม่ได้ขายของถูกแบบไม่มีคุณภาพ แต่ก็ไม่ได้เน้นสินค้าระดับพรีเมียมเช่นกัน เขาวางตัวชัดว่าเป็นร้านที่ “ของใช้ทั่วไป ราคาสบายกระเป๋า” ที่เน้นปริมาณมากกว่าความหรูหรา

2. มีสินค้าหลากหลายครบจบในที่เดียว

สินค้ามีหลากหลายมาก ตั้งแต่ของใช้ในบ้าน, เครื่องเขียน, ของเล่น, เครื่องมือช่าง ไปจนถึงอุปกรณ์รถยนต์รวมแล้วมีมากกว่า 15,000 รายการ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสะดวกดีเข้าไปทีเดียวได้ของหลายอย่างจบในรอบเดียว 

3. เข้าถึงง่ายและสะดวก 

ตอนแรก MR.DIY เปิดในห้างเกือบทั้งหมดเพราะในห้างมีคนเดินเข้าออกเป็นประจำอยู่แล้ว แต่พอเจอโควิด ห้างปิด คนไม่เดิน เขาก็เปลี่ยนแผนเร็ว หันมาเปิด “ร้านเดี่ยว” ตามปั๊ม ตามชุมชนหรือริมถนนสายหลักทันที จุดนี้เป็นหมากสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์โตเร็ว เพราะเข้าถึงคนได้มากขึ้นและไม่ต้องพึ่งแค่ห้าง ขณะเดียวกันร้านแบบ Stand alone  ก็จะมีค่าเช่าที่ถูกลง มีความยืดหยุ่นมากกว่าด้วย จากที่เคยเปิดปีละ 50-100 สาขา กลายเป็นการเปิดเพิ่มอีก 750 สาขาในเวลาไม่กี่ปี จนครบ 1,000 สาขาในปัจจุบัน  นอกจากหน้าร้าน MR.DIY ยังเดินหน้าขยายช่องทางออนไลน์ควบคู่กันไป ไม่พึ่งแค่หน้าร้านเพียงอย่างเดียว 

เคล็ดลับสำคัญที่ SME เอาไปใช้ได้จริง

1. วางระบบให้พร้อมตั้งแต่วันแรก 

“จงตั้งร้านแรกให้เหมือนคุณมี 100 ร้าน” ไม่ใช่แค่คำพูดเท่ ๆ แต่คือแนวคิดที่คุณอานุภาพ คงมาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด ของ MR.DIY  ใช้จริง การวางระบบหลังบ้านตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็น POS, สต็อก, โครงสร้างทีม หรือคู่มือการทำงาน ล้วนทำให้ขยายธุรกิจได้เร็วและไม่สะดุด

MR.DIY ไม่ใช่แบรนด์ที่อาศัยพนักงานเก่ง ๆ แค่ไม่กี่คน แต่เขาสร้าง “ระบบ” ให้คนธรรมดาทำงานได้ดีเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจัดการสต็อก การวางของในร้าน หรือการฝึกอบรมพนักงาน ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้ทำได้เหมือนกันทุกสาขาเพราะถ้าคิดจะขยายเป็นพันสาขา โดยไม่มีระบบรองรับ ต่อให้ของดีแค่ไหน ก็วุ่นวายมากแน่นอน

2. เข้าใจลูกค้าให้มาก ก่อนขยายสาขา

ข้อได้เปรียบของ SME คือการใกล้ชิดลูกค้า ใช้โอกาสนี้พูดคุย เก็บข้อมูลและสังเกตพฤติกรรม เพื่อเข้าใจลูกค้าให้ถ่องแท้ก่อนจะตัดสินใจขยายสาขา 

3. อย่าขายของอย่างเดียว แต่ต้องสร้างแบรนด์ด้วย 

MR.DIY ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ขายแบบทื่อ ๆ แต่สร้างแบรนด์ผ่านการมีส่วนร่วม เช่น แคมเปญ “Shop & Show” บน Facebook ที่ลูกค้าโพสต์ภาพของที่ซื้อ พร้อมแฮชแท็ก ได้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้มีผู้เข้าร่วมเพิ่มจากหลักร้อยเป็นเกือบ 60,000 คน เพราะมันง่าย ใครก็เล่นได้

4. ให้ความสำคัญกับ “คน” และ “วัฒนธรรมองค์กร”

องค์กรใหญ่จะอยู่ได้ยาว ถ้าคนมีความเข้าใจในวัฒนธรรมเดียวกัน ไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียว ต้องเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน และได้รับการ “เชื่อใจ” จากหัวหน้า เช่นเดียวกับที่คุณอนุภาพบอกว่า คนเก่งต้องได้รับ Empowerment และ Trust จึงจะโชว์ศักยภาพได้เต็มที่

‘SPEED’ สูตรลับความเร็วของ MR.DIY

คุณอานุภาพ ฝาก 4 แนวคิดไว้ในคำว่า “SPEED” ที่ SME ก็เอาไปปรับใช้ได้

• S = Focus & Speed: ทำงานเร็ว แต่ไม่สะเปะสะปะ ต้องรู้ว่าควรโฟกัสอะไร
• P = Positivity: มีทัศนคติบวก มองวิกฤตเป็นโอกาส อย่าหยุดเรียนรู้
• E = Effective & Efficiency: ทำงานอย่างชาญฉลาด (Work Smart) ไม่ใช่แค่ทำงานหนักเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดภายใต้งบประมาณและเวลาที่จำกัด
• D = Data-Driven: ใช้ข้อมูลช่วยตัดสินใจ ลดการสุ่ม เพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับข้อมูล