บทบาท CEO ผู้หญิง ทำอย่างไรเมื่อต้องเป็น ‘คุณแม่’ ? คุยกับมินท์ EATLAB หญิงเก่งผู้เชี่ยวชาญด้าน Data | Techsauce

บทบาท CEO ผู้หญิง ทำอย่างไรเมื่อต้องเป็น ‘คุณแม่’ ? คุยกับมินท์ EATLAB หญิงเก่งผู้เชี่ยวชาญด้าน Data

ทำกับข้าว ดูแลบ้าน เลี้ยงลูก คำนิยามในอดีตที่จำกัดหน้าที่ของผู้หญิงอย่างชัดเจน แต่ในปัจจุบันนี้บทบาทของผู้หญิงไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เราได้เห็นผู้หญิงก้าวขึ้นมาสู่การทำงานในระดับแนวหน้าทั้ง CEO ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือแม้กระทั่งในสายงานที่เคยมีแต่ผู้ชายเท่านั้นอย่างวงการเทคโนโลยี 

วันนี้ Techsauce ชวนคุยกับหนึ่งในผู้หญิงที่โลดแล่นอยู่ในวงการเทคโนโลยีและเชี่ยวชาญในด้าน Data พร้อมจบจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) ในด้าน  Data Science โดยเฉพาะ คุณมินท์ ดร.ชนิกานต์ ว่องวิริยะวงศ์ CEO แห่ง EATLAB นอกเหนือจากความสามารถในการทำงานแล้ว อีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่หนีไม่พ้นคือบทบาทของความเป็นแม่ที่ตั้งใจจะดูแลและเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด มาอ่านมุมมองของคุณมินท์ต่อบริบทของผู้หญิงและการทำหน้าที่ที่หลากหลายได้อย่างมืออาชีพ 

EATLAB คืออะไร ทำไมถึงต้องเป็น EATLAB

EATLAB คือแพลตฟอร์มที่เข้ามาช่วยร้านอาหารในการจัดการเมนูอาหารและบริการ ผ่านการใช้เทคโนโลยี AI รวมถึงนำเทคโนโลยีนี้มาช่วยตั้งราคาสินค้าและโปรโมชั่นต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีความแตกต่างจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลรายอื่นๆ เพราะมีการนำเอา Data ที่ได้จากพฤติกรรมผู้บริโภคมาปรับใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงผู้บริโภค เพื่อสร้างผลกำไรและรายรับที่ดีให้กับร้านค้า โดยนำเอาเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้กับอุตสาหกรรมร้านอาหารและปรับเข้ากับฝ่ายที่หลายๆ คนอาจจะมองว่าปรับตัวยากที่สุด 

กระแสตอบรับของผู้บริโภคเป็นอย่างไรบ้าง  

ในช่วงปลายสิงหาที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวบริการแรกไป ซึ่งเป็นระบบวิเคราะห์สำหรับร้านอาหารที่ทำหน้าที่นำเสนอเมนูใหม่ในราคาที่เหมาะสม และจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ในตอนนี้หลายๆ ร้านอาหารก็ได้ใช้บริการของเรา ซึ่งในปัจจุบันนี้เรามีลูกค้าเป็นร้านอาหารจำนวน 89 ร้านแล้ว และเรากำลังมองหาผู้ที่พร้อมจะปรับตัวและมีศักยภาพในการรับบริการรวมถึงพร้อมขยายการทำงาน 

มองเทรนด์ของ FoodTech อย่างไรบ้าง

เป็นเรื่องของ Automation ต้องบอกว่าประเทศไทยของเราโชคดี เพราะปลูกอะไรก็ขึ้น มีพื้นที่ มีวัตถุดิบมาตั้้งแต่แรก แต่ในอนาคตเราคงจะไปพึ่งพาพวกทรัพยากรในเชิงการผลิตแบบนี้ตลอดคงไม่ได้ เพราะมีมูลค่าต่ำ และคนอื่นก็ทำได้เช่นกันในราคาที่ถูกกว่า โดยทั่วไป GDP ไทยนั้นขึ้นอยู่กับการส่งออกอาหารค่อนข้างเยอะ ซึ่งวัตถุดิบนี้ที่ส่งออกไปไม่ใช่สินค้าที่มีมูลค่าสูง มันจึงเป็นจุดที่ผู้ประกอบการควรจะเข้ามาแก้ไข เราเลยมองว่ามันเริ่มมี Disruption เกิดขึ้นในฝั่งของอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร 

ถ้าเราจะไปสร้างอาหารจาก Lab เริ่มมีวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมกับวัตถุดิบ แล้วคุณค่าของการเป็นประเทศที่เคยเป็นแหล่งผลิตอาหารเป็นอันดับต้นๆ ของโลกจะเป็นเช่นไร อันนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล ตอนนี้เริ่มมีการถูกแทนที่ด้วยการทำงานแบบไม่ใช้คน ไม่ต้องใช้วิธีธรรมชาติมากนัก ซึ่ง Disruption มันเกิดขึ้นแต่ยังเล็กๆ อย่างกรรมวิธีในการผลิต พอมาในส่วนของการกระจายสินค้าอย่าง Food Delivery ก็มีการ Disrupt ชัดมาก และมาจบที่การบริโภค 

EATLAB เองก็พยายามข้ามขั้นตอนผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าคนจะชอบแล้วลองตลาด และนำวิธีการใช้ Data ในการทำให้ร้านอาหารรู้ใจลูกค้ามากขึ้น โดยไม่ต้องไปทดลองและเปลืองทรัพยากรมากมาย ซึ่งมันคือการเล่นกับข้อมูลว่าที่มีอยู่แล้ว นำเอามาสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คน

ถ้ามองสรุปเป็นวงจรคือตั้งแต่ฟาร์ม สู่กระบวนการผลิตไปจนถึงผู้บริโภค และการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า กระบวนการผลิตและส่วนสุดท้ายที่เป็นเรื่องการบริโภคยังไม่ถูก Disrupt มาก แต่การกระจายสินค้าอาหาร การทำการตลาดว่าจะสื่อสารถึงใครเกิดขึ้นแล้ว ถึงอย่างไรแล้วสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ถูกต้องเสมอไป อย่างเราอาจจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรามีลักษณะพฤติกรรมที่คล้ายกับคนอื่นๆ ในกลุ่ม 

นอกจากนี้ได้ยินมาว่าคุณมินท์ยังได้เข้าร่วม Pitching ใน She loves tech ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งเป็นงานที่มีผู้หญิงในวงการเทคเข้าร่วมจำนวนมาก มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

มองว่าจีนคือจุดหมายใหม่ที่น่าสนใจของ Startup ซึ่งเป็นโอกาสดีในการที่จะได้เรียนรู้จากบริษัทต่างๆ ในหลากหลายแง่มุม 

ความท้าทายที่พบเจอในฐานะที่ต้องสวมทั้งบทบาทของการเป็นแม่และ CEO

คุณมินท์เล่าว่า 2 เดือนหลังจากที่ลูกคนแรกเกิด เธอต้องบินไปสิงคโปร์เพื่อทำงาน นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากเมื่อต้องห่างจากลูก แต่ถึงอย่างไรก็ตามในฐานะแม่ เธอก็จำเป็นจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกๆ ในขณะที่ต้องแสดงออกให้เขาเห็นถึงความรักและการดูแลเอาใจใส่เสมือนเด็กคนอื่นๆ ทำให้ต้องจัดสรรเวลาให้มีประโยชน์สูงที่สุดเพื่อที่จะทำงานอื่นๆ ให้เสร็จและใช้เวลากับลูก ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในฐานะ CEO แต่การกระทำทั้งหมดนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำเพื่อแสดงให้ลูกๆ ได้เห็นในวันหนึ่งว่าแรงพลังทั้งหมดนั้นก็มาจากลูกๆ นั่นเอง พวกเขาคือคนที่ช่วยให้คุณมินท์ทำสิ่งที่เกินคาดและบรรลุเป้าหมายที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ 

ด้วยบทบาทความเป็นผู้หญิง เคยมีประสบการณ์ความท้าทายในการ ทำ Startup หรือไม่ ทั้งในแง่ของการนำบริษัท หรือการระดมทุน

มันมีความคิดอคติเกิดขึ้นเสมอในโลก ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้หญิงจำนวนหนึ่ง แต่ส่วนตัวไม่ค่อยได้เจอบ่อยนัก จะพูดอีกอย่างก็ได้ว่าเป็นคนที่มักไม่ค่อยมองเรื่องเหล่านี้เป็นอุปสรรคทางการทำงานมาก เพราะค่อนข้างเป็นคนที่ถ้าตั้งใจอะไรแล้ว จะทำให้สำเร็จให้ได้ ในอีกทางหนึ่งคือต้องขอบคุณสามีที่ทำหน้าที่เป็นแทบทุกอย่างทั้ง CTO COO CMO และเพื่อน ซึ่งทั้งหมดนี่มีส่วนช่วยในกาารผลักดันเธอมาอย่างสม่ำเสมอ 

ทำไมเราถึงไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการเทคโนโลยี

ถ้าให้มุ่งตรงไปที่จุดหลัก ก็ต้องบอกว่าทุกวันนี้เรายังไม่มีผู้หญิงที่เป็นผู้ประกอบการมากนัก รวมถึงตัวอย่างของความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากผู้หญิงที่เยอะนัก ทำให้มันยากที่จะเชิญชวนให้เด็กรุ่นใหม่มาหันเข้าสู่วงการเทคโนโลยี ในขณะที่เราเห็นผู้หญิงจำนวนมากในวงการความงามอยู่มากมาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่ถ้าเราอยากก้าวข้ามออกจากวงโคจรแบบเดิม ก็ต้องกล้าหาญที่จะก้าวออกมา 

คิดว่าอะไรจะช่วยผลักดันให้ผู้หญิงมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในวงการเทค และคิดว่ายังมีอะไรที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ในปัจจุบัน

เท่าที่สังเกตมามีผู้หญิงที่ทำงานในตำแหน่งสูงๆ เยอะในเมืองไทย ดังนั้นโอกาสที่บริษัทใหญ่ๆ ได้ให้กับผู้หญิงไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเรื่องเพศว่าผู้หญิงทำอะไรได้หรือไม่ได้ มองอีกมุมหนึ่งคือเรื่องการศึกษาหรือแบบอย่างที่เป็นผู้หญิง ส่วนใหญ่จะถูกมองให้เป็นด้านอื่น อย่างเช่น ผู้หญิงมักได้รับอิทธิพลในด้านความงาม รูปร่าง หน้าตา มีอะไรแบบนั้นเยอะมากให้ได้เห็น ไม่ได้มีแบบอย่างของผู้หญิงเก่งมาก ถ้าเป็นสิงคโปร์ก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพยากรมนุษย์ ในเรื่องการพัฒนาคน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกแต่เป็นเรื่องของความรู้ ความสามารถ จึงเป็นจุดที่ทำให้รู้สึกว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง

คำแนะนำสำหรับผู้หญิงในวงการเทคโนโลยี หรือผู้หญิงที่อยากก้าวเข้ามาอยู่ในวงการนี้

เราไม่ได้มองว่ามันแยกออกมาจากเทคโนโลยี เพราะจริงๆ แล้ว ผู้ประกอบการคือคนที่ชอบแก้ปัญหา และส่วนใหญ่มักเลือกแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยี หลายๆ ครั้งคือตัวเจ้าของเองอาจจะไม่ใช่คนที่สร้างผลิตภัณฑ์ออกมาแต่เป็นคนที่หาวิธีการแก้ปัญหาให้กับผู้คน 

มองอีกมุมหนึ่งเรื่องการเป็นผู้ประกอบการ การเป็นนักแก้ปัญหาบางทีผู้หญิงมักจะได้เปรียบด้วยซ้ำ เพราะชีวิตเกิดมาต้องแก้ปัญหาหลายอย่างของผู้คนมากมาย เรียกว่าผู้หญิงมีสัญชาตญาณที่อยากจะช่วยเหลือคนอื่น แต่ข้อเสียก็อาจจะเป็นในเรื่องของการสร้างเครือข่ายกับผู้คน ที่อาจจะไม่กว้างขวางเท่าผู้ชาย เพราะกลุ่มสังคมมักถูกจำกัดอยู่บนความสนใจหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งบ่อยครั้งก็ไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องของระดับความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง อีกทั้งด้วยความที่วงการเทคโนโลยีส่วนใหญ่อาจจะถูกควบคุมโดยผู้ชายด้วย ยิ่งผู้หญิงที่มีลูกแล้วอย่างเรา การออกไปพบคนเข้าสังคมตอนสองทุ่มก็คงยาก มันเป็นช่วงเวลาส่งลูกเข้านอน นี่ก็ทำให้ Network หายไปค่อนข้างเยอะ เพราะเราไม่สามารถไปงานต่างๆ ได้ 

ทักษะที่มองว่ามีความจำเป็นในอนาคต

ความสามารถในการเข้าใจคน เพราะคิดว่ามันคงเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีจะมาทำแทนไม่ได้ในเร็ว ๆ นี้ อย่างน้อยความรู้สึกของคนก็ต้องใช้คน (Human Touch) สุดท้ายถ้าอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ปัจจัยที่สำคัญก็คือการที่เราเข้าใจผู้คน เข้าใจลูกค้าและเข้าใจปัญหาของเขา 

อยากให้คนรุ่นใหม่มีทักษะที่มุ่งเน้นไปที่ปัญหาของคน ไม่ได้มองไปที่ปัญหาแค่เรื่องเงิน ถ้าคนมีปัญหาเราก็ไปช่วยเขาแก้ มันเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ เรามีวิธีการแก้ที่มันสเกลได้ มันก็เลยกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ อีกอย่างคือการเป็นคนที่นึกถึงคนอื่นก่อน 

อยากให้กำลังใจคนที่ทำ Startup ในเมืองไทย เพราะมันยากสิ่งสำคัญคือเราต้องไม่ล้มเลิก ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม สิ่งนั่นไม่ได้เป็นข้อจำกัด หากเรามีเป้าหมายที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ย่อมเป็นเรื่องยากเสมอ เพราะถ้ามีคนทำไปแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องมีเรา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันถึงยาก มันยากเพราะยังไม่มีใครทำได้

อย่ายอมแพ้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นผู้ประกอบการได้ มันเหมือนเป็นคำสาป เป็นภาระหน้าที่บนคำสาป ก็ต้องถอนคำสาปโดยการแก้ปัญหา เราไม่ทำก็ไม่ได้  ธรรมชาติของเราเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้  แม้จะเหนื่อยแต่การได้ทำนั้นคือความสุข อย่าท้อแท้

 



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 ข้อแตกต่างที่ทำให้ Jensen Huang เป็นผู้นำใน 0.4% ด้วยพลัง Cognitive Hunger

บทความนี้จะพาทุกคนไปถอดรหัสความสำเร็จของ Jensen Huang ด้วยแนวคิด Cognitive Hunger ความตื่นกระหายการเรียนรู้ เคล็ดลับสำคัญที่สร้างความแตกต่างและนำพา NVIDIA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับ...

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...