'คำชม' คำพูดสั้นๆ ที่สามารถปลุกไฟในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนได้อย่างน่าอัศจรรย์ | Techsauce

'คำชม' คำพูดสั้นๆ ที่สามารถปลุกไฟในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนได้อย่างน่าอัศจรรย์

ทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย หรือประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง มนุษย์เงินเดือนอย่างเราย่อมต้องการได้รับคำชมหรือกำลังใจจากเจ้านาย แม้อาจจะได้รับคำชมแค่ ‘เก่งมาก’ หรือคำพูดเพียงเล็กน้อยๆก็ตาม แต่หารู้ไม่ว่า ‘คำชม’ สั้นๆ ที่เหมือนจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป กลับปลุกไฟในการทำงานให้กลับมาลุกโชนได้มากแค่ไหน

 Credit ภาพประกอบ: freepik 

‘คำชม’ สำคัญไฉนสำหรับคนวัยทำงาน

เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ที่เมื่อได้รับคำชมจากเจ้านายและคนรอบข้างแล้ว มักจะรู้สึกดีและภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง แม้จะเป็นเพียงแค่คำชมเล็กน้อยก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะว่าตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น เมื่อได้รับคำชมร่างกายจะหลั่งสาร dopamine ออกมา ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกปิติยินดี และยังช่วยให้สมองโล่งปลอดโปร่ง สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกปิติยินดีที่เกิดขึ้นจะคงอยู่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หากต้องการปลุกไฟในตัวคนทำงานให้กลับมาทำงานจากหัวใจอีกครั้ง พวกเขาควรได้รับคำชมสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการทำงานตามความเป็นจริงด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะได้รับคำชม หรือรางวัลแห่งความสำเร็จเล็กน้อย ยิ่งกว่านั้น จากงานวิจัยของ Jim Harter หัวหน้าทีมนักวิจัยแห่ง Gallup Organization ยังพบอีกว่า หากพนักงานคนไหนไม่ได้รับคำชมจากการทำงานเท่าที่ควร พนักงานคนนั้นมีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานภายในปีถัดไป จากการแรงจูงใจในการทำงาน

คำชม’ เพียงเล็กน้อย ก็สามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้คนทำงานสู้ต่อไปได้

ปี 2004 Gallup Organization ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสำคัญของการได้รับคำชมและยอมรับจากที่ทำงาน จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างของคนวัยทำงานกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก และพบว่าพนักงานที่ได้รับคำชมเป็นประจำสม่ำเสมอ มีแนวโน้มที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า พนักงานที่ไม่ได้รับคำชมจากเจ้านายและคนรอบข้างเลย ยิ่งกว่านั้น งานวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่า สำหรับงานบริการพนักงานที่ได้รับคำชมจากที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง มักจะได้คะแนนความพึงพอใจจากลูกค้ามากกว่าด้วย

ขณะที่งานวิจัยของ The Carrot Principle ที่ศึกษาเกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำงาน จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างของทั้งพนักงานและเจ้านายกว่า 200,000 คนพบว่า หากเจ้านายหมั่นชื่นชมและให้กำลังในการทำงานแก่พนักงานของพวกเขาสม่ำเสมอ จะส่งผลให้อัตราการลาออกของพนักงานลดลง พนักงานสามารถทำงานได้ตามเป้าหมาย และมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น

Adrian Gostick และ Chester Elton นักวิจัยของ The Carrot Principle ยังพบความสัมพันธ์ที่มีนัยยะสำคัญ ระหว่างคำชมจากเจ้านายและแรงจูงใจในการทำงานของพนักงาน โดยพนักงานกว่า 94.4% ที่ได้รับการพิจารณาว่า มีกำลังใจในการทำงานค่อนข้างดี (จากงานวิจัยของ The Carrot Principle) กล่าวว่า พวกเขามีเจ้านายที่คอยเอาใจใส่ และชื่นชมต่อความสำเร็จในการทำงานของพนักงาน

เพราะฉะนั้น แม้ว่า ‘คำชม’ จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ที่บางครั้ง เจ้านายอาจพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แท้จริงแล้ว มันสามารถสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับคนทำงาน (อย่างพวกเรา) อย่างมาก ทำให้เรารู้สึก มีคุณค่าต่อองค์กร และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต

ไม่ว่า ‘คำชม’ จะมีพลังมากแค่ไหน หากขาด ‘ความจริงใจ’ ก็เท่านั้น

แม้ว่า จะมีงานวิจัยมากมาย ที่สนับสนุนความสำคัญของการชื่นชมและให้กำลังใจภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึง วิธีการชื่นชมพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญกลับมีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือ ความจริงใจ

Gallup Organisation เน้นย้ำว่า คำชมที่ดี ต้องเหมาะสมกับประสิทธิภาพ และความสำเร็จจากการทำงานที่เกิดขึ้นจริง เพราะ ถ้าหากเจ้านาย ไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อพนักงานอย่างจริงใจ และเพียงแค่แกล้งชมให้มันผ่านไป นอกจาก จะทำให้พนักงานคนนั้น ไม่ได้รับคำแนะนำจากการทำงานที่แท้จริง จนกระทั่งไม่รู้จุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในฐานะผู้นำองค์กรอีกด้วย 

ขณะที่ Carol Dweck นักจิตวิทยาชื่อดัง พบว่า เด็กที่ได้รับคำชมด้วยคำว่า ‘เก่งมาก’ เพียงเพื่อให้ผ่านไป โดยไม่ได้รับความจริงใจจากผู้ใหญ่เลย มีแนวโน้มที่จะพึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ และไม่ขวนขวายที่จะพัฒนาตัวเอง ขณะที่ เด็กที่ได้รับคำชมจากความสำเร็จของเขาจริงๆ กลับมีแนวโน้มที่จะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลมากกว่า   

เพราะฉะนั้น เมื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานภายในองค์กร เจ้านายควรชื่นชม เฉพาะ ความสำเร็จจากการทำงานที่เกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องระบุอย่างชัดเจนเลยว่า รู้สึกประทับใจในการทำงานส่วนไหนของพนักงาน พร้อมด้วยเหตุผลและแนวทางในการพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะให้พนักงานคนนั้น ได้รับรู้ว่า จุดไหนที่เขาควรเก็บไว้เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป 

อ้างอิง: trainingjournal

สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก Techsauce Thailand ได้ ที่นี่

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...

Responsive image

ทำไม Fastwork ขาดทุนเกือบทุกปี ? ฟังเหตุผลของ CK Cheong

Fastwork เป็นอีกหนึ่งชื่อธุรกิจที่มาแรงในช่วงเวลานี้ ด้วยความไวรัลบนโลกออนไลน์ของผู้บริหาร CK Cheong (ซีเค เจิง) ที่มักทำคลิปให้ทัศนะเรื่องการเงิน การใช้ชีวิต และธุรกิจ แต่กลับถูกต...