ทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย หรือประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง มนุษย์เงินเดือนอย่างเราย่อมต้องการได้รับคำชมหรือกำลังใจจากเจ้านาย แม้อาจจะได้รับคำชมแค่ ‘เก่งมาก’ หรือคำพูดเพียงเล็กน้อยๆก็ตาม แต่หารู้ไม่ว่า ‘คำชม’ สั้นๆ ที่เหมือนจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป กลับปลุกไฟในการทำงานให้กลับมาลุกโชนได้มากแค่ไหน
เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ที่เมื่อได้รับคำชมจากเจ้านายและคนรอบข้างแล้ว มักจะรู้สึกดีและภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง แม้จะเป็นเพียงแค่คำชมเล็กน้อยก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะว่าตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น เมื่อได้รับคำชมร่างกายจะหลั่งสาร dopamine ออกมา ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกปิติยินดี และยังช่วยให้สมองโล่งปลอดโปร่ง สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกปิติยินดีที่เกิดขึ้นจะคงอยู่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หากต้องการปลุกไฟในตัวคนทำงานให้กลับมาทำงานจากหัวใจอีกครั้ง พวกเขาควรได้รับคำชมสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการทำงานตามความเป็นจริงด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะได้รับคำชม หรือรางวัลแห่งความสำเร็จเล็กน้อย ยิ่งกว่านั้น จากงานวิจัยของ Jim Harter หัวหน้าทีมนักวิจัยแห่ง Gallup Organization ยังพบอีกว่า หากพนักงานคนไหนไม่ได้รับคำชมจากการทำงานเท่าที่ควร พนักงานคนนั้นมีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานภายในปีถัดไป จากการแรงจูงใจในการทำงาน
ปี 2004 Gallup Organization ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสำคัญของการได้รับคำชมและยอมรับจากที่ทำงาน จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างของคนวัยทำงานกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก และพบว่าพนักงานที่ได้รับคำชมเป็นประจำสม่ำเสมอ มีแนวโน้มที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า พนักงานที่ไม่ได้รับคำชมจากเจ้านายและคนรอบข้างเลย ยิ่งกว่านั้น งานวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่า สำหรับงานบริการพนักงานที่ได้รับคำชมจากที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง มักจะได้คะแนนความพึงพอใจจากลูกค้ามากกว่าด้วย
ขณะที่งานวิจัยของ The Carrot Principle ที่ศึกษาเกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำงาน จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างของทั้งพนักงานและเจ้านายกว่า 200,000 คนพบว่า หากเจ้านายหมั่นชื่นชมและให้กำลังในการทำงานแก่พนักงานของพวกเขาสม่ำเสมอ จะส่งผลให้อัตราการลาออกของพนักงานลดลง พนักงานสามารถทำงานได้ตามเป้าหมาย และมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น
Adrian Gostick และ Chester Elton นักวิจัยของ The Carrot Principle ยังพบความสัมพันธ์ที่มีนัยยะสำคัญ ระหว่างคำชมจากเจ้านายและแรงจูงใจในการทำงานของพนักงาน โดยพนักงานกว่า 94.4% ที่ได้รับการพิจารณาว่า มีกำลังใจในการทำงานค่อนข้างดี (จากงานวิจัยของ The Carrot Principle) กล่าวว่า พวกเขามีเจ้านายที่คอยเอาใจใส่ และชื่นชมต่อความสำเร็จในการทำงานของพนักงาน
เพราะฉะนั้น แม้ว่า ‘คำชม’ จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ที่บางครั้ง เจ้านายอาจพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แท้จริงแล้ว มันสามารถสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับคนทำงาน (อย่างพวกเรา) อย่างมาก ทำให้เรารู้สึก มีคุณค่าต่อองค์กร และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต
แม้ว่า จะมีงานวิจัยมากมาย ที่สนับสนุนความสำคัญของการชื่นชมและให้กำลังใจภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึง วิธีการชื่นชมพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญกลับมีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือ ความจริงใจ
Gallup Organisation เน้นย้ำว่า คำชมที่ดี ต้องเหมาะสมกับประสิทธิภาพ และความสำเร็จจากการทำงานที่เกิดขึ้นจริง เพราะ ถ้าหากเจ้านาย ไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อพนักงานอย่างจริงใจ และเพียงแค่แกล้งชมให้มันผ่านไป นอกจาก จะทำให้พนักงานคนนั้น ไม่ได้รับคำแนะนำจากการทำงานที่แท้จริง จนกระทั่งไม่รู้จุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในฐานะผู้นำองค์กรอีกด้วย
ขณะที่ Carol Dweck นักจิตวิทยาชื่อดัง พบว่า เด็กที่ได้รับคำชมด้วยคำว่า ‘เก่งมาก’ เพียงเพื่อให้ผ่านไป โดยไม่ได้รับความจริงใจจากผู้ใหญ่เลย มีแนวโน้มที่จะพึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ และไม่ขวนขวายที่จะพัฒนาตัวเอง ขณะที่ เด็กที่ได้รับคำชมจากความสำเร็จของเขาจริงๆ กลับมีแนวโน้มที่จะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลมากกว่า
เพราะฉะนั้น เมื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานภายในองค์กร เจ้านายควรชื่นชม เฉพาะ ความสำเร็จจากการทำงานที่เกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องระบุอย่างชัดเจนเลยว่า รู้สึกประทับใจในการทำงานส่วนไหนของพนักงาน พร้อมด้วยเหตุผลและแนวทางในการพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะให้พนักงานคนนั้น ได้รับรู้ว่า จุดไหนที่เขาควรเก็บไว้เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป
อ้างอิง: trainingjournal
สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจบทความเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ทักษะที่จำเป็นในอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อรับอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และบทความในอนาคต จาก Techsauce Thailand ได้ ที่นี่
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด