SMEs ควรรู้ก่อนสาย โลกร้อนเสี่ยงกระทบผลกำไร พร้อมวิธีรับมือช่วยโลกและธุรกิจของคุณ | Techsauce

SMEs ควรรู้ก่อนสาย โลกร้อนเสี่ยงกระทบผลกำไร พร้อมวิธีรับมือช่วยโลกและธุรกิจของคุณ

การแก้ไขวิกฤติสภาพอากาศถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกภาคส่วน เมื่อวิกฤติภูมิอากาศในปัจจุบันรุนแรงขึ้น ทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส 

เป้าหมายของข้อตกลงปารีส คือ การจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 °C เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงที่สุดของวิกฤตสภาพอากาศ

มีการเรียกร้องให้บริษัทใหญ่ ๆ ในอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อโลก เช่น พลังงาน คมนาคม เป็นต้น แสดงความรับผิดชอบ แต่ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และธุรกิจครอบครัวก็ควรมีส่วนร่วมในการดำเนินการเหล่านี้ด้วย 

ทั่วโลกมีธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และธุรกิจครอบครัวประมาณ 400 ล้านธุรกิจ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าธุรกิจ SMEs และธุรกิจครอบครัวก็มีความสำคัญไม่แพ้บริษัทใหญ่เลย นั่นแปลว่าคุณก็มี ‘อำนาจและหน้าที่’ ในการส่งเสริมและมีส่วนร่วมกับการแก้ไขวิกฤติภูมิอากาศด้วยเช่นกัน

สิ่งแวดล้อมสำคัญยังไงกับการเงินของธุรกิจ SMEs

หากคุณคิดว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไกลตัว มีแค่บริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สิ่งที่อยากให้คุณคำนึงถึงมากที่สุด คือ ความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากวิกฤติภูมิอากาศ เช่น ความเสียหายที่อาจเกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการเงินของธุรกิจโดยตรง 

แต่นอกจากผลกระทบทางตรงแล้ว ยังมีผลกระทบทางอ้อมซึ่งคุณเองอาจจะยังไม่เคยนึกถึง อย่าง นโยบายจากภาครัฐ ที่บีบให้ธุรกิจต้องทำตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนจากผู้คน ที่ในปัจจุบันเริ่มให้ความสนใจในธุรกิจที่ใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อม 

ทั้ง 2 ปัจจัยนี้ส่งผลกระทบกับการเงินของธุรกิจ SMEs อย่างไร ไปดูกัน !

นโยบายภาครัฐ

รัฐบาลสหรัฐ :  รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เสนอข้อกำหนดให้ผู้รับเหมา ซัพพลายเออร์ และหน่วยงานของรัฐ เช่น หน่วยงานราชการอิสระ กระทรวงกลาโหม และองค์การนาซา เปิดเผยการปล่อยมลพิษและความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากวิกฤติภูมิอากาศ รวมถึงตั้งเป้าหมายในการลดมลพิษ 

สหภาพยุโรป :  กฎใหม่ที่ออกโดยสหภาพยุโรป (EU) อย่าง Corporate Sustainability Reporting Directive กฎนี้ระบุว่าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประมาณ 50,000 ราย รวมถึงบางส่วนจากสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม 

แคลิฟอร์เนียร์ : แคลิฟอร์เนียกำลังพิจารณาให้บริษัทต่าง ๆ ให้รายละเอียดว่าธุรกิจของพวกเขาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร รวมถึงการใช้เงินจากบำนาญสำหรับครูและพนักงานของรัฐมาผลักดันให้ธุรกิจทำเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

จากตัวอย่างข้างต้น เราจะเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายและมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่มาจากนโยบายภาครัฐ ทำให้บริษัทขนาดใหญ่เริ่มดำเนินการเพื่อลดมลภาวะในกระบวนการผลิตและการจัดส่งทั้งหมด (supply chains) โดยขอให้บริษัทคู่ค้า ซึ่งก็คือ SMEs ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

พนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

ในปัจจุบันพนักงานและลูกค้า ก็ต้องการให้บริษัทต่าง ๆ จัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง 

ผลสำรวจจากบริษัท Edelman Trust Barometer ในปี 2023 พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการ CEO ที่มีแนวคิดในการรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ และผลสำรวจจากทั่วโลกพบว่าเกือบ 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกซื้อแบรนด์ตามค่านิยม เช่น จุดยืนของแบรนด์ต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศ 

ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของพนักงานและลูกค้าได้ พนักงานอาจเลือกที่จะไปทำงานกับบริษัทอื่น และลูกค้าอาจเลือกซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทอื่นแทน

ดังนั้นอนาคตทางธุรกิจและการเงินของบริษัทจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการรับมือเพื่อจัดการกับวิกฤติภูมิอากาศเช่นเดียวกัน

การจัดการแนวทางธุรกิจเพื่อรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมสำหรับ SMEs

ประการแรก คือ การทำงานร่วมกับบริษัทใหญ่ ธุรกิจ SMEs (วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) สามารถเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความยั่งยืนในวงจรธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกับบริษัทใหญ่ เนื่องจากธุรกิจ SMEs มักจะเป็นผู้จัดหาสินค้าหรือบริการให้กับบริษัทใหญ่เหล่านี้ 

จึงมีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้แก่บริษัทใหญ่ ธุรกิจ SMEs จึงมีส่วนช่วยบริษัทใหญ่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ 

ประการที่สอง คือ การนำแนวทางในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้เอง ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในด้านการใช้พลังงาน ดึงดูดนักลงทุนจากการเป็นธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนช่วยในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งขึ้นด้วย

การละเลยปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจครอบครัว

ธุรกิจที่บริหารโดยคนในครอบครัวสืบต่อกันมา ถึงแม้จะเป็นธุรกิจที่ทำมายาวนานและได้รับความไว้วางใจจากคนในพื้นที่ แต่ถ้าไม่รับผิดชอบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ผู้คนก็พร้อมที่จะเลิกสนับสนุนเช่นเดียวกัน 

Edelman บริษัทการตลาดด้านการสื่อสารระดับโลก ทำหน้าที่รายงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากว่า 13 ปี ทำการสำรวจเกี่ยวกับความไว้วางใจในธุรกิจครอบครัว 

ผลสำรวจจาก Edelman เผยว่าความไว้วางใจในธุรกิจครอบครัวซึ่งเคยสูงกว่าธุรกิจทั่วไปลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจครอบครัวละเลยการดูแลสิ่งแวดล้อม

การสำรวจที่จัดทำโดยบริษัท EY สำรวจโดยศึกษาธุรกิจครอบครัวที่ใหญ่ที่สุด 500 แห่งทั่วโลกพบว่า กว่า 75% ของธุรกิจครอบครัวเหล่านี้ได้เริ่มมีการวัดผลและรายงานความคืบหน้าด้านความยั่งยืน รวมถึงมีการปรับใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมเข้ากับธุรกิจ 

เพราะธุรกิจครอบครัวเหล่านี้เข้าใจว่าความยั่งยืนมีความสำคัญต่อชื่อเสียงของธุรกิจในระยะยาว 

แนวทางสำหรับธุรกิจครอบครัวในการเริ่มต้นรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อม

  • ศึกษาเกี่ยวกับมาตรฐานความยั่งยืน (sustainability standards)

เริ่มต้นด้วยการศึกษาแนวทางปฏิบัติจากโครงการต่างๆ เช่น Carbon Disclosure Project (CDP), Global Reporting Initiative (GRI), European Financial Reporting Advisory Group (EFRAG) และ International Sustainability Standards Board (ISSB)

เพื่อใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ประเมินว่าแนวปฏิบัติของคุณเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับแนวทางของผู้อื่น รวมถึงเปรียบเทียบกับแนวทางของ ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) และ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เพื่อให้รู้ว่าแนวปฏิบัติของคุณสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

  • ทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากธุรกิจของคุณ

ปัจจุบันบริษัทจำนวนมากให้ความสนใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนของซัพพลายเออร์ จึงขอให้ซัพพลายเออร์แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่นๆ  หากซัพพลายเออร์ไม่สามารถให้ข้อมูลเหล่านี้ ก็อาจสูญเสียโอกาสทางธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ไปได้

  • ทำความเข้าใจทัศนคติและความคาดหวังของพนักงานที่มีต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศ

ทุกวันนี้พนักงานคาดหวังให้นายจ้างให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็นเหตุผลหลักในการเลือกนายจ้าง

  • อบรมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน

คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนได้จากแหล่งฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น Boston College Center for Corporate Citizenship (BCCCC), United Nations' SME hub และ Columbia University's virtual Climate Change and Health Boot Camp เป็นต้น

ความยั่งยืนไม่เพียงแต่ดีต่อโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอีกด้วย ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และธุรกิจครอบครัวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบของตัวเองในการปกป้องโลกและการส่งเสริมความยั่งยืน สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่อนาคตที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีของคนรุ่นต่อไป

อ้างอิง: greenbiz

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึกวิกฤตน้ำกับ TCP เมื่อน้ำกำลังจะกลายเป็นของหายาก

วิกฤตน้ำทั่วโลกส่งผลกระทบหนักต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ TCP เสนอแนวทางแก้ไขผ่าน Nature-based Solutions และกลยุทธ์บริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจไทยในยุคโลกร้อน...

Responsive image

David Capodilupo จาก MIT Sloan เปิดเหตุผลตั้งสำนักงานในไทย ต้นแบบสู้ Climate Change อาเซียน

David Capodilupo ผู้ช่วยคณบดีด้านโครงการระดับโลกของ MIT Sloan เผยเหตุผลที่สถาบันเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เพื่อให้ไทยเป็นฮับอาเซียน ในการส่งเสริมการเรียนการสอน การวิจัยพัฒนา การแก้ปั...

Responsive image

SAF เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน อุปสรรค และโอกาสครั้งใหญ่ของไทย ถอดแนวคิด Yap Mun Ching ผู้บริหารด้านความยั่งยืนแห่ง AirAsia

การเดินทางทางอากาศ แม้จะเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกัน แต่ก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การลดคาร์บอนจึงเป็นภารกิจสำคัญของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก และเชื้อเพลิงการบินที่...