
WHA Group ใช้เวลา 22 ปีจากธุรกิจโลจิสติกส์ สู่การเป็นองค์กรเทคโนโลยีครบวงจรที่มี 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ครอบคลุมทั้งโลจิสติกส์, นิคมอุตสาหกรรม, สาธารณูปโภคและพลังงาน, ดิจิทัลโซลูชัน, โมบิลิตี้ พร้อมสินทรัพย์รวมกว่าแสนล้านบาท
ในงาน Techsauce Global Summit 2025 คุณจรีพร จารุกรสกุล CEO ของ WHA Group ได้ขึ้นพูดในหัวข้อ Scaling at Speed: From Zero to 100,000 MB in a Dynamic Market โดยเล่าถึงแนวทางบริหารและกลยุทธ์ในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องเทคโนโลยีและสถานการณ์โลก เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
คุณจรีพรเริ่มต้นด้วยการย้ำว่ารากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดของการวางกลยุทธ์องค์กรคือการ "อ่านเกมโลกให้ออก" หรือการทำความเข้าใจเมกะเทรนด์ เพราะโลกที่เปลี่ยนแปลงทุกวันทำให้เราไม่สามารถใช้ตำราเล่มเดิมได้ สำหรับ WHA เข็มทิศที่ใช้นำทางธุรกิจในปัจจุบันประกอบด้วย 4 ประเด็นหลัก
หนึ่งคือ สถานการณ์โลก คุณจรีพรเล่าว่าตนเองได้มองเห็นสัญญาณของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมาตั้งแต่ปี 2018 ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์สมัยแรก
และคาดการณ์ว่าจะเกิดการย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่จากจีนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งนี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ WHA ตัดสินใจขยายธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมอย่างจริงจังทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม เพื่อรองรับคลื่นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่อาจหลั่งไหลเข้ามา ไม่เว้นแม้แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google หรือ Amazon
สองคือ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี คุณจรีพรเล่าว่าอนาคตของทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ไปจนถึงพลังงานจะถูกขับเคลื่อนด้วย AI, ระบบอัตโนมัติและนวัตกรรมใหม่ๆ ดังนั้นการเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Tech Company จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น "ทางรอด"
สามคือ Sustainability และ Climate Change สองอย่างนี้เป็นเทรนด์ที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก แม้จะมีมุมมองที่สวนกระแสไปบ้าง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว "ความยั่งยืน" ได้กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจไปแล้ว เพราะฉะนั้น WHA จึงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
สุดท้ายคือการจับตามองความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างการกลับมาของทรัมป์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ให้กับเศรษฐกิจโลก
จากวิสัยทัศน์ที่อ่านเกมโลกล่วงหน้า WHA ได้ขยายอาณาจักรจากธุรกิจโลจิสติกส์เพียงอย่างเดียวจนกลายเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ
คุณจรีพรให้รายละเอียดที่น่าสนใจว่าการทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรเทคโนโลยีไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นการเดินทางที่ใช้เวลากว่า 7 ปี โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งช่วง 3-4 ปีแรก ไม่ใช่การทุ่มเงินซื้อเทคโนโลยี แต่คือการ "เปลี่ยนวัฒนธรรมและทัศนคติของบุคคลากร" เป็นหลัก
เราเริ่มต้นจากการเปลี่ยน Mindset ของผู้บริหารและพนักงาน ทำให้ทุกคนเชื่อในทิศทางเดียวกัน - คุณจรีพรกล่าว
โดยย้ำว่า WHA ในอดีตเต็มไปด้วยวิศวกรโยธาและไฟฟ้า แต่ไม่มีบุคลากรด้านเทคโนโลยีเลย การจะเปลี่ยนผ่านได้จึงต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ที่เรียกว่า "WHA DNA" ซึ่งประกอบด้วย 6 ค่านิยมหลักคือ Respect, Trust , Allow Failure, Can-Do Attitude, Agile และ Collaboration โดยเฉพาะ "Allow Failure" ที่เปิดโอกาสให้พนักงานกล้าลองผิดลองถูกและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
หลังจากวางรากฐานด้านบุคคลากรและวัฒนธรรมจนแข็งแกร่งแล้ว ในปี 2021 WHA จึงได้เริ่มกระบวนการ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ มีการทำโปรเจกต์ดิจิทัลกว่า 40 โครงการ พัฒนาแอปพลิเคชันภายในกว่า 50 ตัว และสร้าง UOC หรือ Unified Operation Cente ที่สามารถควบคุมและติดตามการทำงานของทุกธุรกิจได้จากส่วนกลาง ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมศักยภาพของธุรกิจเดิมอย่างแท้จริง
หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนทุกอย่างคือปรัชญาในการบริหารของคุณจรีพรที่สรุปออกมาเป็น "หลัก 3 สร้าง" ได้แก่
เรื่องราวของ WHA Group จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการเติบโตทางธุรกิจ แต่คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ การวางกลยุทธ์ที่เฉียบคม การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง และการเป็นผู้นำที่มองว่า "ทุกปัญหาคือความท้าทาย" ที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นบทเรียนล้ำค่าสำหรับทุกองค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด