ในปัจจุบัน เราไม่สามารถปฏิเสธสถานการณ์และปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Geo politics ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หรือ ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล้วนส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจและชีวิตของคนไทย
ซึ่ง TMA หรือ สมาคมจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย นำโดย คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานศูนย์เพื่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูล รวมถึงถอดแนวคิดการแก้ปัญหาความท้าทายที่เกิดขึ้น ให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
TMA เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มุ่งเน้นการสร้างผู้บริหารที่มีความสามารถ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับองค์กรและประเทศ การทำงานของ TMA คือการสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงความร่วมมือและองค์ความรู้จากทั่วโลก โดยเฉพาะ การร่วมมือกับ Internation Institute for Management Development (IMD) จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาบูรณาการและขยายขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทย ด้วยการจัดงาน Conference เพื่อเป็นพื้นที่เชื่อมต่อภาครัฐและเอกชน ในการขับเคลื่อนประเทศ
ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดย World Competitiveness Center ของ International Institute for Management Development หรือ IMD สวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 2023 ประเทศไทยมีอันดับความสามารถในการแข่งขันดีขึ้นถึง 3 อันดับ โดยเฉพาะด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจ (Economic Performance) ที่มีอันดับดีขึ้นถึง 18 อันดับทำให้ไทยมีอันดับดีขึ้น 3 อันดับมาอยู่ในอันดับที่ 30 จาก 64 เขตเศรษฐกิจ
ซึ่งในการจัดอันดับของ IMD Ranking จะคำนึงถึง 4 ประเด็นหลัก
สำหรับประเทศไทย แนวโน้มผลการจัดอันดับในช่วงที่ผ่านมา มีอันดับความสามารถในการแข่งขันค่อนข้างคงที่ แต่มักมีความผันผวนในปีที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกหรือสถานการณ์ภายในประเทศ ทุก ๆ ประเด็นของการวัดผลของประเทศไทย ต่างปรับอันดับดีขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ปีที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนของไทยสามารถปรับตัว พัฒนาตนเองได้ดีขึ้นในการรับมือกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่สุดของไทยคือ การศึกษา สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เป็นประเด็นรากฐานที่จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในด้านต่าง ๆ ของประเทศให้พัฒนาได้อีกมาก รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความแข็งแกร่ง และก้าวหน้าเท่าทันกับประเทศอื่น ๆ อย่างเร่งด่วน
ทางคุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานศูนย์เพื่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า มี 4 เรื่องที่นับว่าเป็นความท้าทายของประเทศไทย
โดยเรื่องหลัก ที่ TMA เล็งเห็นแล้วว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อผลักดันประเทศให้เดินหน้าต่อได้อย่างยืน คือ
ซึ่งทั้งหมดคือสิ่งที่ ทาง TMA ได้เล็งเห็นแล้วว่าจำเป็นจะต้องดำเนินการแก้ไข จัดตั้งหน่วยงานที่จะมีการดำเนินงานที่ชัดเจน ที่จะสามารถกลับไปตอบโจทย์ความท้าทายที่เกิดขึ้นใน 4 เรื่องแรกได้ เพราะปัจจุบัน
กฎเกณฑ์บ้านเราไม่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
การสัมมนา Thailand Competitiveness Conference 2023 เป็นเวทีในการรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในระดับสากล ได้รวบรวมและเปิดโอกาสสำหรับกลุ่มผู้นำทางความคิด ผู้วางนโยบาย ผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชน และนักวิชาการที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หารือแนวทางในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศภายใต้บริบทของความเปลี่ยนแปลง ให้ทุกภาคส่วนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยมีไฮท์ไลท์ Keynote Speakers ระดับโลก อย่าง H.E. Kertsi Kaljulaid อดีตประธานาธิบดีของประเทศเอสโตเนีย จะมาพูดถึงเรื่องการผลิกโฉมประเทศแบบ Digital Transformation จาก 0-100 เป็น Best Practice ด้าน Digital Goverment และ Professor Kishore Mahbubani Distinguished Fellow, Asai Research Institute, National University of Singapore ที่จะมาไขอนาคตของ Geo Politics ที่ส่งผลต่อการค้าและการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึง Speakers ชั้นนำอีกมากมาย
Thailand Competitiveness Conference 2023 จัดขึ้นวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2566 เวลา: 09:00 - 16:30 น. สถานที่ Waldorf Astroria Bangkok Hotel โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และซื้อบัตรได้ที่ Thailand Competitiveness Conference 2023
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด