ตามโลก AI ไม่ทัน? เปิดคัมภีร์ 53 ศัพท์เทคฯ ที่จะทำให้คุณเข้าใจ AI มากยิ่งขึ้น

AI Glossary

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI คือคำที่ทรงพลังที่สุดในโลกเทคโนโลยีชั่วโมงนี้ ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหน ตั้งแต่ ChatGPT ที่ตอบได้ทุกอย่าง ไปจนถึงการที่ Google ปรับหน้าผลการค้นหาให้มีบทสรุปจาก AI อยู่บนสุด ปัญญาประดิษฐ์กำลังแทรกซึมโลกอินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์

การมี AI Chatbot ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่มีดีกรีปริญญาเอกในทุกศาสตร์สาขา หรือการใช้ AI สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสุดล้ำอย่างภาพหุ่นยนต์เมคจาก Midjourney นั้นเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง เพราะศักยภาพที่แท้จริงของ "Generative AI" นั้นยิ่งใหญ่ถึงขั้นสามารถพลิกโฉมเศรษฐกิจโลกได้ สถาบัน McKinsey Global Institute ประเมินว่าเทคโนโลยีนี้อาจสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจโลกได้มหาศาลถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี!

นี่คือเหตุผลที่เราได้เห็นยักษ์ใหญ่เทคฯ ต่างกระโดดลงมาเล่นในสนามนี้กันอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็น Gemini ของ Google, Copilot ของ Microsoft, Claude ของ Anthropic หรือแม้แต่เครื่องมือค้นหาน้องใหม่ไฟแรงอย่าง Perplexity

และเมื่อโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบ AI คำศัพท์และแนวคิดใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมากมายจนตามแทบไม่ทัน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยากอัปเดตความรู้เพื่อคุยกับเพื่อนให้สนุกขึ้น หรือต้องการสร้างความประทับใจให้กรรมการตอนสัมภาษณ์งาน CNET ได้รวบรวม 53 คำศัพท์ AI ที่สำคัญที่สุดมาไว้ที่นี่แล้ว 

Artificial general intelligence (AGI): แนวคิด AI ในเวอร์ชันอัปเกรดขั้นสุด ที่ไม่เพียงทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ แต่ยังสามารถสอนและพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปอีกได้

Agentive: ระบบ AI ที่สามารถตัดสินใจและลงมือทำบางสิ่งได้ด้วยตัวเองเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เช่น รถยนต์ไร้คนขับระดับสูง ต่างจาก "Agentic" ที่เป็นระบบเบื้องหลัง แต่ "Agentive" จะเน้นการโต้ตอบกับผู้ใช้โดยตรง

AI ethics: ชุดหลักการและกฎเกณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ AI สร้างอันตรายต่อมนุษย์ เช่น การกำหนดแนวทางการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือการจัดการกับอคติในระบบ

AI safety: ศาสตร์ที่ศึกษาผลกระทบระยะยาวของ AI โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ AI อาจพัฒนาไปสู่ "Superintelligence" ที่ฉลาดเกินควบคุมและอาจเป็นภัยต่อมนุษยชาติ

Algorithm: หัวใจของการเรียนรู้ของ AI มันคือชุดคำสั่งที่บอกคอมพิวเตอร์ว่าจะเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร เพื่อหารูปแบบและทำงานให้สำเร็จได้ด้วยตนเอง

Alignment: กระบวนการ "จูน" หรือปรับแต่ง AI ให้ทำงานและตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด ตั้งแต่การกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ไปจนถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับมนุษย์

Anthropomorphism: ปรากฏการณ์ที่มนุษย์เราเผลอให้คุณสมบัติความเป็นคนกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น การเชื่อว่า Chatbot ที่คุยด้วยรู้สึกเศร้าหรือมีความสุขได้จริงๆ

Artificial intelligence (AI): ศาสตร์แห่งการใช้เทคโนโลยีเพื่อจำลองสติปัญญาของมนุษย์ในคอมพิวเตอร์หรือหุ่นยนต์ เพื่อให้มันสามารถทำงานที่ปกติแล้วต้องใช้คนทำได้

Autonomous agents: AI ที่มีเครื่องมือและโปรแกรมครบครันสำหรับทำงานบางอย่างได้ด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้กระทั่ง AI Agent ในโลกเสมือนที่นักวิจัย Stanford พบว่าสามารถสร้างวัฒนธรรมของตัวเองได้

Bias: จุดอ่อนสำคัญของ LLM คือข้อผิดพลาดที่เกิดจากข้อมูลที่ใช้สอนมัน ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างข้อมูลที่เหมารวมหรือมีอคติต่อเชื้อชาติหรือกลุ่มคนบางกลุ่มอย่างไม่เป็นธรรม

Chatbot: โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อสนทนากับมนุษย์ผ่านข้อความ โดยเลียนแบบภาษาและการโต้ตอบของคน

ChatGPT: ชื่อของ AI Chatbot ที่โด่งดังที่สุดในโลก พัฒนาโดย OpenAI และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Large Language Model

Cognitive computing: อีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียก "ปัญญาประดิษฐ์"

Data augmentation: เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพให้ AI โดยการนำข้อมูลที่มีอยู่มาผสมใหม่ หรือป้อนข้อมูลชุดใหม่ที่มีความหลากหลายเข้าไปเพื่อให้ AI เรียนรู้ได้กว้างขวางขึ้น

Dataset: คลังข้อมูลดิจิทัลขนาดมหึมาที่ใช้สำหรับสอน (Train) ทดสอบ (Test) และ ตรวจสอบ (Validate) โมเดล AI

Deep learning: สาขาย่อยของ Machine Learning ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียมหลายชั้น (เหมือนสมองคน) เพื่อวิเคราะห์และจดจำรูปแบบที่ซับซ้อนมากๆ ในข้อมูลภาพ เสียง หรือข้อความ

Diffusion: เทคนิคการสอน AI สร้างภาพ โดยเริ่มจากการนำภาพต้นฉบับมาทำให้ "เละ" ด้วยการเพิ่มจุดรบกวน (Noise) เข้าไป แล้วฝึกให้ AI เรียนรู้วิธี "ซ่อม" หรือสร้างภาพนั้นกลับคืนมาให้สมบูรณ์

Emergent behavior: ปรากฏการณ์สุดทึ่งที่โมเดล AI แสดงความสามารถบางอย่างออกมาเอง ทั้งๆ ที่ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจออกแบบให้มันทำได้

End-to-end learning (E2E): กระบวนการสอน AI ให้ทำงานชิ้นหนึ่งให้เสร็จรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ โดยให้ AI เรียนรู้จากข้อมูลทั้งหมดแล้วหาทางแก้ปัญหาเอง ไม่ใช่สอนเป็นขั้นๆ

Ethical considerations: การตระหนักถึงประเด็นอ่อนไหวที่มาพร้อมกับ AI เช่น ความเป็นส่วนตัว, การใช้ข้อมูล, ความเท่าเทียม, และความเสี่ยงในการนำไปใช้ในทางที่ผิด

Foom: ศัพท์สแลงในวงการที่มาจากแนวคิด "Fast Takeoff" หมายถึงสถานการณ์สมมติที่น่าสะพรึงกลัว ว่าถ้ามนุษย์สร้าง AGI สำเร็จเมื่อไหร่ ก็อาจจะสายเกินไปที่จะหยุดยั้งมันได้

Generative adversarial networks: โมเดล AI สร้างข้อมูลรูปแบบหนึ่งที่ใช้ AI สองตัวแข่งกัน ตัวแรก (Generator) ทำหน้าที่ "สร้าง" ข้อมูลปลอมขึ้นมา ส่วนตัวที่สอง (Discriminator) ทำหน้าที่ "จับผิด" ว่าข้อมูลนั้นจริงหรือปลอม

Generative AI: เทคโนโลยี AI ที่สามารถ "สร้างสรรค์" เนื้อหาใหม่ๆ ได้เอง ทั้งข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ หรือโค้ดคอมพิวเตอร์ โดยเรียนรู้จากข้อมูลมหาศาลเพื่อสร้างผลงานที่ไม่ซ้ำใคร (แต่บางครั้งก็อาจคล้ายต้นฉบับ)

Google Gemini: คู่แข่งคนสำคัญของ ChatGPT จาก Google ที่มีความสามารถคล้ายกัน แต่มีข้อได้เปรียบคือเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Search และ Maps ได้โดยตรง

Guardrails: เหมือนรั้วกั้นถนน เป็นนโยบายและข้อจำกัดที่ใส่ไว้ในโมเดล AI เพื่อควบคุมไม่ให้มันสร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือเป็นอันตราย และจัดการข้อมูลอย่างรับผิดชอบ

Hallucination: ปรากฏการณ์ที่ AI ตอบคำถาม "มั่ว" หรือให้ข้อมูลที่ผิดพลาด แต่กลับนำเสนออย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมราวกับเป็นเรื่องจริง ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

Inference: กระบวนการที่ AI ใช้ความรู้จากข้อมูลที่เคยเรียนมา (Training Data) เพื่อ "อนุมาน" หรือคาดเดาคำตอบสำหรับข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

Large language model (LLM): เทคโนโลยีหัวใจหลักของ Chatbot ยุคนี้ เป็นโมเดล AI ที่ถูกสอนด้วยข้อมูลตัวอักษรปริมาณมหาศาล จนสามารถเข้าใจและสร้างภาษาที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ได้

Latency: เวลาที่ใช้รอตั้งแต่ที่เราพิมพ์คำสั่ง (Prompt) ส่งไปให้ AI จนกระทั่งมันประมวลผลและส่งคำตอบกลับมา ยิ่งน้อยยิ่งดี

Machine learning (ML): แขนงหนึ่งของ AI ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถ "เรียนรู้" และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นได้จากข้อมูล โดยไม่ต้องให้มนุษย์เขียนโปรแกรมสั่งงานทุกขั้นตอน

Microsoft Bing: เครื่องมือค้นหาจาก Microsoft ที่อัปเกรดตัวเองด้วยการนำเทคโนโลยีของ ChatGPT มาใช้ ทำให้สามารถให้คำตอบแบบสรุปความจาก AI ได้ คล้ายกับ Gemini

Multimodal AI: AI สุดล้ำที่สามารถรับและประมวลผลข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ หรือเสียงพูด

Natural language processing (NLP): สาขาของ AI ที่เน้นการทำให้คอมพิวเตอร์สามารถ "เข้าใจ" และ "ใช้" ภาษามนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

Neural network: แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบโครงสร้างและการทำงานของสมองมนุษย์ ประกอบด้วยเซลล์ประสาท (Neurons) ที่เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายเพื่อจดจำรูปแบบในข้อมูล

Overfitting: ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ AI "ท่องจำ" ข้อมูลที่ใช้สอนมาเป๊ะเกินไป จนทำให้มันทำงานได้ดีกับข้อมูลชุดเดิมเท่านั้น แต่พอเจอข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยเห็นกลับทำงานผิดพลาด

Paperclips: ทฤษฎีสมมติสุดดาร์กจากนักปรัชญา Nick Boström ที่เล่าถึง AI ที่ได้รับเป้าหมายเดียวคือ "ผลิตคลิปหนีบกระดาษให้ได้มากที่สุด" ซึ่ง AI อาจตีความคำสั่งแบบสุดโต่งจนยอมทำทุกวิถีทาง แม้กระทั่งการทำลายล้างมนุษยชาติ เพื่อเปลี่ยนทุกอย่างเป็นคลิปหนีบกระดาษ

Parameters: ค่าตัวเลขต่างๆ ที่เป็นเหมือน "สมอง" ของ LLM ซึ่งกำหนดโครงสร้างและพฤติกรรมการทำงานของมัน ยิ่งมีพารามิเตอร์มาก ก็มักจะยิ่งฉลาดมาก

Perplexity: ชื่อของ AI Chatbot และ Search Engine ที่โดดเด่นด้านการให้คำตอบที่ทันสมัยและอ้างอิงแหล่งข้อมูลได้ เนื่องจากมันเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์

Prompt: คำสั่ง, คำถาม, หรือข้อความที่เราพิมพ์ป้อนเข้าไปใน AI เพื่อให้มันสร้างการตอบสนองกลับมา

Prompt chaining: ความสามารถของ AI ที่จะจดจำและนำข้อมูลจากการสนทนาก่อนหน้ามาใช้ในการตอบคำถามครั้งต่อไป ทำให้การสนทนาต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

Quantization: กระบวนการ "บีบอัด" โมเดล AI ให้มีขนาดเล็กลงและทำงานได้เร็วขึ้น โดยการลดความละเอียดของข้อมูลลงเล็กน้อย เปรียบเหมือนการลดขนาดไฟล์ภาพจาก 16MP เป็น 8MP ภาพยังชัดอยู่ แต่อาจเสียรายละเอียดบางส่วนไป

Stochastic parrot: คำเปรียบเปรยที่บอกว่า LLM นั้นเป็นเหมือน "นกแก้ว" ที่ฉลาด มันสามารถเลียนแบบคำพูดของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีความเข้าใจในความหมายที่แท้จริงของคำเหล่านั้นเลย

Style transfer: ความสามารถของ AI ที่จะดึงเอา "สไตล์" หรือลักษณะเด่นทางศิลปะของภาพหนึ่ง ไปใส่ให้กับเนื้อหาของอีกภาพหนึ่ง เช่น การวาดภาพโมนาลิซาในสไตล์ของปิกัสโซ

Synthetic data: ข้อมูลที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในโลก แต่ถูก "สร้าง" ขึ้นโดย Generative AI เพื่อใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสอนโมเดล AI อื่นๆ

Temperature: ค่าที่ใช้ตั้งเพื่อควบคุมระดับ "ความคิดสร้างสรรค์" หรือ "ความสุ่ม" ในการตอบของ AI ถ้าตั้งค่าสูง AI จะตอบแบบเสี่ยงและคาดเดายากขึ้น ถ้าตั้งค่าต่ำ คำตอบจะตรงไปตรงมาและคาดเดาได้ง่าย

Text-to-image generation: เทคโนโลยีที่ AI สามารถเปลี่ยนคำอธิบายที่เป็นตัวอักษรให้กลายเป็นรูปภาพได้

Tokens: หน่วยย่อยที่สุดที่ AI ใช้ประมวลผลภาษา เปรียบเสมือน "พยางค์" หรือ "คำ" สำหรับ AI โดย 1 โทเค็นในภาษาอังกฤษมีค่าประมาณ 4 ตัวอักษร

Training data: วัตถุดิบสำคัญที่ใช้สอน AI ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งข้อความ, รูปภาพ, โค้ดโปรแกรม หรือข้อมูลรูปแบบอื่นๆ

Transformer model: สถาปัตยกรรม AI ที่ปฏิวัติวงการ มันสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ของข้อมูลทั้งชุดได้ในคราวเดียว (เช่น อ่านทั้งประโยคเพื่อเข้าใจบริบท) แทนที่จะประมวลผลทีละคำเหมือนโมเดลรุ่นเก่า

Turing test: การทดสอบสุดคลาสสิกที่ตั้งชื่อตาม Alan Turing เพื่อวัดว่า AI สามารถเลียนแบบมนุษย์ได้เนียนแค่ไหน โดยจะถือว่า "ผ่าน" ถ้ามนุษย์ที่คุยด้วยไม่สามารถแยกออกได้ว่ากำลังคุยกับคนหรือคอมพิวเตอร์

Unsupervised learning: รูปแบบการสอน AI ที่เราแค่โยนข้อมูลดิบๆ ให้มันกองหนึ่ง แล้วปล่อยให้ AI ไปค้นหารูปแบบหรือโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลนั้นด้วยตัวเอง

Weak AI หรือ Narrow AI: คำจำกัดความของ AI ส่วนใหญ่ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็น AI ที่ถูกสร้างมาเพื่อทำงานเก่งแค่ "เรื่องเดียว" หรือไม่กี่เรื่อง และไม่สามารถเรียนรู้ข้ามศาสตร์ได้

Zero-shot learning: การทดสอบความสามารถของ AI ในระดับที่สูงขึ้น โดยสั่งให้มันทำงานที่ไม่เคยถูกสอนมาก่อนเลย เช่น สอนให้รู้จักแต่ "เสือ" แล้วทดสอบว่ามันจะสามารถจดจำ "สิงโต" ได้หรือไม่

ที่มา: CNET

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถอดบทเรียนมาเลเซีย-เวียดนาม ใช้ Hardware-in-the-Loop (HIL) สร้างนวัตกรรมให้ชาติอย่างไร

โลกวิศวกรรมยุคใหม่ไม่เสี่ยงบนของจริง แต่หันไปใช้ HIL (Hardware-in-the-Loop) หรือสนามซ้อมดิจิทัล เพื่อทดสอบหายนะนับพันครั้งในแล็บที่ปลอดภัย 100% เรากำลังตามหลังเพื่อนบ้านในเกมนี้จริ...

Responsive image

อนาคตเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ผ่าน 3 ซีอีโออุตสาหกรรมและการเงิน จากฐานการผลิตสู่นวัตกรรมขับเคลื่อนอาเซียน ท่ามกลางสมรภูมิ FDI โลกเดือด

สรุปเวทีเสวนา "Thailand: Shaping ASEAN's Next Frontier" ถอดรหัสอนาคตเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น จากมุมมองผู้นำ อมตะ, ฮอนด้า, และกรุงศรี ชี้ 'ผู้นำ', 'นวัตกรรม', และ 'การพัฒนาคน' คือกุญแจสำ...

Responsive image

ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยบทใหม่ กับคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ชี้ทางรอดไทยยุค 5.0 ต้องปั้น ‘7Ts’ เพื่อฝ่า 3D Digitalization, Deglobalization, Decarbonization

ถอดรหัสวิสัยทัศน์ ‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ ซีอีโอ ซีพี กางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยบทใหม่ (New Economic Frontier) ชี้ 3 วิกฤตโลก (3D) ที่ต้องฝ่า และ 7T โอกาสทองของไทย สู่ยุค 'Sustainable In...