Akiko Naka จาก Akio Kon/ Bloomberg

ก่อนหน้านี้ Techsauce ได้นำเสนอบทความ แรงบันดาลใจของ CEO ‘Wantedly’ กับการสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมคนที่มี Passion ร่วมกัน จากเซสชันของ Akiko ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในงาน Techsauce Global Summit 2018 โดยล่าสุด เธอได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ถึงประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา และ Wantedly กับการหา 'คน' ให้ตรงกับทั้งความต้องการของผู้สมัครและต่อบริษัท เคล็ดลับความสำเร็จของเธอคืออะไร และทำไม Wantedly ถึงสามารถขึ้นครองใจคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นได้ มาดูกันค่ะ

บทความนี้แปลและเรียบเรียงจาก Bloomberg

การทำงานกับองค์กรใหญ่ และลองผิดลองถูกจนเจอสิ่งที่ใช่

Akiko เป็นทั้งตัวอย่างและแรงบันดาลใจของผู้หญิงญี่ปุ่นยุคใหม่ แม้ว่าจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่นและได้เข้าทำงานกับองค์กรชั้นนำ โดยเป็นเวลากว่าหลายปี ที่เธอต้องเหนื่อยหน่ายกับการทำงานกับบริษัทใหญ่ และไต่ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของอาชีพ ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไป แล้วเดินตามเส้นทางใหม่ของตัวเอง โดยเลือกที่ทำสิ่งที่มีความหมายกับตัวเธอ มากกว่าการทำตามสิ่งที่สังคมคาดหวังว่าเธอควรจะเป็น 

ในปี 2008 Akiko ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ในระหว่างเรียนก็ได้ทำหนังสือพิมพ์ของมหาลัยแจกจ่ายตามร้านค้าและร้านอาหาร นอกจากนี้ยังได้เดินสายประกวดนางงาม แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทาง นอกจากนี้อีกหนึ่งแรงผลักดันคือ พ่อแม่ของเธอที่เป็นนักวิชาการทั้งคู่ พวกเขาได้สนับสนุนให้ลูกได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ขึ้นมา มากกว่าจะให้ใช้เวลาไปกับการเล่นวิดีโอเกม

หลังจากเรียนจบ เธอได้เริ่มทำงานเป็นพนักงานขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) แต่เพียงไม่ถึงสองปีก็ตัดสินใจลาออก เพราะไม่สามารถมองเห็นภาพตัวเองทำงานในอุตสาหกรรมนั้นต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า

ต่อมา เธอตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองในการเป็นนักวาดการ์ตูนมืออาชีพ แต่ก็ทำได้เพียงหกเดือนเท่านั้น เธอคิดกับตัวเองว่า บางทีสิ่งนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับเธอ

ฉันได้เรียนรู้ว่า การเป็นนักวาดการ์ตูนมันไม่ใช่แค่การวาดรูปเก่งอย่างเดียว สิ่งที่มากไปกว่านั้นคือ คุณจะต้องมีทักษะในการสร้างเรื่องราว ทั้งการจัดองค์ประกอบ และการสร้างตัวละครให้มีชีวิตขึ้นมา

ไม่นานนัก เมื่อปี 2010 โอกาสใหม่ก็ได้เข้ามาหาเธอ กับการเป็น Country Manager ของ Facebook ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นเพียงเวลาไม่กี่เดือน ไอเดียของ Wantedly ก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้น ซึ่งในตอนแรกมันเป็นเพียงเว็บไซต์ตอบคำถามออนไลน์เท่านั้น

เธอคิดมาเสมอว่าเธออยากทำในสิ่งที่รัก ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยคนอื่นไปด้วย เธอรู้ว่ามีคนญี่ปุ่นจำนวนมากไม่ชอบงานที่พวกเขาทำ แต่ก็ยังทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เธออยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนตรงนั้น เธอต้องการปฏิวัติระบบการหาคนเข้าทำงานของญี่ปุ่นขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้พลังโซเชียลมีเดีย และใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่มีสร้างมันขึ้นมา โดยในปีที่แล้ว เธอได้เป็นผู้หญิงญี่ปุ่นที่อายุน้อยที่สุด ที่สามารถนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้

ความล้มเหลวทั้งหมดที่ผ่านมา คือโอกาสที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้

พลิกวิกฤติแรงงานขาดแคลนให้เป็นโอกาส

ในประเทศญี่ปุ่น การที่จะหาคนที่มีศักยภาพเข้ามาทำงานได้นั้นนับว่ายากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่เกิดวิกฤติแรงงานขาดแคลน ทำให้บริษัทจัดหางานมีโอกาสทำธุรกิจมากขึ้น จากรายงานของสมาคมการจัดการข้อมูลการทำงานของญี่ปุ่นระบุว่า ในปี 2016 ตลาดของบริการจัดหางานมีมูลค่ากว่า 7.1 ล้านเหรียญ และโตขึ้นอีก 7.5 เปอร์เซ็นต์ในปีต่อมา

การหา 'คน' ทำงานที่ใช่ ในยุคที่เปลี่ยนแปลง

“LinkedIn ได้เปิดตัวขึ้นในปี 2002 ซึ่งยังเป็นยุคที่คนยังสมัครงานโดยการใช้เอกสารยื่นสมัครงานอยู่ อีกทั้งยังเป็นการจับคู่คนหางานกับบริษัทโดยใช้ค่าตอบแทน และทักษะของแต่ละคนให้เข้ากับสิ่งที่แต่ละบริษัทต้องการ” Akiko กล่าว

Wantedly ถือเป็น LinkedIn เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ทำการคอนเนคและจับคู่กลุ่มมิลเลนเนียลที่กำลังหางานเข้ากับบริษัทที่กำลังต้องการคน โดยจะโฟกัสไปยังเป้าหมายที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้ใช้งานจะไม่เห็นรายละเอียดของค่าตอบแทนหรือสวัสดิการ แต่จะเห็นว่า แต่ละบริษัททำอะไร พวกเขาทำได้อย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาทำสิ่งเหล่านั้นไปทำไม

"สิ่งที่พวกเราทำคือ การจับคู่ผู้ที่มีเป้าหมายร่วมกัน หากทิศทางในชีวิตของผู้สมัครมีแนวโน้มที่ตรงกับของบริษัท การที่ทั้งสองได้ทำงานร่วมกันก็ถือว่าได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย"

มีบริษัทจัดหางานมากมายที่มีบริการคล้ายกับ Wantedly แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากที่อื่นก็คือ “หัวใจในการหาคน” Wantedly เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ “ทำในสิ่งที่รัก” โดยจะโฟกัสไปที่ Motivation ทั้งของคนหางานและของบริษัท ผู้ใช้งานจะไม่เห็นรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเดือนและสวัสดิการ และแทนที่จะส่งใบสมัครแล้วรอสัมภาษณ์ตามขั้นตอนบริษัททั่วไป หากใครมีผลงานเข้าตามกรรมการ ก็จะมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมสถานที่ทำงานเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทในบรรยากาศสบายๆ อีกทั้งสามารถพบปะพูดคุยกับพนักงานคนอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ Wantedly ต้องการให้ผู้สมัครงานทุกคนได้ทำงานที่พวกเขารัก ร่วมกับทุกองค์กรได้อย่างยาวนาน

หากบริษัทและผู้สมัครใส่หน้ากากเข้าหากันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ สุดท้ายแล้วก็จะไม่มีใครที่มีความสุขเลย

ปัจจุบัน Wantedly มีผู้สมัครเข้าใช้งานต่อเดือนกว่า 2.4 ล้านคน และมีบริษัทเข้าใช้บริการในระบบกว่า 29,000 บริษัท ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Akiko ได้ตั้งเป้าให้มีผู้เข้าใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น10 ล้านคน ภายเวลา 10 ปี

เมื่อเทียบกับ LinkedIn แล้ว ในตอนนี้ Wantedly ถือเป็นเพียงหนึ่งหยดน้ำในมหาสมุทรเท่านั้น โดย LinkedIn มีผู้เข้าใช้งานกว่า 575 ล้านคน จาก 200 ประเทศทั่วโลก (อ้างอิงข้อมูลจาก LinkedIn)

ภาพจาก Wantedly

Pitch จนเข้าตานักลงทุน

“Akiko เป็นผู้หญิงเก่งและมีความคิดสร้างสรรค์มากคนหนึ่ง” Shogo Kawada ผู้เป็น Angel Investor ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นกล่าว “เพื่อให้บริษัทเดินไปตามแผนที่ได้วางไว้ เธอสามารถเขียนโค้ดแอพนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง ซึ่งในตอนนั้นเธอยังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเลยด้วยซ้ำ”

ซึ่งกว่าที่ Shogo จะตัดสินใจลงทุน Akiko ได้ทำการ pitch กับเขาถึงสามครั้งด้วยกัน “ครั้งที่สามเธอได้เปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด แล้วมาด้วยตัว prototype ของ Wantedly ที่เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน” ตอนนี้ Shoko ถือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามของ Wantedly ส่วนตัว Akiko เองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด 72 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 159 ล้านเหรียญ

ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว Wantedly ได้เป็น Startup ที่ติดในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว แม้ว่าหุ้นจะได้ทะยานขึ้นในเดือนตุลาคม และร่วงลงในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีราคาซื้อขายมากกว่าสองเท่าของราคาเสนอขายครั้งแรกอยู่ โดยมีมูลค่าตลาด 24.8 พันล้านเหรียญ (221 ล้านดอลลาร์)

ในตอนนี้ Wantedly ได้ทำการเปิดใช้งานแล้วในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และกำลังทำการทดลองใช้ในเยอรมนี นอกจากนี้ Akiko ยังได้วางแผนที่จะแพลตฟอร์มนี้ไปขยายไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในแถบเอเชีย และในแถบโอเชียเนียอีกด้วย

Shogo ยังบอกอีกว่า Wantedly มีศักยภาพที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ และสามารถดึงดูดบริษัทใหญ่ๆ ได้มากกว่าแค่เฉพาะกับ Startup ซึ่งนี่จะเป็นกุญแจสำคัญ

“Wantedly มีศักยภาพที่โดดเด่นท่ามกลาง Startup อื่น ผมต้องการให้พวกเขาตั้งเป้ามูลค่าตามราคาตลาดไปที่ 100 ล้านเยน (หรือ 29 ล้านบาทไทย)” Shogo กล่าว

แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก Bloomberg, Techsauce