Blockchain เป็นเทคโนโลยียุคดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นในปัจจุบัน และสามารถนำมาใช้รองรับการทำธุรกรรมต่างๆ บนโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ ทำให้หลายอุตสาหกรรมเริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้มากขึ้น เพราะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของความโปร่งใสได้เป็นอย่างดี
ในงานเสวนา “ถอดรหัสเทคโนโลยี Blockchain สู่การทำบุญยุค 4.0” มีการเสนอแนวคิดในการนำ Blockchain มาใช้ในด้านศาสนา โดยเฉพาะการบริจาคเงินทำบุญเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา เพราะความไม่ชอบมาพากลเรื่องเงินบริจาคมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาเป็นอย่างมาก ดังหลายกรณีที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินวัด กิจกรรมพุทธพาณิชย์ที่มีการเรี่ยไรเงินบริจาค รวมไปถึงการนำเงินไปใช้ในทางที่ผิดวินัยสงฆ์ กลายเป็นปัญหาระดับประเทศที่ต้องเร่งแก้ไข
ผศ.ดร. วีรณัฐ โรจนประภา ผู้อำนวยการสถาบันคิดใหม่ ผู้ดำเนินงานด้านการวิจัยและกิจการสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม กล่าวว่า แวดวงพระพุทธศาสนาในช่วงหลายปีมานี้มีปัญหาการทุจริตหรือความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเงินบริจาคของวัด ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของชาวพุทธเป็นอย่างมาก ซึ่งตนเห็นว่าเทคโนโลยี Blockchain เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการเงินทำบุญ และเงินบริจาคในวงการพระพุทธศาสนา ด้วยการสร้าง Buddhist Coin หรือ เหรียญแห่งชาวพุทธ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการบริจาคเงินเข้าวัดนำเงินบาทไปแลกเป็นเหรียญบุญเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกส์ (Wallet) ของวัด และวัดสามารถใช้เหรียญนี้ภายใต้เงื่อนไขในการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการที่ถูกต้องตามพระวินัยของสงฆ์ กับร้านค้าที่สามารถรับเหรียญนี้ได้ ทั้งนี้ระบบดังกล่าวยังเปิดให้สาธารณะเข้ามาตรวจสอบได้ทุกรายการ
ด้าน ดร. นพ. มโน เลาหวณิช นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ได้แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า ปัญหาความเสื่อมเสียที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์หรือบุคลากรของวัด โดยเฉพาะในเรื่องเงินทองทรัพย์สินต่างๆ ทำให้พุทธศาสนิกชนรู้สึกเสื่อมศรัทธา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา จึงจำเป็นต้องหาหนทางแก้ไข ซึ่งแนวคิดการใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อป้องกันปัญหาทุจริตเงินวัด ช่วยในการตรวจสอบการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดให้มีความโปร่งใส และป้องกันการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากวัด เป็นแนวคิดที่น่าสนใจแต่เป็นเรื่องที่ใหม่มากในสังคมไทย จึงควรมีการพัฒนาแนวคิดและวิธีการนำไปใช้ที่เป็นรูปธรรม และมีการอภิปรายข้อดีข้อเสียในทางปฏิบัติกันมากขึ้น
ตัวแทนศิลปินดาราที่นับถือศาสนาพุทธ ชนกวนันท์ รักชีพ มองว่า การทำบุญเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งในการชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ การทำบุญไม่จำกัดว่าต้องทำเป็นตัวเงินเท่านั้น แต่อาจทำด้วยแรงกาย สติปัญญา ตามกำลังความสามารถของตัวเอง รวมทั้งสนับสนุนผู้อื่นที่ทำความดี เพียงแต่การทำบุญด้วยการบริจาคเงินอาจจะเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่าสำหรับคนยุคนี้ จึงจำเป็นต้องมีการสร้างระบบขึ้นมาดูแลการรับและใช้จ่ายเงินบริจาค การนำเทคโนโลยีอย่าง Blockchain มาใช้ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ต้องดูว่าเมื่อนำมาใช้จริงๆ แล้วคนทุกระดับในสังคมสามารถเข้าถึงได้มากน้อยแค่ไหน การบริหารจัดการจะเป็นอย่างไร เป็นต้น
แนวคิดเรื่อง Blockchain และ Buddhist Coin ถือว่าเป็นการทำบุญในรูปแบบใหม่ และเป็นความหวังในการป้องกันไม่ให้วัดหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องใช้เงินบริจาคที่ไปในทางไม่สมควร เพื่อตอบโจทย์เรื่องความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ และเป็นการยกระดับการบริจาคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเป็นแนวคิดที่คนในสังคมควรให้ความสนใจ และช่วยกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำไปใช้จริง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด