Ingram Micro ร่วมกับ Microsoft นำเสนอ CAN Innovation ผู้ช่วยให้ธุรกิจของคุณทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเครื่องมือจัดการงานขายที่ครบครัน ช่วยให้คุณลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น
ถ้างานขายและกระจายสินค้าเป็นประเด็นที่ทำให้ธุรกิจระดับ SMEs ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) ต้องปวดหัวไปกับแต่ละ Channel แต่ละพนักงานขาย ไม่รู้จะรวมข้อมูลทั้งออนไลน์และออฟไลน์ยังไงไหว ‘CAN Innovation’ มีตัวช่วยบริหารจัดการงานขายจนจบด้วย ‘ระบบการขายและกระจายสินค้า’ ที่มีหลายเครื่องมือ (Saletools) ให้ลูกค้าเลือกใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน เว็บแอปพลิเคชัน
เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร หรือผู้นำโซลูชันไปใช้นั้น ได้สิ่งที่ตรงตามความต้องการและเหมาะกับธุรกิจ Ingram Micro หรือ บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่เป็นผู้จัดจำหน่ายโซลูชันไอทีระดับโลกที่ให้บริการครอบคลุมทั้งระบบนิเวศไอที ไม่ว่าจะเป็น Edge, Core, Cloud & Cybersecurity และ AI Stack แบบครบวงจร จึงนำเสนอบริการของ CAN Innovation ที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ ซึ่งทำงานบนโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่มีความปลอดภัยสูงของ Microsoft Azure มาให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร โดยจุดเด่นของโซลูชันภายใต้ CAN Innovation คือ สามารถผสานรวมและทำงานร่วมกับเครือข่ายของทุกแบรนด์ได้อย่างราบรื่น รองรับความต้องการของธุรกิจได้ทุกขนาด ครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งยังพร้อมรองรับการเติบโตในอนาคต
แบรนด์หรือบริษัทที่ใช้บริการ CAN Innovation รวมแล้วมีมากกว่า 100 แบรนด์ ทั้งไทยและเทศ เช่น บุญรอด, TCP, BJC, Durbell, Unicharm, Café Amazon, เจ้าสัว, โอวัลติน, ไทยเดนมาร์ก, ข้าวตราฉัตร, อายิโนะโมะโต๊ะ, L’Oréal, Petronas, Chevron และโดยส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG)
ยกตัวอย่างแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ ที่ขายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ไปยังร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าทั่วไป ที่นำโซลูชันของ CAN Innovation มาช่วยเรื่องการขายและกระจายสินค้า อาทิ ระบบจัดเก็บ Data ที่จัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์, ระบบติดตาม (Tracking) และตรวจสอบได้ว่า แต่ละสาขามีสินค้าคงคลังเท่าไหร่ ล็อตสินค้าไหนที่ขายออกไปแล้ว สาขาไหนขายดีที่สุด ยอดขายเดือนนี้มากกว่าเดือนที่แล้วกี่เปอร์เซนต์ หรืออยากติดตามการทำงานของเซลล์ก็มีระบบที่จัดเก็บข้อมูลด้านนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งยังมี GPS ที่สามารถติดตามและบันทึกข้อมูลการเข้าพบลูกค้าของเซลล์ แล้วจัดทำออกมาเป็นรายงานที่วัดผลหรือวัด KPI ได้
การพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้ใช้หรือลูกค้าได้ใช้ระบบการขายที่เป็นมิตร ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้ แบรนด์มากมายจึงไว้วางใจ CAN Innovation ในฐานะผู้ให้บริการระบบ และใช้บริการอย่างต่อเนื่องจนมีร้านค้าในระบบของ CAN Innovation กว่า 300,000 ร้านค้า และมียอดเงินหมุนเวียนในระบบปีละมากกว่า 300,000 ล้านบาท
ตัวอย่างระบบหรือโซลูชันซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าก็จะมีทั้งฟีเจอร์ที่รองรับการทำธุรกิจแบบ B2B B2C และ B2B2C อาทิ DMS - Distribution Management System, SFA – Sale Force Automation, POD - Proof of Delivery, OMS - Online Order Management System, LINE OA สำหรับ B2B และ B2C
เป็นโซลูชันบริหารการขายและการกระจายสินค้าที่ทำได้แบบ Omnichannel (ทั้งออนไลน์และออฟไลน์) ช่วยงานขาย งานโปรโมชัน การติดตามสินค้าคงคลัง การส่งสินค้า การนับสต็อก การออกใบชำระหนี้ การเปลี่ยนคืนสินค้า การออกใบกำกับภาษี ณ หน้างาน ตลอดจนการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM - Customer Relationship Management) การจัดทำรายงานเพื่อช่วยวิเคราะห์ KPI โดยเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านอื่นๆ ได้
เป็นระบบติดตามเซลล์หรือพนักงานขายผ่านมือถือที่มี GPS ช่วยเก็บข้อมูลทุกการเข้าเยี่ยมลูกค้า/ร้านค้าของเซลล์ โซลูชันที่ทำงานบน แล้วจัดทำออกมาเป็นรายงานการขายหรือวัด KPI ได้
เป็นระบบติดตามการขนส่งสินค้า รวมถึงการขนส่งแยกตาม Tracking เก็บข้อมูลได้ทั้งการขายแบบ Pre-order, Credit Sale ซึ่งสัมพันธ์กับการขนส่งที่จะมีค่าส่งแยกต่างหาก และสามารถทำเรื่อง Proof of Delivery หรือยืนยันการจัดส่งสินค้าเพิ่มได้ แม้เซลล์ไม่ได้เข้าไปที่ร้านค้า
เป็นเครื่องมือช่วยลูกค้าแบบ B2B ที่จำหน่ายสินค้าบนมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ซึ่งมีทั้งระบบให้โปรโมชันแก่ลูกค้า การแทร็กกิงรายการสั่งซื้อ มีระบบสมาชิก ระบบขนส่งสำหรับ B2B และ B2C การเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านอื่นๆ
เป็นบริการที่เชื่อมกับระบบของ LINE เพื่อให้ลูกค้าใช้ตรวจสอบการทำรายการผ่าน OMS ได้ รวมถึงผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าก็สามารถใช้ LINE ตรวจสอบออร์เดอร์การซื้อสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
ในด้านค่าบริการ ลูกค้าส่วนใหญ่ของ CAN Innovation ชำระค่าบริการรายเดือน (Subscription) เนื่องจากมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเพิ่มหรือลดขนาดการใช้งานซึ่งมีผลต่อค่าบริการได้ตลอด โดยค่าบริการก็แตกต่างกันไปตามรายละเอียดความต้องการและปริมาณ (Volume) การใช้งานของแบรนด์นั้นๆ
ดังที่เกริ่นไปตอนต้นว่า บริการของ CAN Innovation ติดตั้งบนระบบคลาวด์ของ Microsoft Azure จึงช่วยให้องค์กรสามารถสร้างเว็บแอปพลิเคชันบนคลาวด์ ใช้งานแอปพลิเคชันบนมือถือหรือแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ใช้งานในหลากหลายแง่มุม ดังนี้
Microsoft ให้บริการ CAN Innovation ในลักษณะของ Platform as a service (PaaS) ดังนั้น ระบบที่ติดตั้งบน Microsoft Azure ลูกค้าระดับองค์กรหรือ SMEs ที่ใช้บริการไม่จำเป็นต้องลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานเอง จึงช่วยลดภาระบริษัททั้งด้านการลงทุน การบริหารจัดการ และการซ่อมบำรุงเซิร์ฟเวอร์
ผู้ใช้งานโซลูชันสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บแอปพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต PC หรือโน้ตบุ๊กหรือได้อย่างสะดวกราบรื่น เพราะ CAN Innovation นำระบบที่พัฒนาขึ้นเอง มาปรับหรือคัสตอมตามความต้องการของลูกค้า แล้วผสานการทำงานโดยสร้างโฮสต์เว็บแอปพลิเคชันบน Azure App Service ด้วยประสบการณ์การให้บริการระบบการขายและการกระจายสินค้ามาหลายสิบปี จึงทำให้ได้โซลูชันที่มีประสิทธิภาพต่องานขายและการกระจายสินค้า มีฟีเจอร์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และมีการอัปเดตเครื่องมือใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากรันโซลูชันบนระบบของ Microsoft ลูกค้าจึงเชื่อได้ในเรื่องระบบความปลอดภัยที่ Microsoft ติดตั้ง (built-in) และมีให้ใช้งานหลายฟีเจอร์ เพื่อปกป้องการคุกคามจากภัยไซเบอร์ เช่น ฟีเจอร์จำกัดการเข้าถึงแอปด้วย IP Restriction, ฟีเจอร์กำหนดหรือคัสตอมโดเมนที่ต้องการใช้ได้เอง จึงช่วยจำกัดขอบเขตของผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
โซลูชันที่พัฒนาขึ้นโดย CAN Innovation สามารถปรับแก้และบูรณาการกับบริการอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นของ Microsoft อาทิ Azure SQL Database, Azure Storage หรือเชื่อมต่อกับแอปของบริษัทอื่นๆ ผ่านทาง APIs ได้ ไม่ว่าโซลูชันนั้นๆ จะเขียนโค้ดด้วยภาษาใดก็ตาม
หากลูกค้า SMEs หรือองค์กรต้องการสเกลหรือปรับเพิ่มขนาดแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น CAN Innovation ก็มีทีมงานมืออาชีพที่สามารถปรับเปลี่ยนโซลูชันให้ได้ตามความต้องการ ประกอบกับการที่ CAN Innovation ใช้บริการของ Azure SQL Database ส่วนหนึ่งของกลุ่มบริการฐานข้อมูลภายใต้ Azure SQL ซึ่งเป็นบริการฐานข้อมูลอัจฉริยะบนระบบคลาวด์ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้การประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในระดับไฮเปอร์สเกลทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
ทุกบริการที่พัฒนาโดย CAN Innovation ทำงานได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีบริการ Backend สำหรับอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้งยังสามารถใช้เก็บข้อมูลการขายและกระจายสินค้าข้ามประเทศได้ แต่จะเป็นการแยกใช้งานตาม Business Unit ซึ่งต้องพิจารณากันในรายละเอียด
สรุปแล้วการที่ Ingram Micro และ Microsoft Azure นำเสนอแบรนด์ CAN Innovation ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการขายและกระจายสินค้าที่พัฒนาระบบหลังบ้านขึ้นเอง ทั้งการตรวจสอบออร์เดอร์ การติดตามการขนส่งสินค้า การควบคุมและติดตามผลการดำเนินงานของเซลล์ ตลอดจนวิเคราะห์ KPI ได้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารช่องทางการขายให้แก่ลูกค้าองค์กรได้ดีขึ้น การบริหารซัพพลายเชนดิจิทัลก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งเมื่อใช้งานโซลูชันร่วมกับ Azure SQL Database และ Azure App Service ซึ่งอยู่ภายใต้ Microsoft Azure ด้วยแล้ว จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ลดภาระงานของผู้ใช้บริการ และสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ระบบหลังบ้านจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว มีความคล่องตัวสูง และมีการใช้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ปลอดภัยในระดับแอดวานซ์
การทำงานร่วมกันแบบครบวงจรของสองแบรนด์พันธมิตร CAN Innovation x Microsoft Azure ภายใต้ Ingram Micro ผู้ให้บริการด้านโซลูชันไอทีระดับโลก เหมาะกับธุรกิจของคุณมากเพียงใด ผู้สนใจสามารถขอคำปรึกษาหรือขอคำแนะนำด้านการใช้ระบบไอทีเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของ Ingram Micro เพื่อให้ได้โซลูชันที่ครบเครื่อง คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ได้ทาง [email protected] และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ingrammicro.com, www.facebook.com/ingrammicrothailand หรือโทร 02-012-2222
#IngramMicro #Microsoft #MicrosoftAzure #AIPOWER
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด