ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ไทยอย่าง Gentlewoman ปัจจุบันโด่งดังไปถึงสิงคโปร์ แบรนด์จิวเวอรี่ชื่อดังอย่าง Ravipa ได้พาร์ทเนอร์กับแบรนด์ระดับโลก ในขณะที่ Moshi Moshi เปิดสาขามากมายและเพิ่งเข้าตลาดหุ้น ทราบหรือไม่ว่าแบรนด์เหล่านี้ คือส่วนหนึ่งของ SMEs ไทย ที่ได้เข้าร่วมโครงการ LEAD (Leading Entrepreneur Advanced Development) หลักสูตรรีเทลโดยเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งปัจจุบันได้สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จไปมากกว่า 120 ราย
Techsauce ได้ร่วมพูดคุยกับเซ็นทรัลพัฒนา ผู้พัฒนาหลักสูตร รวมถึง ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ กับการเดินทางมาพบกันในโครงการ LEAD เส้นทางที่สร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และเป็นตัวอย่างให้กับธุรกิจอื่นๆ ได้เติบโตภายใต้ Ecosystem ของกลุ่มเซ็นทรัล
เซ็นทรัลพัฒนาเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย และดูแลศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้ว (2022) ได้ประกาศครบรอบ 40 ปี พร้อมวิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เพื่อสร้าง Sustainable ecosystem ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน และปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา ไม่ได้เป็นแค่ผู้พัฒนาศูนย์การค้าเท่านั้น แต่ยังพัฒนาธุรกิจที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ โดยในปี 2017 ในเวลาที่ประเทศไทยกำลังพูดเรื่อง Digital Disruption กันเยอะมาก เซ็นทรัลพัฒนา ได้เห็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่มีความคิดทันสมัย บ้างก็มีสินค้าอยู่บนโลกออนไลน์ แต่ไม่ได้รับโอกาสหรือมีพื้นที่ได้โชว์ของ ดังนั้นเมื่อเซ็นทรัลพัฒนามองตัวเองเป็นแพลตฟอร์ม และต้องการดึงเอาคนรุ่นใหม่มาอยู่ใน Ecosystem จึงได้พัฒนาคอร์ส LEAD ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามา
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของเซ็นทรัลพัฒนา ได้เปิดเผยถึงวิธีคิดว่า แต่ก่อนการจะเข้ามาขายสินค้าในเครือเซ็ลทรัลนั้น อาจเป็นเรื่องยาก มีเงื่อนไขเยอะ ซึ่งวิธีคิดแบบเก่าคือการคัดเลือกคนเดิมๆ เข้ามาเปิดในศูนย์ เพราะรู้มือ จ่ายค่าเช่าได้ แต่วิธีคิดใหม่คือ มีคนรุ่นใหม่ ที่เก่ง มี Passion เยอะ และสามารถทำได้แค่ขาดโอกาส และ เซ็นทรัลพัฒนา มองว่าเรามีหน้าที่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ จึงได้เริ่มโครงการ LEAD ขึ้นในปี 2017
“เรามองตัวเองเป็นแพลตฟอร์ม ซึ่งการเป็นแพลตฟอร์มอย่างเดียวไม่พอ ต้อง Incubate คือสร้าง SMEs ให้แข็งแรงขึ้น และโตไปพร้อมกับเรา โดยเราตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมี มีรายใหม่ 10% ของพื้นที่ศูนย์การค้า เพื่อช่วย SMEs เติบโตไปกับเราได้”
LEAD ย่อมาจาก Leading Entrepreneur Advanced Development คือหลักสูตรรีเทลที่พัฒนาให้ผู้ประกอบการเติบโต แตกต่าง และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ผู้เรียนได้สร้างประสบการณ์แบบ “เรียนจริง ทำจริง โตจริง” ผ่านการเรียนรู้จากผู้รู้จริงในวงการรีเทล ทดลองตลาดกับพื้นที่ที่มีศักยภาพ และนำสิ่งที่ได้พัฒนามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจจริงอย่างเป็นรูปธรรม
ผศ.ปิติพีร์ รวมเมฆ CEO & Founder บริษัทเอมบิชั่น คอร์ป จำกัด ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจ นวัตกรรมและการตลาด หรืออาจารย์เอม ผู้ซึ่งเป็น Program Director และร่วม Incubate เหล่า SMEs ในโครงการอย่างใกล้ชิด เปิดเผยว่า โจทย์ที่ได้รับจาก เซ็นทรัลพัฒนา คือการสร้างแพลตฟอร์มหาดาวรุ่งเข้าวงการ โดยใช้ Ecosystem ของเซ็นทรัลพัฒนา ในการช่วย ซึ่งแนวคิดของเซ็นทรัลพัฒนาคือ ธุรกิจจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนผู้ประกอบการจะต้องเติบโตไปพร้อมกัน จึงได้นำโจทย์มาดำเนินสู่โปรแกรม ซึ่งจะเป็น Gateway to Success ให้กับ SMEs ที่เข้ามา
“เรามองว่าเซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้ใหญ่ใจดีในการให้โอกาสผู้ประกอบการได้เติบโต ซึ่งหน้าที่ของ โครงการ LEAD คือจะทำอย่างไรให้ผู้เข้าโครงการมีความพร้อม และสามารถเติบโตไปได้จริงๆ ด้วย Business Model ใหม่ๆ ซึ่งเราเปรียบเหมือนคนที่ช่วยค้นหาดาวรุ่งเข้าวงการ โดยใช้ Ecosystem ของ เซ็นทรัลพัฒนา ในการสนับสนุน”
โดยการเลือกนักเรียนหรือผู้เข้าร่วมโครงการนั้น ต้องเลือกคนที่มีพื้นฐานธุรกิจระดับนึงเข้ามา และมีความสามารถที่จะเติบโตได้ด้วยตนเอง ซึ่งคอร์สเรียนในแต่ละปีก็จะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จากความเปลี่ยนแปลงของโลก อย่างในปีแรกมีการมองเรื่อง Data , CRM , Retail ปีถัดมา มีเรื่อง Omnichanel และตอนนี้มีเรื่อง Metaverse ซึ่งก็มีความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาในแต่ละปี
ข้อได้เปรียบของเซ็นทรัลพัฒนา ที่สามารถช่วยให้ SMEs เติบโตได้เร็วขึ้น คือการมีพื้นที่ทดลองและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องหลังบ้านดี
“เราช่วยคิดตั้งแต่ Solution และเนื่องจาก เซ็นทรัลพัฒนา มี Pop Up Space ให้ลองทำจริงขายจริงฟรี สิ่งที่ทุกคนจะได้ทำหลังจากคิด Solution และ Product ใหม่แล้ว เราจะให้ไปลองขายจริงเลย และก็จะมีการ Comment เพื่อเปลี่ยน Product คิดใหม่ ทำใหม่ในวันนั้นๆ เหมือนทำแล้วทดลองจนกว่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภค”
“แต่ก่อนคนทำธุรกิจ จะเอา Product และแบรนด์เป็นที่ตั้ง แต่เมื่อมาอยู่ใน LEAD สิ่งที่ทำคือการเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง” อาจารย์เอมกล่าวสรุป
นอกจากทุกแบรนด์จะทดลองทำจริงขายจริงแล้ว ยังมีการได้ Collab Brand เพื่อทำให้เกิด Business Solution ใหม่จากการคิดร่วมกัน ซึ่งในแต่ละกิจกรรม เจ้าของกิจการลงมาร่วมด้วยตัวเอง ทำให้เกิดโอกาส ปรับกลยุทธ์และได้พาร์ทเนอร์ใหม่ๆ อีกด้วย
ดร. ณัฐกิตติ์ และอาจารย์เอมได้สรุปเพิ่มเติมถึงจุดเด่นของโครงการ LEAD ที่ Ecosystem ของเซ็นทรัลจะช่วยให้ SMEs เติบโตได้แบบก้าวกระโดดคือ
นอกจากนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดและแสดงความสำเร็จของโครงการคือ ปกติแบรนด์อาจจะขยายได้ 1 สาขา พอมาเข้าโครงการ LEAD สามารถขยายได้ถึง 5-10 สาขา ใน 1 ปี
นอกจากพูดคุยกับผู้พัฒนาโครงการแล้ว นักเรียนในโครงการ LEAD ก็ได้รวมแชร์ถึงประสบการณ์พร้อมความสำเร็จจากการได้เข้าร่วมโครงการนี้
คุณสุรีย์พร พูนศักดิ์ไพศาล (คุณก้อย) หนี่งในตัวอย่างของ SMEs ที่ได้เข้าโครงการคือร้านซาลาเปาโกอ้วน ซึ่งมี Passion จากความ Local ของจังหวัดหาดใหญ่ และนำซาลาเปาทอดมาขายที่กรุงเทพ เมื่อเข้าโครงการ LEAD ทำให้คุณก้อยมีความมั่นใจมากขึ้น และได้แตกแบรนด์เครื่องดื่มที่ชื่อว่า ‘ชงดี’ ออกสู่ตลาด ด้วยยังคงพัฒนา product โดยไม่ทิ้งความ local
“เราได้นำชงดีไปทดลองกับเซ็นทรัล ด้วยโลเคชั่นที่เราก็ไม่คิดว่าจะขายดีอย่างเซ็นทรัลพระราม 2 แต่กลายเป็นว่าได้รับเสียงตอบรับดี โดยปีนี้ตั้งใจจะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา นอกจากนี้ยังได้มีการร่วมกับแบรนด์Quinn ที่พัฒนาเป็นไอศกรีมรสชาใต้อีกด้วย”
“เราทดลองออก Product ใหม่เยอะมาก” คุณชนิกานต์ ตันบุญเพิ่ม (คุณเฟิร์น) จาก Tempered Cooperatives ได้เล่าให้ฟังถึงการเข้าร่วมพัฒนา Product ใหม่ๆ เมื่ออยู่ในโครงการ LEAD โดยคุณเฟิร์นมีจุดแข็งจากความเชี่ยวชาญด้านช็อกโกแลต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจตอนไปญี่ปุ่น และตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำช็อกโกแลต พร้อมศึกษาอย่างจริงจังทั้งการปลูก การหมัก จนเป็นกูรูด้านช็อกโกแลตเต็มตัว และได้เปิดร้านในช่วงโควิดระบาด แต่เมื่อได้ทดลองมาขายที่เซ็นทรัลพระราม 2 ก็ได้ลูกค้ากลุ่มครอบครับและคนรักสุขภาพ ซึ่งต่อยอดสู่ Product ใหม่ๆ ได้
“เราทดลองทำช็อกโกแลตแบบไม่มีน้ำตาล เพื่อสุขภาพ กลายเป็นว่าขายดีมาก เห็นตัวเลขขึ้นอย่างชัดเจน โดยหลังจากนี้มองการเติบโตที่ลูกค้าหลายกลุ่ม เพราะมองว่าช็อกโกแลตสามารถต่อยอดได้ต่อในอีกหลายรูปแบบ”
คุณกัญญาณัฐ ปิยะชัยวุฒิ (คุณมาย) และคุณสุพพัต ปิยะชัยวุฒิ (คุณม่อน) จาก Nineties Design ได้เริ่มต้นแบรนด์จากการเป็นคนชอบใส่เสื้อยืด และอยากได้เสื้อยืดคุณภาพดี ซึ่งปกติแล้ว Target เป็นกลุ่ม Teenager และเมื่อเข้าโครงการก็ได้ทำแบรนด์ใหม่ชื่อ Nine ที่เน้น Target เป็นกลุ่มคนทำงาน จนได้ผลตอบรับดี มาสู่การเปิดร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลดิ์
เมื่อมาเข้าคอร์ส LEAD เราได้ขยายจาก จาก 20 เป็น 30 สาขา และได้ทดลองทำตลาดที่เซ็นทรัล พระราม 2 เป็นแบรนด์เด็ก ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับดี
คุณนวัต ศักดิ์ศิริศิลป์ (คุณปุ้ม) เป็น Product designer และได้ออกแบบ Product กับแบรนด์ใหญ่ๆ หลายราย และมีความคิดอยากเติบโตในแบบ B2C จึงได้เริ่มจำหน่ายสินค้าของตนเองบ้าง เมื่อเข้าโครงการก็ได้เจอเพื่อนๆ ที่มีความเข้าใจในการทำธุรกิจ มีการเรียนรู้จากเพื่อนๆ ทำให้ได้มีการโตง่ายขึ้น จัดการหลังบ้านได้ดีขึ้น โดยปัจจุบันมีจุดจำหน่าย 20 - 30 จุด
“ปกติไปช่วยออกแบบเบื้องหลังคนอื่น แต่จริงๆสามารถทำของตัวเองได้ สามารถ design store concept ของตัวเองได้ และการเข้าโครงการก็เห็น business model กับการเติบโตที่ชัดขึ้น”
เมื่อพูดถึง Superlock หลายคนต้องรู้จัก และ Amatas ก็คือแบรนด์ใหม่ จากทายาทอย่างคุณพลาวุฒิ เจริญจิตมั่น (คุณอัพ) ที่ต่อยอดธุรกิจจากธุรกิจครอบครัว
โดยจากธุรกิจเดิม ที่เป็นโรงงานผลิตแบรนด์ Super Lock ที่มีอยู่แล้ว มา Scale Business ขายสินค้าในกลุ่มเครื่องครัว โดยสามารถนำระบบ Supply Chain มาดำเนินงานต่อได้ และตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่มีดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น
“การเข้าโครงการ ทำให้สามารถนำความรู้ด้าน retail มาต่อยอดเป็นร้านเครื่องครัวที่รวบรวมสินค้าที่มี หลากหลายฟังก์ชัน และหลากหลายดีไซน์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้”
ในช่วงท้ายของการพูดคุยกัน ดร. ณัฐกิตติ์ ได้สรุป Key success factors 8 ข้อ ที่ได้จากโครงการ LEAD ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญให้ไขสู่ความสำเร็จ คือ
เพื่อสร้างความต่อเนื่องของโครงการ ด้านเซ็นทรัลพัฒนา ก็ได้เตรียมเปิดรับ SMEs รุ่น 5 ที่จะเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ของเซ็นทรัลและเติบโตไปด้วยกัน
แม้โลกจะเปลียนแปลงเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคอาจเปลี่ยนเร็ว แต่ LEAD ในรุ่นถัดไป ทาง เซ็นทรัลพัฒนา ทิ้งท้ายไว้ว่า อยากให้เรียกว่า Lead 5.0 ที่เข้มข้นขึ้น ปรับอะไรใหม่ๆ มากขึ้น และจะเป็น “New success in another era”
สำหรับใครที่สนใจ สามารถสมัครเช้าร่วม LEAD รุ่น 5 ได้ที่ https://shoppingcenter.centralpattana.co.th/lead/
บทความความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด