5 กลยุทธ์สำคัญ ขับเคลื่อนบริการ Buy Now Pay Later สำหรับธุรกิจค้าปลีกและ FinTech | Techsauce

5 กลยุทธ์สำคัญ ขับเคลื่อนบริการ Buy Now Pay Later สำหรับธุรกิจค้าปลีกและ FinTech

Deloitte และ Mambu เผยในรายงานล่าสุด ชี้ 5 กลยุทธ์จิ๊กซอว์สู่ความสำเร็จสำหรับบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (Buy Now Pay Later - BNPL) พร้อมการคาดการณ์ทิศทางตลาดบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (BNPL) สำหรับธนาคารและผู้ค้าปลีก

Deloitte - Mambu เผย 5 กลยุทธ์ การทำ Buy Now Pay later ให้สำเร็จ

Deloitte และ Mambu ผู้ให้บริการธุรกรรมทางการเงินบนแพลตฟอร์มคลาวด์ (Cloud Banking Platform) ได้เผย 5 กลยุทธ์จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่บรรดาร้านค้า รวมถึงผู้ประกอบการและธุรกิจฟินเทคควรให้ความสำคัญและนำมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (BNPL) สู่ความสำเร็จ โดยข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานล่าสุด ที่เปิดเผยการคาดการณ์ทิศทางตลาดของภาคส่วนธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับธนาคารและผู้ค้าปลีก

รายงาน The ‘Deloitte and Mambu Guide to BNPL’ ได้ระบุ 5 กลยุทธ์จิ๊กซอว์สำคัญ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจที่กำลังพัฒนาโซลูชันการให้บริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (BNPL) ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด 

โดยประกอบด้วย

  • การสร้างคุณค่าของบริการ เพิ่มมูลค่าด้วยการมอบความแตกต่างให้กับลูกค้า เข้าถึงและเข้าใจความต้องการของร้านค้าและลูกค้า จากนั้นนำมาพัฒนาเป็นโมเดลการให้บริการ เพื่อช่วยร้านค้าและลูกค้าแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

  • เทคโนโลยีและข้อมูล – มองหาพาร์ทเนอร์ชั้นนำในอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันพัฒนาชุดเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างเว็บหรือแอปพลิเคชัน นำไปสู่การวิเคราะห์และตัดสินใจที่ดีที่สุด รวมถึงการพัฒนาโซลูชันแห่งโลกอนาคต ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
     
  • การบริหารจัดการความเสี่ยงและการปฏิบัติตามแนวทางเพื่อพัฒนาองค์กร – ออกแบบกรอบการบริหารความเสี่ยงองค์กรที่จะช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งในด้านการตรวจสอบและบริหารจัดการการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นในองค์กร นำไปสู่การกำหนดความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ (Risk Appetite) พร้อมทั้งสร้างโมเดลและกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงเหล่านั้น

  • ทักษะและความสามารถ – ลงทุนเฟ้นหาทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน ในการเข้ามาดูแลรับผิดชอบส่วนงานที่มีความสำคัญ เพื่อสร้างทีมให้แข็งแกร่ง พร้อมสร้างแบรนด์และความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการของตน

  • กลยุทธ์การปล่อยสินค้า/บริการสู่ตลาด – ลดระยะเวลาในการปล่อยสินค้า/บริการสู่ตลาดโดยการรวมสินค้า/บริการที่มีอยู่ใน Portfolio ในการสร้างผลิตภัณฑ์ตั้งต้น (Minimum Viable Product หรือ MVP) ด้วยฟีเจอร์น้อยที่สุดเพื่อทดสอบตลาด ก่อนพัฒนาเป็นสินค้าที่ความสมบูรณ์ออกสู่ตลาดต่อไป

รายงานนี้ถูกจัดทำและเปิดเผยท่ามกลางเทรนด์บริการการใช้จ่ายแบบ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง”ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ โดยคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2573 มูลค่าตลาดของบริการนี้จะพุ่งสูงถึง 3.98 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 131 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45.7 ของอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 

รายงานระบุว่า หนึ่งในสามปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริการ BNPL เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือความต้องการของผู้บริโภคในด้านความสะดวกและราคาที่เข้าถึงได้ โดยข้อมูลล่าสุดจาก Deloitte ระบุว่า ผู้บริโภคกว่าครึ่ง (ร้อยละ 56) กล่าวถึงเหตุผลสำคัญที่เลือกใช้บริการ BNPL นั่นคือสามารถทดลองใช้สินค้าได้ก่อนชำระเงิน 

ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้บริการ BNPL เติบโตคือการที่ร้านค้านำบริการนี้มาใช้ เนื่องจากคำนึงถึงผลประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับอีกมากมาย อาทิ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ปริมาณออเดอร์ที่ได้รับโดยเฉลี่ย และการดึงลูกค้าให้มาใช้บริการได้มากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 โดยข้อมูลจาก Worldpay บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลกระบุว่า บริการ BNPL ถือครองสัดส่วนร้อยละ 2.9 ของการให้บริการประเภท e-commerce ทั่วโลกในปี พ.ศ. 2563 และคาดว่าจะถือครองสัดส่วนถึงร้อยละ 5.3 ในปี พ.ศ. 2568 

คุณ Pham Quang Minh ผู้จัดการทั่วไปของ Mambu ประเทศไทยกล่าวถึง ตลาดการให้บริการ BNPL ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีว่า “บริการ BNPL ในประเทศไทยได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เราเห็นการแข่งขันค่อนข้างดุเดือดในกลุ่มผู้ให้บริการที่มีอยู่มากมาย ทั้งแบรนด์ระดับโลก รวมไปถึงธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทย ทำให้ส่วนแบ่งตลาดถูกกระจายไปยังผู้ให้บริการที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะที่ตลาดโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

จากรายงานที่จัดทำโดย Research and Markets มีการคาดการณ์ว่าในระยะกลางถึงระยะยาว ภาคส่วนการเติบโตของบริการ BNPL จะอยู่ในช่วงขาขึ้นและเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง การนำบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” มาปรับใช้โดยผู้ให้บริการจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 จนถึงปี 2571 การเติบโตคิดเป็นร้อยละ 44.8 ของอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 

ทั้งนี้คาดการณ์ว่ามูลค่าขายและซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านบริการ BNPL ทั้งหมดในประเทศไทยจะพุ่งสูงขึ้นจาก 25,000 ล้านบาท หรือ 893.1 ล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2564 ไปเป็น 521,994 ล้านบาท หรือ 15,818.1 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2571”

ด้านคุณ João Caldeira Partner ของ Deloitte กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันบริการ BNPL กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างยอดขายสำหรับธุรกิจค้าปลีกและผู้ให้บริการ e-commerce และสำหรับร้านค้าที่ยังไม่ตัดสินใจนำบริการ BNPL มาใช้ พวกเขากำลังมองหาโซลูชันทางการเงิน ที่จะช่วยออกแบบบริการ BNPL ที่มีความรวดเร็ว มีราคาต้นทุนที่ต่ำ 

สิ่งสำคัญคือบริการ BNPL จะต้องช่วยพวกเขาสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ และช่วยเพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบแบ่งจ่ายที่ไร้รอยต่อได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้กับลูกค้า และเป็นหมากตัวสำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จัก Secure Corporate Internet บริการใหม่ที่ ‘ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัล’ เข้าใจทุกเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ของธุรกิจ จาก AIS Business

บทความนี้ Techsauce อยากชวนมารู้จักกับ Secure Corporate Internet อินเทอร์เน็ตองค์กรที่มีระบบรักษาความปลอดภัยครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง บริการใหม่เพื่อธุรกิจในยุคดิจิทัล!...

Responsive image

สรุปเนื้อหาจากงาน KBTG Techtopia: A Blast From the Future เจาะเวลาหาอนาคต สู่การใช้ AI อย่างชาญฉลาดบนความรับผิดชอบ

สรุปเนื้อหาจากงาน KBTG Techtopia: A Blast From the Future นำเสนอเนื้อหาสุด Exclusive จากทั้ง 3 Stage โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชั้นนำจากทั้งไทยและต่างประเทศ เจาะเวลาหาอนาคต สู่ก...

Responsive image

Ertigo สตาร์ทอัพไทยที่อยากแก้ปัญหา Office Syndrome ตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการ TeleRehab ในอาเซียน

ERTIGO สตาร์ทอัพไทยที่ต้องการแก้ปัญหา Office Syndrome ตั้งเป้าการเป็นผู้ให้บริการ Telerehab ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...