เมื่อ Technology + Insight ออกแบบและขับเคลื่อน Digital Transformation | Techsauce

เมื่อ Technology + Insight ออกแบบและขับเคลื่อน Digital Transformation

แม้ว่าขณะนี้ ผู้อ่านหลายคนจะได้รับฟังเรื่องของ Digital Transformation จนเห็นความจำเป็นกันแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้มีรายละเอียดมากมายจนทำให้หลายองค์กรใช่ว่าจะดำเนินการโดยไร้อุปสรรค ดังนั้น การเล่าถึงกรณีศึกษาด้าน Digital Transformation จึงยังจำเป็นอยู่ โดยเฉพาะกรณีศึกษาในประเทศไทย อันมีบริบทอันเป็นเอกลักษณ์บางอย่างที่ไม่อาจหาจากตัวอย่างในต่างประเทศ

ซึ่งหากถามถึงกรณีศึกษาด้าน Digital Transformation ในประเทศไทย คงไม่มีใครให้ข้อมูลได้ดีไปกว่า I AM Consulting บริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Solution ที่พร้อมช่วยแปลงร่างองค์กรไทยให้พร้อมผจญคลื่น Disruption ได้อย่างแข็งแกร่ง ในวันนี้ Techsauce ได้รับโอกาสพูดคุยกับคุณกริช วิโรจน์สายลี Country Vice President บริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ I AM Consulting ที่จะมาเล่า Insight การใช้เทคโนโลยีในองค์กรไทยที่ประสบความสำเร็จจากประสิทธิภาพที่เห็นผลจริง

เพราะระบบต่างประเทศมาด้วย Best Practice ซึ่งอาจไม่เหมาะกับ “คนไทย”

คุณกริช เล่าว่า I AM Consulting เริ่มจากการเป็นบริษัทให้คำปรึกษาการใช้งานระบบ SAP ในประเทศไทยมานานกว่า 16 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงธุรกิจของผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพ, ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม คุณกริชชี้ว่าต่อให้ Solution Software ที่ถูกสร้างขึ้นมาจะมีประสิทธิภาพสูงขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้นต่อองค์กรได้ เหตุเพราะระบบเหล่านี้มักมาด้วย Best Practice จากต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยบริบทของแต่ละประเทศหรือองค์กรที่แตกต่างกัน องค์กรไทยจึงไม่อาจนำ Best Practice ที่เกิดขึ้นไปใช้งานได้โดยตรงแน่นอน ทำให้ทุก Solution ต้องมีการปรับแต่งให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละองค์กร 

คุณกริช ยกตัวอย่างถึงองค์กร 2 แบบ ได้แก่ องค์กรธุรกิจเอกชน และหน่วยงานราชการ แม้ว่าพวกเขาจะใช้ Software ตัวเดียวกัน แต่ใช่ว่าทั้ง 2 จะมีเป้าหมายเดียวกัน โดยภาคธุรกิจอาจมองถึงประสิทธิภาพหรือความเร็วต่องาน ส่วนราชการอาจมองถึงความโปร่งใส ความถูกต้องของงานเป็นสำคัญ ยังไม่นับรวมวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่สำคัญสำหรับการออกแบบระบบ

เราออกแบบ Solution โดยคำนึงถึง Digital Competency ของผู้ใช้ เพราะแต่ละองค์กรมีขีดการแข่งขันที่แตกต่างกัน

RPA และ Blockchain พาองค์กรก้าวรวดเร็วเมื่อใช้ถูกที่ถูกเวลา

นอกจากการคำนึงถึงการปรับแต่ง Solution ให้ตรงตามเป้าหมายแล้ว หน้าที่ของที่ปรึกษายังเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอย่างเหมาะสมกับแก่องค์กร โดยคุณกริชกล่าวว่า ปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยีที่พร้อมยกระดับองค์กรให้ Go Digital อยู่มากมาย ซึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจและพร้อมต่อการลงทุนในเวลานี้มี 2 อย่าง คือ Robotic Process Automation หรือ RPA และ Blockchain

สำหรับ RPA คุณกริช กล่าวว่า ในการทำงานมักจะมีงานบางอย่างที่ต้องดำเนินการซ้ำ ซึ่งหากสามารถใช้ระบบอัตโนมัติมาช่วยก็จะเพิ่มประสิทธิภาพได้ อย่างไรก็ตาม งานที่ซ้ำเหล่านี้ มักมีความซับซ้อนพอสมควรจนต้องพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง RPA อันเป็นระบบอัตโนมัติที่มีส่วนผสมของ AI เข้าแก้ปัญหา โดยหนึ่งในปัญหาที่ทาง I AM Consulting เห็นชัดเจนที่สุดคืองาน “เอกสาร”

คุณกริช ขยายความว่างานเอกสารเป็นงานที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงต้องทำซ้ำต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเอกสารของแต่ละองค์กรมีรูปแบบแตกต่างกันซึ่งหากใช้ระบบอัตโนมัติธรรมดาจะเกิดความผิดพลาด ด้วยเหตุนี้ จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยี OCR (Optical Charactor Recognition) อันเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์อ่านทำความเข้าใจตัวอักษร มาใช้กับงานเอกสารโดยตรง ทำให้แม้ว่าเอกสารของแต่ละองค์กรจะมีรูปแบบหรือตำแหน่งระบุข้อมูลที่แตกต่างกัน ระบบก็จะเข้าใจพร้อมกับจัดการบันทึกและดำเนินการต่อได้โดยอัตโนมัติ

ปัจจุบัน OCR ได้รับการประยุกต์ใช้ทั้งงานหลังบ้านรวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ Product ที่ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารจัดซื้อ งานเอกสารบัญชี ไปจนถึงงานในส่วน Credit Scoring และ Digital Lending ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมทั้งความเร็ว ความถูกต้อง ไปจนถึงต้นทุนต่างๆ ได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

อีกเทคโนโลยีหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Blockchain ซึ่งมีจุดเด่นด้านการจัดเก็บข้อมูล และการทำงานที่โปร่งใส มีความปลอดภัยสูง ด้วยการทำงานบนเครือข่ายทำให้เชื่อมั่นได้ว่าข้อมูลจะไม่ถูกแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ซึ่งคุณกริชชี้ว่าปัจจุบันได้มีการออกแบบและพัฒนาโซลูชัน Blockchain for Enterprise ขึ้นมา ทั้งที่ใช้งานแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา เช่น Decentralized Digital Lending

สำหรับกลุ่ม Non-Bank, การออกหุ้นกู้เพื่อธุรกิจ SME ในรูปของ Crowdfunding ไปจนถึงระบบ E-Voting สำหรับผู้ถือหุ้น โดยระบบ E-Voting นั้น ทาง I AM Consulting ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในกลุ่ม Thailand Blockchain Working Group พัฒนาและใช้งานจริงในการประชุมผู้ถือหุ้นที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพื่อแก้ไข pain point ในเรื่องของการเดินทาง และการเว้นระยะห่าง ที่มาจากผลกระทบของสถานการณ์ COVID-19

คุณกริช เผยว่า ด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มีการใช้งานในหลายองค์กรธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ในกลุ่มนักพัฒนาบล็อกเชนและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้เติบโตแข็งแรง I AM Consulting และพันธมิตร ได้แก่ J Ventures ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มในกลุ่มบริษัทเจมาร์ท, Dome Cloud ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีครบวงจร และ Satang Corporation เว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซี จึงได้ร่วมกันจัดตั้ง Thailand Blockchain Working Group (TBWG) ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นว่าการรวมตัวนี้จะช่วยให้องค์กร ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ เกิดความเข้าใจ และต้องการที่จะเข้าถึงเทคโนโลยี ส่งผลให้เทคโนโลยีบล็อกเชนและไอทีอื่นๆ เติบโตในประเทศไทยต่อไป

COVID-19 ผลกระทบต่อ Digital Transformation ที่ไม่อาจปฏิเสธได้

หากพูดถึงช่วงที่ผ่านมา คงไม่มีสถานการณ์ใดส่งผลกระทบต่อธุรกิจไปมากกว่า COVID-19 โดยในมุมของคุณกริชซึ่งสังเกตและได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ใช้บริการ ระบุว่า COVID-19 เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจทั้งหลายที่เห็นโอกาส เร่งเครื่องผลักดันผลิตภัณฑ์ให้เข้าสู่ตลาดเร็วกว่าเดิม ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้หนีไม่พ้น Digital Solution นั่นเอง อีกส่วนหนึ่งที่ COVID-19 เป็นตัวเร่งการปรับบริการธุรกิจโดยคำนึงถึง Social Impact เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน

คุณกริช เสริมว่า จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เป็นผู้รับบริการของ I AM Consulting อาจประสบ “ความติดขัด” ในการทำธุรกิจ ดังนั้น สิ่งที่ I AM Consulting ทำคือการเข้าไปช่วย “พัฒนาธุรกิจ” ร่วมกับลูกค้า ด้วยการคิดออกแบบ Solution ให้ “ลูกค้าของลูกค้า” (Customer of Client) ได้รับบริการที่ดีที่สุด ซึ่งทั้งนี้  Digital Transformation ยังเป็นที่ต้องการขององค์กรจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อการค้นหา New S- Curve เพื่อก้าวสู่พรมแดนใหม่ หรือการเสริม Current S-Curve ให้ธุรกิจที่มีอยู่เดิมดำเนินไปได้เต็มที่ขึ้น

3 แกนแนวคิดด้านเทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจแข็งแรงในอีก 3 ปีข้างหน้า

เมื่อได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการ Implement Digital Solution ให้กับองค์กรมามากมาย คำถามที่ควรจะถามต้องว่าด้วยแนวคิดที่จำเป็นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งทางคุณกริชแนะนำว่า องค์กรต้องเตรียมเทคโนโลยีบนแนวคิด 3 แบบ ดังนี้


  • Core Technology ต้องแข็งแรง ก่อนที่จะ Apply เทคโนโลยีและนวัตกรรมใดๆ องค์จะต้องสร้างเทคโนโลยีที่เป็นแกนหลักให้มีความแข็งแรงเสียก่อน อย่างเช่น องค์กรเอนเทอร์ไพรส์ที่ใช้งานระบบ SAP ERP อาจจะต้องกลับมาพิจารณาว่า ระบบที่ใช้อยู่นั้นทำงานเต็มประสิทธิภาพของระบบแล้วหรือยัง มีการวางแผนเพื่อรองรับการเติบโต หรือส่วนไหนที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อเชื่อมต่อกับระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งการมี Core Technology ที่แข็งแรงอาจจะไม่ใช่การยกเครื่องระบบใหม่ แต่เป็นการปรับปรุง หรือต่อยอดส่วนที่ถูกละเลยให้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพก็ได้

  • Integration การผสมผสานงานแต่ละส่วนให้ชัดเจน อีกแนวคิดหนึ่งที่ต้องยึดไว้ คือการพยายามผสานเทคโนโลยีในงานแต่ละขั้นให้เชื่อมโยงกันอันจะทำให้เกิดประสิทธิภาพต่อธุรกิจโดยรวม คุณกริชยกตัวอย่างถึงธุรกิจ E-Commerce ซึ่งนอกจากการจัดการขายสินค้าแล้ว ยังสามารถผสาน CRM เพื่อติดตามและกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องได้
  • Outsource งานอย่างเหมาะสม แน่นอนว่าองค์กรหนึ่งไม่จำเป็นต้องจัดตั้งทีมอย่างครบวงจรโดยเฉพาะงานที่ไม่ถนัดและไม่สามารถต่อยอดกับธุรกิจได้ ดังนั้น การเลือก Outsource งานบางอย่างออกไป จะทำให้องค์กรเกิดความคล่องตัวมากกว่า พร้อมกับยังได้รับประสิทธิภาพในระดับมาตรฐานซึ่งในการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้

จะเห็นได้ว่าแนวคิด Digital Transformation ที่จำเป็นไม่ได้จำกัดอยู่ที่การเลือกเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของทั้งตัวองค์กรและธุรกิจอย่างเหมาะสม เพื่อให้ Digital Solution ใหม่ๆ ถูกนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพของทั้งองค์กรได้อย่างแท้จริง

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...