จบไปแล้วสำหรับงาน Techsauce Global Summit 2024 งานประชุมด้านเทคโนโลยีระดับแนวหน้าที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จัดขึ้นตลอด 3 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยปีนี้จัดขึ้นภายในธีม ‘The World of Tomorrow with AI’ เพื่อชู 5 แกนสำคัญสำหรับด้าน AI พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น Tech Gateway ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักมาจาก ETDA หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย โดย ETDA ในฐานะ Regulator มีภารกิจหลัก ทั้งการกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัล อย่าง ธุรกิจบริการ Digital ID และธุรกิจผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform Services) เพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมทางออนไลน์อย่างเชื่อมั่น และปลอดภัย ไปพร้อมๆ กับการส่งเสริม ผลักดันให้เกิด Ecosystem ที่เอื้อต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับชีวิต การทำงาน ตลอดจนการทำธุรกิจในทุกภาคส่วน ได้อย่างรู้เท่าทัน เหมาะสมและมีธรรมาภิบาล (Governance) ช่วยให้ประเทศพร้อมสู่สังคมดิจิทัล เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและยกระดับความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีศักยภาพ ฃ
เพื่อให้ทุกท่านเข้าถึงใจถึงบทบาทสำคัญของ ETDA มากยิ่งขึ้น เราจึงรวบรวมสรุปเนื้อหาสำคัญจาก 3 เซสชั่น ที่มีวิทยากรจาก ETDA ร่วมบรรยายบนเวทีเสวนา ภายในงาน Techsauce Global Summit 2024 ทั้งหัวข้อ AI Governance for Digital Transformation, Harnessing AI: Transforming Workspaces for the Future และ Regulations VS Innovation: How to Balance Benefits in the Digital Future for All
เริ่มต้นด้วยเซสชั่นแรก ในหัวข้อ “AI Governance for Digital Transformation” จาก ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด, Senior Advisor จาก ETDA ที่มาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทสำคัญในทิศทางความเป็นไปได้ในการกำกับดูแล AI และ AI Framework ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในด้านการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้องค์กรจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อสังคม
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด กล่าวว่า AI มีศักยภาพในการช่วยให้ภาครัฐและภาคธุรกิจดำเนินการได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้าน 4 Generative AI ไม่ว่าจะเป็น Content Summarization and Synthesis, Coding and Software, Customer Engagement, และ Content Generation โดย ดร.ศักดิ์ กล่าวว่าการนำ AI มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจและองค์กร ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ใช้เทคโนโลยีนี้ด้วย
ถึงแม้ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญแก่ธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม แต่ก็ยังมีความเสี่ยง (AI Risk) โดยเฉพาะทางด้านความโปร่งใส (Transparency) ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ Lack of ML Responsibility และ Lack of Expertise แต่สามารถแก้ปัญหาได้ องค์กรมีการจัดตั้ง Ethics Review Board และ Education and Training เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความรู้ให้แก่พนักงาน
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ได้กล่าวถึง 12 ความเสี่ยงในการใช้ Generative AI พร้อมแนะนำว่าการสร้างความสมดุล ระหว่างประโยชน์และความเสี่ยงในการใช้เทคโนโลยี AI ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งศูนย์ AIGC หรือ AI Governance Center จาก ETDA ที่มีหน้าที่สำคัญในการให้คำปรึกษาและพัฒนากรอบธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย สามารถขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาลโดยศูนย์ AI Governance Center (AIGC) จาก ETDA ที่พร้อมด้วย Expert Fellows และ International Policy Advisory Panel จากหลากหลายประเทศ
“AI Governance Center (AIGC) ได้ร่วมมือกับองค์กรระดับโลก และพัฒนาเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ประเทศไทย ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้”
มาต่อกับหัวข้อที่น่าสนใจ “Harnessing AI: Transforming Workspaces for the Future” บนเวทีเสวนา Digital Transformation นำโดย ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์, Assistant Executive Director จาก ETDA, คุณกรกนก ยงสกุล, Founder จาก RBL Training, คุณประนัปดา จิราธิวัฒน์, Founder จาก Dragonfly 360, และพิธีกรผู้ดำเนินการเสวนา โดยคุณธีรยา ธีรนาคนาท, Co-founder & CEO จาก CareerVisa Digital
ดร.ตฤณ กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ใช้งานเทคโนโลยี AI มากกว่าผู้สร้างนวัตกรรมเอง ดังนั้น ETDA จึงมีเป้าหมายในการส่งเสริมด้านการใช้งาน AI ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกำหนดมาตรฐาน AI และการส่งเสริมธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการกำกับดูแลความเสี่ยง โดย ดร.ตฤณ ยังมีความเห็นว่า องค์กรต้องพัฒนาทักษะพนักงานให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้ด้วย
ETDA มีแผนที่จะสนับสนุนเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้เพิ่มพูนทักษะความรู้ด้าน AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ทันสมัย พร้อมทั้งแนะนำให้ช่วยเหลือกลุ่มคนที่เข้าถึงโอกาสได้น้อยก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเรียนรู้ พร้อมผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อให้สตาร์ตอัปและ SMEs สามารถเติบโตได้
โดย ดร.ตฤณ ยกตัวอย่าง ถึงการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรภาครัฐ ให้มีความทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ให้มาร่วมงานกับองค์กรเพิ่มขึ้นได้ ในส่วนของการพัฒนาทักษะทางด้าน Soft Skills วิทยากรทุกท่านได้เห็นตรงกันถึงความสำคัญของทักษะในด้านนี้ อาทิ
นอกจากการนำ AI มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการสร้างความสมดุลระหว่างกฎข้อบังคับ (Regulations) และนวัตกรรม (Innovation) พบกับหัวข้อ “Regulations VS Innovation: How to Balance Benefits in the Digital Future for All” บนเวที Main Stage ที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับการสร้างความสมดุลระหว่าง Regulation และการส่งเสริมนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ นำโดย ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์, Executive Director จาก ETDA, ดร.อธิป อัศวานันท์, Executive Manager จาก Digital Council of Thailand, Sopnendu Mohanty Chief FinTech Officer, Monetary Authority of Singapore & Chair of the Board of Directors จาก Elevandi, , และพิธีกรผู้ดำเนินการเสวนา โดย Yimie Yong, Reporter จาก TNGlobal
ดร.ชัยชนะ กล่าวว่า เป้าหมายหลักของ ETDA ในตอนนี้ คือการสร้างความสมดุลระหว่างกฎระเบียบและนวัตกรรม ผ่านการจัดตั้งศูนย์ AI Governance Center (AIGC) เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงและให้คำแนะนำกับผู้สร้างนวัตกรรม โดย ETDA ได้มีการทำ Digital Service Sandbox เพื่อเตรียมความพร้อมให้เจ้าของนวัตกรรม ได้มีพื้นที่ในการทดลองใช้นวัตกรรมของตนเองกับผู้ใช้งานจริง รวมถึงแนะนำให้มีการแบ่งปันความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยีผู้ใช้งาน ถือเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและภาคเอกชน ให้ทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น
“หัวใจสำคัญของ Regulation VS Innovation คือ นโยบายที่ชัดเจน”
การกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความสมดุลระหว่าง Regulation และนวัตกรรม ซึ่งในขณะนี้ ETDA มีเทคโนโลยีการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงมีการจัดทำข้อมูลที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ดร.ชัยชนะ มองว่าการกำหนดแผนงานให้เป็นแบบแผนเดียวกัน สำหรับการทำวิจัยและส่งเสริมนวัตกรรม จะช่วยให้สามารถจัดการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถส่งเสริมนวัตกรรมไปพร้อมกับการรักษาความสมดุลของ Regulation ได้
ดร.ชัยชนะ ให้ความเห็นว่า การออกแบบสภาพแวดล้อมให้เหมาะสำหรับประเทศไทย ในด้านการลงทุนและพัฒนา AI จะช่วยสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจประเทศไทย สำหรับผู้สร้างนวัตกรรมที่สนใจ สามารถเข้ามาปรึกษากับศูนย์ AI Governance Center (AIGC) เพื่อขอนำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาและนำ AI มาประยุกต์ในการใช้งาน รวมถึงสามารถจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ในด้านของ AI เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจของตนเองนั้น มีการใช้งานที่คำนึงถึงธรรมาภิบาล (AI Governance)
ถึงแม้ว่างาน Techsauce Global Summit 2024 จะจบลงแล้ว แต่ ETDA ยังคงมีเป้าหมายสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล สำหรับใครที่สนใจอยากขอคำปรึกษาด้านการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ติดต่อได้ที่ศูนย์ AI Governance Center ที่นี่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำแก่ผู้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งธุรกิจระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ เพื่อให้ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคตได้
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Fanpage Facebook : ETDA Thailand
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด