เปิดลิสต์ 5 อาชีพ FinTech ที่ Generative AI จะเข้ามาแทนที่เป็นกลุ่มแรก

Generative AI เป็นสิ่งที่คุ้นเคยในแวดวง FinTech มานานแล้ว ทว่า รายงานเดือนกรกฎาคม 2025 จากสถาบัน Brookings ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า AI กำลัง "เขียนนิยามใหม่ของงานในสายการเงิน" และสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของตำแหน่งงานแบบผสมผสาน (Hybrid Roles) ที่มนุษย์และเครื่องจักรต้องทำงานร่วมกัน

แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะกระทบทั้งอุตสาหกรรม แต่มี 5 ตำแหน่งที่อยู่ในจุดปะทะโดยตรงและกำลังจะถูกพลิกโฉมหรือแทนที่ก่อนใคร ได้แก่

1. นักวิเคราะห์การเงินระดับเริ่มต้น (The Entry-Level Financial Analyst)

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่เส้นทางสู่อาชีพใน Wall Street หรือฟินเทคเริ่มต้นจากการเป็นนักวิเคราะห์ระดับต้น ซึ่งเป็นบททดสอบที่ต้องใช้เวลานับไม่ถ้วนในการสร้างแบบจำลองทางการเงินและสรุปรายงาน แต่ Gen AI กำลังจะทำให้กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นอัตโนมัติ โมเดล AI ในปัจจุบันสามารถประมวลผลข้อมูลหลายเทราไบต์ สร้างแบบจำลองประเมินมูลค่ากระแสเงินสด (Discounted Cash Flow - DCF) และร่างบันทึกข้อเสนอการลงทุนเบื้องต้นได้ก่อนที่มนุษย์จะเปิดคอมพิวเตอร์เสียอีก วิวัฒนาการนี้สะท้อนสิ่งที่สถาบัน Brookings เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่ "งานแบบผสมผสาน" (Hybrid Jobs) ซึ่งความเชี่ยวชาญของมนุษย์จะถูกใช้เพื่อชี้นำและตรวจสอบการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนโดย AI แทนที่จะลงมือทำด้วยตนเอง บทบาทของนักวิเคราะห์ในอนาคตคือการตั้งคำถามกับ AI, ตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ และเพิ่มชั้นของการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์เข้าไป เป็นการเปลี่ยนจาก "ผู้รวบรวมข้อมูล" ไปสู่ "ผู้ตรวจสอบ AI"

2. เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า (The Customer Service Representative)

ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) เป็นเป้าหมายของการใช้ระบบอัตโนมัติมานานแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากแชทบอทที่ดูเงอะงะในอดีตอย่างสิ้นเชิง พวกมันสามารถเข้าใจความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในบทสนทนา ให้คำตอบที่เป็นส่วนตัว และทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก แนวโน้มนี้กำลังเกิดขึ้นแล้ว ดังที่ระบุไว้ในรายงานของ Brookings ฟินเทคสัญชาติสวีเดนอย่าง Klarna ปัจจุบันมีพนักงานส่วนใหญ่ที่ใช้ Gen AI ในการทำงานประจำวัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงบทบาทอย่างการสนับสนุนลูกค้าไปโดยพื้นฐาน เจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จัดการเคสที่ส่งต่อมา (Escalation Specialists) โดยจะรับผิดชอบเฉพาะกรณีที่ละเอียดอ่อนที่สุดซึ่งต้องการความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นทักษะที่ AI ยังไม่สามารถทำได้

3. นักวิเคราะห์การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (The Compliance Analyst)

อุตสาหกรรมการเงินผูกพันอยู่กับกฎระเบียบที่ซับซ้อนราวกับเขาวงกต เช่น การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering - AML) และการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer - KYC) ซึ่ง Generative AI มีความเป็นเลิศในการตรวจจับรูปแบบขนาดใหญ่ที่จำเป็นสำหรับงานด้านนี้ โดยสามารถตรวจสอบธุรกรรมนับล้านรายการได้แบบเรียลไทม์เพื่อแจ้งเตือนกิจกรรมที่น่าสงสัยด้วยความแม่นยำที่สูงกว่ามาก สิ่งนี้เปลี่ยนบทบาทของมนุษย์จาก "ผู้คัดกรองข้อมูล" ไปสู่ "ผู้ตรวจสอบระบบ AI" (AI Auditor) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของ Brookings ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการกำกับดูแลโดยมนุษย์ในระบบการจัดการความเสี่ยงที่เสริมด้วย AI งานของผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์จะพัฒนาไปสู่การออกแบบ, ฝึกฝน และตรวจสอบระบบ AI เหล่านี้

4. พนักงานป้อนข้อมูล (The Data Entry Clerk)

บางทีตำแหน่งที่เปราะบางที่สุดในทันทีคือพนักงานป้อนข้อมูล ในวงการฟินเทค งานนี้เกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลจากใบแจ้งหนี้, ใบสมัครสินเชื่อ และแบบฟอร์มลงทะเบียนลูกค้าเข้าสู่ระบบดิจิทัลด้วยตนเอง AI ขั้นสูงที่ติดตั้งเทคโนโลยีการรู้จำอักขระด้วยแสง (Optical Character Recognition - OCR) ที่ซับซ้อน สามารถดึงและป้อนข้อมูลนี้ด้วยความแม่นยำเกือบสมบูรณ์แบบได้ในแบบเรียลไทม์ กระบวนการที่ครั้งหนึ่งเคยต้องใช้ทีมงานหลายคนเป็นเวลาหลายชั่วโมง สามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ในเวลาไม่กี่นาที แทบไม่มีวิวัฒนาการสำหรับบทบาทนี้ นี่คือกรณีที่ชัดเจนของการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะปลดปล่อยทุนมนุษย์ไปทำงานที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์แทน

5. นักการตลาดคอนเทนต์ (The Content Marketer)

บริษัทฟินเทคต้องอาศัยการสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดลูกค้า ปัจจุบัน Generative AI สามารถผลิตบทความคุณภาพสูงที่เหมาะกับ SEO, ข้อความสำหรับโซเชียลมีเดีย และข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับตลาดได้ตามความต้องการ แม้ว่ามันอาจจะขาดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง แต่ก็สามารถจัดการกับการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นกิจวัตรส่วนใหญ่ได้ สิ่งนี้ผลักดันให้นักการตลาดที่เป็นมนุษย์ต้องขยับขึ้นไปในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) บังคับให้พวกเขากลายเป็นนักกลยุทธ์ที่จัดการ AI ในฐานะเครื่องมือ ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกำลังคนที่ระบุไว้ในรายงานของ Brookings อนาคตของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่การเขียนทุกคำ แต่อยู่ที่การสร้างสรรค์แคมเปญและกำหนดเสียงของแบรนด์ (Brand Voice) ซึ่ง AI จะนำไปขยายผลต่อไป

ยุคแห่ง "Hybrid Worker" มาถึงแล้ว

นี่คือยุคของ "พนักงานแบบผสมผสาน" การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่สัญญาณของการตกงาน แต่คือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็นครั้งใหญ่ ผู้ที่จะอยู่รอดและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอนาคต คือผู้ที่เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับ AI และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพเฉพาะตัวของมนุษย์ในด้านกลยุทธ์, ความคิดสร้างสรรค์, และการตัดสินใจเชิงวิพากษ์

ที่มา: Forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...

Responsive image

KBank x Orbix Technology x StraitsX เปิดตัวโครงการ ‘Seamless Travel Payments on Chain’ โชว์นวัตกรรมภายใต้ BLOOM ที่งาน Singapore FinTech Festival 2025

ปิดฉากไปแล้วสำหรับงาน Singapore Fintech Festival (SFF) 2025 หนึ่งในเวทีฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปีนี้ ธนาคารกสิกรไทย (KBank), Orbix Technology และ StraitsX ได้สร้างความน่าสนใจอ...