สรุปผลวิจัย 6 ประเด็นที่ AI จะเป็น Game Changer ช่วยแก้ปัญหาและสร้างความยั่งยืนโลกอนาคต

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และกระทรวงการต่างประเทศเปิดเวที Global Business Dialogue 2018 รับฟังแนวคิดพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม สังคม และธุรกิจจากนักวิชาการและผู้ประกอบการระดับโลก พร้อมเผยผลวิจัยว่า AI จะเป็น Game Changer รองรับการเติบโตสำหรับทุกภาคส่วน

เวที Global Business Dialogue 2018 โดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และกระทรวงการต่างประเทศ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ รวมหัวกะทินักวิชาการ และผู้ประกอบการระดับโลก ร่วมเผยแนวคิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม และธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเผยผลวิจัยว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญ และจะเป็น Game Changer โดยเฉพาะด้าน Smart City, Smart Agriculture และ Decentralize ระบบการจัดการต่างๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

คุณธรรมศักดิ์ จิตติมาพร รองประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) กล่าวว่า งาน Global Business Dialogue 2018 จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งปีนี้อยู่ภายใต้หัวข้อ Innovating the Sustainable Future เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามามีส่วนร่วมสร้างสรรค์โลกให้ยั่งยืน และก้าวสู่ Sustainable Development Goals (SDGs)

ทั้งนี้เทคโนโลยีปัญหาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) กำลังถูกจับตาในฐานะ Game Changer ที่จะเข้ามาสร้างความยั่งยืนต่อโลกอนาคต จากงานวิจัยล่าสุดที่นำเสนอโดย PricewaterhouseCoopers (PwC) หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีสี่แห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันเกิดจากการร่วมกันจัดทำระหว่าง PwC ประเทศอังกฤษ และ PwC ประเทศสหรัฐอเมริกา ในหัวข้อ AI for Sustainability ฉายภาพให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทในการเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับเอกชน ชุมชนเมือง ประเทศ และต่อโลกมากขึ้นเป็นลำดับ

คุณกุลวัลย์ สุพรสุนทร ผู้จัดการด้าน Sustainability และ Climate Change บริษัท ไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส เอฟเอเอส จำกัด

คุณกุลวัลย์ สุพรสุนทร ผู้จัดการด้าน Sustainability และ Climate Change บริษัท ไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส เอฟเอเอส จำกัด (pwc) กล่าวรายงานถึงผลวิจัยดังกล่าวว่า สามารถนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะ AI เข้ามาแก้ปัญหาเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลกเราในอนาคต

“โลกใบนี้อยู่มานานเป็นล้านล้านปี แต่นับจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกเกิดขึ้นจนกระทั่งมาถึงปัจจุบันเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เพียงในระยะเวลาไม่กี่ศตวรรษ ได้ทำให้สิ่งที่มีอยู่เป็นล้านล้านปีถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว และเป็นต้นตอของปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อมมากมาย ซึ่ง AI กำลังจะเข้ามาเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs ในหลายๆ เรื่อง”

ในผลการวิจัยดังกล่าวได้แตกประเด็นปัญหาของโลกที่สามารถนำ AI เข้ามาแก้ปัญหาออกเป็น 6 ข้อด้วยกัน

  • Climate Change หลายปีที่ผ่านมาเกิดปัญหามากขึ้นอย่างมีนัย หลายประเทศจึงมีการนำ AI เข้ามาทำ Smart Transportation เช่น ประเทศนอร์เวย์กำลังผลักดันให้มีการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการนำ AI มาคาดการณ์ระบบพลังงานว่ามีปริมาณการใช้เท่าใด หรือ Google ใช้ระบบ GPS เข้ามาวิเคราะห์ความหนาแน่นทางจราจร เพื่อแนะนำเส้นทางที่ช่วยลดระยะเวลาเดินทาง รวมถึงการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนที่จะตก เพื่อภาครัฐจะได้เตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที
  • Biodiversity and Conservation จากการวิจัยหลายแห่งพบว่าพืชพันธุ์และสัตว์บางประเภทสูญพันธุ์ไปจากโลกมากมายในรอบไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา AI จะถูกนำมามอนิเตอร์ผลกระทบที่เกิดจาก Climate Change อาทิ ภัยแล้ง และไฟป่า เพื่อป้องกันการสูญพันธ์ในอนาคต
  • Healthy Oceans จำนวนถึงพลาสติกที่ถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ และทะเล ทำให้สัตว์ทะเลต้องทนทุกข์ทรมาน และตายจากการกินพลาสติกเข้าไป ประกอบกับโลกร้อนส่งผลให้สารเคมีในทะเลเปลี่ยนไป เกิดความไม่สมดุลทางธรรมชาติ ที่ผ่านมา NASA ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมมาช่วยในการพยากรณ์แพลงตอน หรือชีววิทยาทางทะเลว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และยังใช้ AI ในการมอนิเตอร์ในลักษณะ Global Fishing Watch ว่าจุดไหนมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทำประมงแบบไม่ยั่งยืน เพื่อช่วยแก้ปัญหาการประมงเกินกว่ากำลังทะเลจะทดแทนได้ (Over Fishing)
  • Water Security ที่ผ่านมาเกิดความไม่สมดุลของน้ำในพื้นที่ต่างๆ บางแห่งเกิดอุทกภัย บางแห่งเกิดภัยแล้ง ดังนั้น AI จะเป็นตัวช่วยพยากรณ์การไหลของน้ำ (Water Flow) วิเคราะห์ปริมาณน้ำจืดในแหล่งที่ต้องใช้ในการผลิตน้ำ หรือแม้แต่การสร้างโซลูชั่นให้กับอุตสาหกรรมผลิตน้ำประปา ในการวิเคราะห์ว่าควรจะปล่อยน้ำขนาดไหน อย่างไรให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
  • Clean Air เมืองใหญ่กำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ ที่ผ่านมามีการจับมือกันระหว่าง ไอบีเอ็ม ไมโครซอฟท์และแอร์วิชวล ในกรุงปักกิ่ง ด้วยการนำ AI มาทำ Early Warning ฝุ่นละอองในอากาศ ผ่านแอพพลิเคชั่นวัดคุณภาพของอากาศ รวมถึงวิเคราะห์สาเหตุข้อมูลมลพิษในอากาศที่สูงขึ้น หรือลดลงว่ามีสาเหตุมาจากอะไร
  • Water and Disaster Resilience จากการวิจัยพบว่าโลกเรามีความถี่ในการเกิดภัยพิบัติภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่ผ่านมา ในอินโดนีเซียเริ่มมีการนำ AI ผ่านระบบเปิด (Open Source) เพื่อพยากรณ์ความเป็นไป หรือโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างในภาคการเกษตร ที่ใช้ AI พยากรณ์อากาศ หากฝนตกก็ไม่ต้องรดน้ำ เพื่อลดต้นทุน และทรัพยากร

สำหรับในมุมของเมืองขนาดใหญ่ อย่างกรุงเทพมหานคร ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า AI สามารถนำมาใช้ในการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาเมืองใหญ่ของกรุงเทพมหานครในหลายๆ ด้าน เพื่อให้เป็น Smart Sustainable City อาทิ ปัญหาการจราจร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาด้านการจัดการพลังงาน และปัญหามลพิษทางอากาศ และขยะ เป็นต้น

ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

อย่างไรก็ดี คุณกุลวัลย์ กล่าวว่า ภายในปี ค.ศ. 2020-2030 ทุกคนจะภาพที่ชัดเห็นขึ้นว่า AI จะกลายเป็น Game Changer โดยเฉพาะในภาคของการสร้าง Smart City, Smart Agriculture และ Decentralize ระบบการจัดการต่างๆ  เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการอย่างมีเอกเทศ และแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น

“ปีที่ผ่านมา PwC ยังได้ทำการสอบถามผู้บริหารทั่วโลกพบว่า 54% ยอมรับว่าได้มีการตัดสินใจลงทุนพัฒนาด้าน AI มากขึ้นกว่าปี 2016 นั่นหมายความว่า ภาคธุรกิจเริ่มมอง AI เป็นโอกาสทางธุรกิจในการสร้างคุณค่าให้กับองค์กร และทำให้เกิดผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม”

แต่ในเวลาเดียวกัน AI ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเชิงสังคม ที่อาจจะก่อให้เกิดความแตกแยก คนตกงาน ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องสื่อสาร และมีแผนรองรับที่ดี รวมถึงด้านจริยธรรม ที่มีหลายคนนำเสนอว่าควรฝังจุดตัดทางจริยธรรมเข้าไปใน AI และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งควรเพิ่มความเข้มข้นให้มากขึ้น และต้องทำให้เกิดความโปร่งใส  พร้อมตรียมแผนสำหรับการแก้ปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ขึ้น

เพราะการใช้เทคโนโลยีที่ดี นอกจากจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังต้องช่วยลดความเหลื่อมล้ำและก่อให้เกิดความยั่งยืนในสังคมอย่างแท้จริง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Gartner ชี้สัญญาณอันตราย 5 จุดบอดของ GenAI ที่ผู้บริหารไอทีต้องเร่งจัดการก่อนจะสาย

Gartner เตือน CIO ถึง 5 จุดบอดสำคัญในการใช้ GenAI ทั้ง Shadow AI, หนี้ทางเทคนิค และทักษะคนที่ถดถอย พร้อมทำนายปี 2030 คือจุดชี้ชะตาธุรกิจ...

Responsive image

สรุป Insight จาก ‘Turn ThAI to Tech Tide’ ชี้ไทยผลิต AI Talent ได้ไม่ถึง 500 คนต่อปี ถอดรหัส 4 กลยุทธ์จาก ดร.เอ้ และ ดร.อ้อ กู้วิกฤต Talent พลิกอนาคต AI ไทย

เจาะลึกกลยุทธ์กู้วิกฤตระบบเทคไทยจากการศึกษาจนถึงนโยบายรัฐ จากเวที AI Innovation Summit 2025 แก้ปัญหาไทยโตช้าในสนาม Data Economy ระดับโลก...

Responsive image

ปรากฏการณ์ Tech Squad เมื่อตัวจริงวงการสตาร์ทอัพกระโดดสู่สนามเลือกตั้ง 69

วิเคราะห์เจาะลึกปรากฏการณ์ Tech Squad พรรคประชาชน แม็กซ์ StockRadars, ป้อม ภาวุธ, มาร์ค Blognone กับภารกิจเปลี่ยนภาครัฐด้วย Data และ Tech ในสนามเลือกตั้ง 69...