‘Horrus’ โดรน AI ฝีมือคนไทย ที่นำ 5G มาร่วมสร้างบริการพร้อมใช้ในภาคอุตสาหกรรม | Techsauce

‘Horrus’ โดรน AI ฝีมือคนไทย ที่นำ 5G มาร่วมสร้างบริการพร้อมใช้ในภาคอุตสาหกรรม

หลังจากได้เห็น โดรน (Drone หรือ UAV) ที่ใช้เทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทำงานบนเครือข่าย 5G ที่ชื่อ Horrus (ฮอรัส) บินสำรวจและแสดงผลแบบเรียลไทม์ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ ก็ต้องชื่นชมความสามารถของวิศวกร นักพัฒนาชาวไทย และการผนึกกำลังสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ของ 3 ภาคส่วน ได้แก่ ARV (AI & ROBOTICS VENTURES) บริษัทในเครือของ ปตท.สผ. ผู้พัฒนา Horrus, AIS โอเปอเรเตอร์รายแรกที่ขยายโครงข่าย 5G ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย และ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) วังจันทร์วัลเลย์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง พื้นที่สำคัญของประเทศไทยที่รองรับการวิจัยพัฒนา ทดลอง/ทดสอบนวัตกรรมสู่การขยายผลในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

โดรน AI

7 เรื่องเบื้องต้นเกี่ยวกับโดรน Horrus

เพื่อให้เข้าใจตรงกัน อยากให้ผู้อ่านมอง โดรน (Drone) หรือ อากาศยานไร้คนขับ (UAV: Unmanned Aerial Vehicle) ว่าเป็นฮาร์ดแวร์ที่ควบคุมการทำงานได้ด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งทำงานได้อย่างชาญฉลาดเพราะผนวกเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้าไป กลายเป็นหุ่นยนต์ติดปีกอัจฉริยะที่ออกสำรวจ เก็บข้อมูล ติดตาม วิเคราะห์ ประมวลผล และแสดงข้อมูลบนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ

ส่วนการพัฒนาและความสามารถของโดรนอัจฉริยะตัวนี้ นี่คือข้อมูลเบื้องต้น 7 ข้อ ที่ควรรู้ก่อน มีดังนี้

โดรน AI Horrus

  1. Horrus ชื่อนี้มาจากชื่อเทพอียิปต์ที่มีหัวเป็นเหยี่ยว ฮอรัส จึงหมายถึง เหยี่ยวนั่นเอง
  2. Horrus หนักประมาณ 5 กิโลกรัม เคยทดสอบการบินในวังจันทร์วัลเลย์ที่ความสูงราว 300-400 เมตร (กฎหมายระบุให้โดรนบินได้สูงไม่เกิน 90 เมตร)
  3. กล่องเก็บโดรน (Drone in a box-solution) เรียกว่า Horrus Station ซึ่งเป็นทั้งกล่องเก็บโดรน และ Launchpad คือ ฐานขึ้นบิน ฐานลงจอด และแท่นชาร์จแบตของ Horrus 
  4. Horrus ใช้เวลาชาร์จแบตใน Launchpad ประมาณ 1 ชั่วโมง และสามารถใช้งานได้นานครึ่งชั่วโมง 
  5. ทั้ง Horrus และ Launchpad ผลิตโดยบริษัท ARV (AI and Robotics Venture) ชมรมหุ่นยนต์ที่ Spin off ออกมาเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ ปตท.สผ. 
  6. การพัฒนาโดรนเพื่อใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรมครั้งนี้ AIS ร่วมพัฒนาโซลูชันโดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม ARV ภายใต้ ปตท.สผ. ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 จนสามารถยกระดับการทำงานของโดรนสู่ AI Autonomous Drone System ที่ทำงานบนเครือข่าย 5G ซึ่งก็คือ Horrus ในเวอร์ชันปัจจุบัน (หากต้องการดูภาพโดรนเวอร์ชันแรกคลิก ที่นี่) 
  7. โดยปกติการใช้งานโดรนในพื้นที่ใดๆ ก็ตาม ต้องได้รับการอนุญาตก่อน ซึ่งพื้นที่ EECi ในวังจันทร์วัลเลย์ ได้เป็น Regulatory & Innovation Sandbox หรือ พื้นที่ผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับการพัฒนานวัตกรรมทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านอากาศยานไร้คนขับ ด้านยานยนต์อัตโนมัติ ด้านนวัตกรรมพลังงาน และด้านคลื่นความถี่พิเศษ  ส่งผลให้การทดลอง/ทดสอบพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ (UAV Sandbox) ในพื้นที่แห่งนี้มีข้อจำกัดน้อยกว่าพื้นที่อื่น

โดรน AI ที่ทำงานบนโครงข่ายไร้สาย 5G ดีอย่างไร

โดรน 5G AI Autonomous Drone Systemทีม ARV พัฒนา Horrus ให้ใส่ซิม 5G ได้ ข้อดีคือ ทำให้โดรนมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G ในตัว จึงสามารถรับส่งข้อมูลผ่านโครงข่ายไร้สายอัจฉริยะได้อย่างรวดเร็วและเรียลไทม์

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานในด้านโครงข่ายอัจฉริยะ ทาง AIS ออกแบบและลงทุนติดตั้งสถาปัตยกรรมโครงข่าย 5G SA (Standalone) บนคลื่น 2600 MHz ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และ EEC ซึ่งรวมถึง EECi หรือวังจันทร์วัลเลย์ และหลังจากนำ 5G กับแพลตฟอร์มมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในวังจันทร์วัลเลย์แล้ว ก็มีการนำ 5G มาใช้งานผ่านเทคโนโลยี ‘Autonomous Network’ ซึ่งเป็นระบบดูแลเครือข่ายอัตโนมัติ ช่วยในการปรับแต่งความสามารถของเน็ตเวิร์กให้เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับโดรนได้ เป็นผลให้โดรนสามารถบินได้อย่างอัตโนมัติตามเวลากับเส้นทางการบินที่กำหนด พร้อมรับ-ส่งภาพ เสียง หรือวิดีโอ กลับมายังศูนย์ควบคุมในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ได้แบบเรียลไทม์ 

อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับศักยภาพของ 5G SA (Standalone) - AIS ติดตั้งเสาสัญญาณ 5G SA และใช้สัญญาณจากเสานี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงการส่งสัญญาณผ่านเสา 4G ที่มีอยู่เดิม ส่งผลให้การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเทคโนโลยีไร้สาย 5G โดยตรงนั้น ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ติดสปีดกว่า 4G มาก และความหน่วงก็ต่ำกว่าการใช้งานบนเครือข่าย 4G มากๆ (Ultra Low Latancy) 

5G SA ยังสามารถนำมาทำ ‘Network Slicing’ กับแอปพลิเคชันที่ต้องการคุณสมบัติทางเครือข่ายต่างกันได้ จึงช่วยเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล ลดความหน่วงในการสั่งการควบคุมโดรน อีกทั้งยังรองรับการควบคุมระยะไกลที่เสถียรกว่าและครอบคลุมระยะทางการใช้งานได้มากกว่าการใช้สัญญาณวิทยุและ Wifi 

หากยังไม่เข้าใจคำว่า ‘Network Slicing’ ให้มองเทคโนโลยี 5G เป็นเครปเค้กที่มีหลายชั้นและสามารถแยกชั้นออกมาใช้ประโยชน์ที่ต่างกันได้ เช่น ชั้น A ที่มีแบนด์วิตช์สูง อัปโหลด-ดาวน์โหลดเร็ว จึงมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการติดต่อสื่อสารผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ชั้น B มีความหน่วงต่ำ คุณสมบัตินี้เหมาะที่จะใช้เทคโนโลยี AR VR ส่วนชั้น C, D อาจเหมาะที่จะใช้กับโดรนอัจฉริยะ หรืออุปกรณ์ IoT ในโรงงานอัจฉริยะ เพราะต้องการสปีดอินเทอร์เน็ตที่ไม่ต้องเร็วมากแต่ต้องเสถียรมาก และมีความหน่วงต่ำ

AIS 5G

5G ยังสามารถให้บริการแบบ ‘Private Network’ คือ บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5G ที่มีให้ใช้แบบส่วนตัวหรือจำกัดขอบเขตการใช้งานเฉพาะพื้นที่ เช่น การใช้ 5G Private Network ในเขตโรงงานเท่านั้น ซึ่งช่วยยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อีกทางหนึ่ง

AIS ยังพัฒนา 5G ให้ใช้งาน ‘MEC (Multi-access EDGE Computing)’ หรือ ระบบประมวลผลที่อยู่ใกล้กับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้งาน 5G สามารถเข้าถึงข้อมูลบนคลาวด์ได้หลากหลายทางและรวดเร็ว ทั้งยังมี 'PARAGON Platform' อีกหนึ่งบริการที่เข้ามารองรับการบริหารจัดการและพัฒนาโซลูชันที่ต้องการความหน่วงต่ำ พร้อมกับมาร์เก็ตเพลสที่รวมแอปพลิเคชันมาให้เลือกใช้ไว้ในที่เดียว 

ด้วยศักยภาพของ 5G ที่นำมาย่อยให้เข้าใจง่ายในบทความนี้ ทำให้เห็นว่าผนึกกำลังในการพัฒนา โซลูชันหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม อย่างต่อเนื่องของ AIS กับกลุ่ม ปตท. ในรูปแบบของ Strategic Partner ทำให้เกิดโดรนตัวเก่งที่มี AI ทำงานบนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G หรือเรียกว่า 5G AI Autonomous Drone System เป็นครั้งแรกของประเทศ

อนาคตของโดรนฝีมือคนไทยและโอกาสในวังจันทร์วัลเลย์

5G AI Autonomous Drone System ARV AIS

จุดยืนร่วมกันของ AIS ในฐานะองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co และ ARV ในฐานะบริษัทลูกที่ ปตท.สผ. หมายมั่นปั้นมือในการพัฒนา Deep Tech เพื่อสร้างธุรกิจและแหล่งรายได้ใหม่ คือ ต้องการให้บริการเชิงพาณิชย์แก่องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรมที่สนใจหรือต้องการทำ Digital Transformation โดยทางบริษัท ARV จะเป็นผู้ผลิตโดรนและพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะร่วมกับ AIS เพื่อจำหน่ายหรือให้เช่าใช้งานภายในพื้นที่ EECi ก่อน เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่รองรับการใช้งานในระดับอุตสาหกรรมแล้ว พร้อมทั้งการผ่อนปรนกฎระเบียบต่างๆ ทั้งนี้ หากต้องการนำไปใช้งานในพื้นที่อื่นๆ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน แต่จำเป็นต้องดำเนินการในเรื่องการขออนุญาตตามกฎระเบียบต่างๆ ในปัจจุบัน

และจากการไปเยือน ศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปตท.สผ. หรือ PTIC (PTTEP Technology and Innovation Center) ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ ทีมเทคซอสเห็นศักยภาพของ Horrus ที่สั่งการให้ขึ้นบินและลงจอดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทั้งยังควบคุมการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกผ่านทางอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน นอกเหนือจากนี้ การได้พูดคุยกับทีมวิศวกรทำให้รู้ว่า ในกรณีที่มีการใช้โดรนบินเหนือน่านฟ้าในพื้นที่ EECi มากกว่า 1 ตัว ผู้ใช้งานก็สามารถควบคุมการจราจรและจัดเส้นทางการบินไม่ให้ชนกันได้ผ่านแพลตฟอร์มอัจฉริยะหรือโซลูชันที่คัสตอมมาเพื่อใช้กับงานบางอย่างโดยตรง

5G AI Autonomous Drone System

การพัฒนาโดรน Horrus จึงเป็นหนึ่งใน Use Case ที่ประสบความสำเร็จ และนับว่า เป็นการพลิกโฉมการทำงานของโดรนที่จะเข้ามามีบทบาทต่อภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องตอกย้ำอีกครั้งว่า เป็นการพัฒนานวัตกรรมในพื้นที่ซึ่งมีความพร้อมสำหรับการใช้งานและมีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 5G โดยมีวังจันทร์วัลเลย์เป็น 5G Testbed หรือ พื้นที่สำหรับทดสอบทดลองที่เปิดกว้างให้องค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยในการพัฒนาโซลูชันแห่งอนาคตสู่การใช้งานจริง

ในขณะที่องค์กรและอุตสาหกรรมต่างๆ เทคโนโลยีดิจิทัลดิสรัปต์ อีกมิติที่ต้องกล่าวถึงคือ การใช้ 5G กับเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และ IIoT (Industrial Internet of Things) โดย 5G เข้ามาทำให้อุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เชื่อมต่อและทำงานร่วมกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งในด้าน IIoT คือการใช้เครือข่าย 5G เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อและผสานการทำงานของเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรม กับระบบ IT ทำให้การรับและส่งข้อมูลทำได้เร็วแม้จะอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลกัน เมื่อบริหารจัดการสะดวก ก็จะช่วยให้ผู้ใช้งานมีข้อมูลในการตัดสินใจหรือใช้แก้ปัญหาได้ดีและเร็วขึ้นอีกด้วย 

วังจันทร์วัลเลย์

ดังนั้น โซลูชันที่ช่วยพัฒนาโรงงานให้เป็น โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ได้ เช่น โดรน ก็จะกระตุ้นตลาดให้มีความต้องการใช้งานโดรนเพิ่มขึ้นได้หลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจและเก็บข้อมูลในพื้นที่ การตรวจสอบความผิดปกติเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่โรงงาน การตรวจหายานพาหนะหรือบุคคลภายนอก การลดความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงหรือมีข้อจำกัด ฯลฯ

แต่หากผู้อ่านยังไม่เห็นภาพ นี่คือตัวอย่างธุรกิจที่มีการพัฒนาโดรนขึ้นมาแก้ pain point ซึ่งมีการใช้งานจริงในปัจจุบัน อาทิ

  • การใช้โดรนสำรวจและตรวจสอบความผิดปกติใน โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ ของเอสซีจี - เมื่อไรที่โดรนพบว่าแผงโซลาร์ชิ้นใดมีอุณหภูมิสูงผิดปกติก็จะส่งสัญญาณเตือนอัตโนมัติด้วยระบบ Smart Grid 

  • การพัฒนาและใช้งานโดรนที่มีรูปแบบและฟังก์ชันต่างกันไปในธุรกิจของกลุ่ม ปตท. เช่น ใช้ตรวจสอบการทำงานในพื้นที่โรงงาน หรือในพื้นที่สำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติ และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ยกตัวอย่าง Horrus โดรนที่ใช้บินสำรวจพื้นที่, Laika โดรนที่ใช้ในการค้นหาและให้ความช่วยเหลือ

  • การใช้โดรนสำรวจความสมบูรณ์และความผิดปกติที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ของ เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี ผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมและสร้างนวัตกรรมสำหรับตรวจสอบโครงสร้างและสิ่งก่อสร้างต่างๆ 

Source : www.dexon-technology.com

ทั้งหมดนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ AIS กับกลุ่ม ปตท. จะใช้จุดแข็งเรื่อง ‘ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City’ ของพื้นที่เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์ ในการร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมโดรนแห่งอนาคต ปูทางสู่การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ซึ่งสอดคล้องกับการสร้าง New S-Curve หรือ อุตสาหกรรมสมัยใหม่ เป้าหมายใหญ่ของการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกแห่งนี้ 

บทความนี้เป็น Advertorial ผู้สนใจเกี่ยวกับโดรน Horrus สามารถดูข้อมูลได้ที่ ARV Facebook: https://www.facebook.com/arv.th หรือ Horrus Landing Page: https://arv.co.th/horrus

นอกจากนี้ หากต้องการติดตามข้อมูลการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันบน 5G สามารถดูได้ที่ https://business.ais.co.th/5g หรือหากสนใจในโครงการวังจันทร์วัลเลย์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.wangchanvalley.com 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึก Semiconductor ทำไมทุกประเทศต้องแย่งชิง?

ในบทความนี้ Techsauce จะพาไปสำรวจ Semiconductor เทคโนโลยีที่อยู่ทุกที่ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนถึง AI ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญหรือผลกระทบต่อโลกอย่างไร ไปทำความรู้จักกัน!...

Responsive image

อินเดียทะยานสู่ $25 ล้านล้าน กับเส้นทางเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ขับเคลื่อนด้วย Digital Supercycle

การเดินทางของอินเดียในฐานะเศรษฐกิจเกิดใหม่ กำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จากเป้าหมายเศรษฐกิจมูลค่า 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สู่วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการบรรลุ 25 ล้านล้า...

Responsive image

ควอมตัมคอมพิวติ้งกับการปฏิวัติการเงิน โอกาสทอง หรือหายนะ ? ส่องแนวคิดจาก HSBC, Visa และผู้เชี่ยวชาญ

เทคโนโลยีควอนตัม (Quantum Computing) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะในตอนนี้ควอนคัมกำลังมีบทบาทสำคัญในทุกวงการแม้กระทั่งวงการเงินที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ผ่านงาน Singapore Fintech F...