[Exclusive] สัมภาษณ์ผู้บริหาร "MFEC" เรื่องการปรับ Business Model ของ SI ในยุคที่ Cloud ครองโลก | Techsauce

[Exclusive] สัมภาษณ์ผู้บริหาร "MFEC" เรื่องการปรับ Business Model ของ SI ในยุคที่ Cloud ครองโลก

"พวกผมไปดูงานของ Amazon Web Services และงานด้าน Cloud ต่างๆ ผมรู้เลยว่านี่เป็นยุคของ Cloud ...แล้ว System Integrator อย่างผมจะปรับตัวอย่างไร"

บทสัมภาษณ์นี้จะมาคุยกันเรื่องการปรับตัวของบริษัทสายเทคโนโลยี ที่ต้องมีการปรับตัวเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์เทคโนโลยียุคใหม่ ที่มีผลกระทบต่อบริการเดิมที่บริษัททำอยู่

System Integrator หรือเรียกย่อๆ ว่า SI หมายถึงบริษัทผู้ทำหน้าที่ส่งมอบโซลูชันส์ตามที่ลูกค้าองค์กรต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ บริการด้านระบบเครือข่าย บริการซ่อมบำรุง เรียกได้ว่าเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทางด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับองค์กรต่างๆ

ผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณธนกร ชาลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) ของ MFEC Public Company Limited ซึ่งเป็นบริษัท System Integrator รายใหญ่ของไทย

thanakon chalee MFEC

คุณธนกร ชาลี COO ของ MFEC

Cloud มีผลกระทบต่อ System Integrator อย่างไรบ้าง

"พอได้เข้ามาศึกษา Cloud ผมก็เห็นเลยว่ามีผลกระทบต่อ System Integrator แน่นอน ผมกางรูป OSI Model ออกดูอีกครั้งแล้วพบว่า Cloud กำลังจะมาแทนที่ Layers ต่างๆ มากถึง 6 Layers ตั้งแต่ Layer 1 ไปจนถึง Layer 6 เลย"

สำหรับคุณผู้อ่าน: OSI Model เป็นชื่อของโมเดลที่เป็นภาพแสดงถึงประเภทของการให้บริการทางเทคโนโลยีสารสนเทศโดยแบ่งเป็นลำดับขั้นค่ะ คำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นคำที่กว้างใหญ่มาก แต่ OSI กำลังฉายภาพให้เห็นว่ามันแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภท หรือ 7 Layers ใหญ่ๆ ดังภาพ

 

osi model

ภาพจาก networksmania.com

บทความนี้อาจจะยังไม่ขอลงรายละเอียดถึง OSI Model แต่เรื่องที่น่ารู้ก็คือ IT Infrastructure ในระดับขั้นต่างๆ แต่ก่อนนี้ลูกค้าต้องพึ่งพิง System Integrator ให้เข้ามาช่วยวางระบบในองค์กร แต่เดี๋ยวนี้แทบทุกอย่างมีให้บริการบน Cloud หมดแล้ว สังเกตดีๆ ว่าเป็น "บริการ" หมายความว่า ลูกค้าไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ IT ต่างๆ มาใช้เอง แต่อุปกรณ์เหล่านั้นมีผู้ให้บริการลงทุนซื้อ/ติดตั้ง และนำมาให้ลูกค้าใช้ในรูปแบบบริการ ไม่ว่าจะเป็น Server, Storage, Network, ระบบ Security ต่างๆ รวมไปถึง Database และกระบวนการทาง IT ต่างๆ เช่น ระบบรัน Batch Processing, Content Delivery Network, Developer Tools ไปจนถึง Data Analytic และแม้กระทั่งระบบ Artificial Intelligence ก็ยังมีให้บริการบน Cloud

คุณธนกรเสริมต่อว่า “เรียกได้ว่า ในยุคต่อไปไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่กับระบบ IT อีกแล้ว ทุกอย่างมีให้บริการบน Cloud โดยจ่ายเพียงเล็กน้อยไปตามระยะเวลาและปริมาณการใช้งาน มีเหลือสิ่งเดียวที่ยังเปิดช่องให้บริษัท IT ยังทำได้คือ Application Software เพราะ Application เป็นเรื่องของจินตนาการทางธุรกิจที่มีไม่จำกัด และถ้าไม่ใช่ Application พื้นฐานที่คนหมู่มากใช้เหมือนๆ กันได้ (เช่น E-mail, ERP, Accounting software) ก็ยังต้องอาศัยนักพัฒนาโปรแกรมในการสร้างสรรค์ผลงานออกมาอยู่ดี

ดังจะเห็นได้ว่า ธุรกิจ Software Startup ในปัจจุบันทุกคนจะมุ่งไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์โดยไม่มีใครยุ่งยากและลงทุน เยอะๆ ไปกับระบบพื้นฐานเช่น Server/Database อีกต่อไป แทบทุกรายจะใช้ระบบ Cloud เป็นพื้นฐาน และมุ่งไปที่เรื่องของการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเดียว"

การปรับตัวของ MFEC

เมื่อเป็นเช่นนี้ System Integrator อย่างทาง MFEC มีการปรับตัวอย่างไรบ้าง คุณธนกรได้เล่าให้ผู้เขียนฟังถึงการปรับตัวต่างๆ ดังนี้

พัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud

แม้จะสูญเสียโอกาสในการนำเสนอโซลูชันส์ของตนเองหรือพาร์ทเนอร์ เพราะมี Cloud เข้ามาเป็นโซลูชันส์ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามองค์กรในประเทศไทยก็ยังขาดแคลนความรู้ความเชี่ยวชาญ Cloud Platform อยู่ ดังนั้นจึงยังมีพื้นที่โอกาสอีกมากสำหรับ MFEC ในการนำเสนอความเชี่ยวชาญในด้าน Cloud ให้แก่ลูกค้า

สำหรับลูกค้าที่มีระบบเดิมอยู่แล้ว ก็จะมีบริการ Migrate ย้ายของเดิมขึ้นมาไว้บน Cloud ให้ บริษัทส่วนใหญ่ทำเองไม่ได้เพราะยุ่งยาก ไหนจะ Application, Database, Middleware และที่สำคัญ การย้ายไปสู่ Cloud ไม่ได้มีต้นทุนระยะยาวต่ำกว่าเดิมแต่อย่างใด ต้องมีการ Optimize, Re-design อย่างฉลาดให้ใช้บริการบน Cloud ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

MFEC กับการเป็น Venture Builder

จากที่ปกติ System Integrator จะเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างให้กับลูกค้า มาวันนี้บริษัทจะมุ่งพัฒนาโปรดักส์ต่างๆ ของตัวเองด้วย โดยคำว่า Venture Builder ที่ผู้เขียนเขียนขึ้น หมายถึง บริษัทที่มุ่งสร้าง New Venture หรือธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นมา ด้วยทรัพยากรภายในบริษัทเดิมของตนเอง

คุณธนกรได้เล่าว่า "เมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้เอง เราได้จัดงาน Hackathon ขึ้นภายในบริษัท โจทย์คือพัฒนาโซลูชันส์ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับแผนก HR จนได้ออกมาเป็นโปรแกรม Facebook Chatbot ที่จะช่วยฝ่าย HR ให้เขาตอบคำถามคนที่สนใจสมัครงานได้อย่างสะดวก

และก่อนหน้านี้เรามีจัดกิจกรรมซึ่งเรียกว่า Box Breaking เป็นกิจกรรมการประกวดไอเดียธุรกิจ ผลงานที่ได้จากครั้งนั้นคือ Crowd Testing เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ Developers สามารถทดสอบแอปพลิเคชันได้บนหลากหลายอุปกรณ์รวมถึงอุปกรณ์ที่หาได้ยากตามท้องตลาด โดยอาศัยให้ประชาชนหรือใครก็ตามสามารถลงทะเบียน Device ที่ตนมีและสมัครเข้ามาเป็น Tester (ผู้ทดสอบโปรแกรม) ได้ กิจกรรมนี้จัดไปเมื่อปีที่แล้ว แล้วเราก็ให้งบประมาณแก่ผู้ชนะการประกวดไปพัฒนาต่อ"

MFEC ยังได้เปิดบริษัทลูกขึ้น ชื่อว่า Playtorium Solutions ซึ่งเปิดขึ้นมาเพื่อรองรับการพัฒนา New Venture และทีม Crowd Testing ก็ได้ย้ายมาอยู่ในส่วนนี้และได้ทำโปรดักส์ต่ออย่างเต็มตัว

ปีนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 6-7 บริษัท

Playtorium

ออฟฟิศ Playtorium ที่เพิ่งเปิดใหม่

 

Playtorium staffs

Big Data Solutions & Partnership

ก่อนหน้านี้ที่ได้เล่าถึงการเพิ่มโซลูชันส์ด้าน Cloud เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น Roadmap ของ MFEC ในตอนนี้คือการมอบโซลูชันส์ทางด้าน Big Data ให้กับลูกค้าองค์กร โดยมีแล็บที่ชื่อว่า Data Cafe ที่เซ็น MOU ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งมี Data เป็น Asset ที่แฝงอยู่อย่างไม่รู้ตัว และไม่รู้จะใช้ประโยชน์อย่างไร ถึงรู้...ก็ไม่มีบุคลลากรทางด้าน Data Analytics"

"เราใช้ Data Cafe เป็นถัง Big Data กลางที่รวบรวมข้อมูลจากหลาย Industry แล้วให้ Data Scientist เล่นกับข้อมูลและหามูลค่าเพิ่มจากข้อมูล อะไรที่สร้างประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้ เรามาทำ Revenue Sharing กับเจ้าของข้อมูล หรือเป็นไปได้ถึงขั้นจด Joint Venture ร่วมกัน" คุณธนกร เล่าให้ Techsauce ฟังเพิ่มเติม

 

Corporate VC

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Techsauce ได้รายงานข่าวการจัดตั้ง Corporate VC (กองทุนเพื่อการลงทุน) ของ MFEC ซึ่งจะลงทุนทั้งกับ Venture หรือ Startup ภายนอก รวมถึงกับ Startup ภายในองค์กรด้วย

สรุป

ผู้เขียนวิเคราะห์แนวทางการปรับตัวของ MFEC จะเห็นได้ว่า MFEC กำลังใช้ความแข็งแกร่งทางด้านฐานะการเงินสร้างความได้เปรียบในการปรับตัว นอกจากนั้น MFEC ยังมี Asset สำคัญคือบุคคลากร IT โดยเฉพาะทางด้าน Software Developer ที่ทั้ง MFEC Group มีอยู่เกือบพันคน

MFEC วิเคราะห์สถานการณ์ในอนาคต และใช้ความได้เปรียบของการเป็นบริษัทใหญ่ใน Local ปรับตัวใหม่อย่างสร้างสรรค์

คุณธนกร สรุปทิ้งท้ายเรื่องการปรับตัวของ MFEC ไว้ว่า บริษัทเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องเอาชนะด้วยเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่นี่เป็นยุคของการที่ต้องเอาชนะด้วย Business Model

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะเบื้องหลังดีล Zipevent และ Link Station Group สู่การขยายธุรกิจอีเวนต์ในภูมิภาค SEA

การเข้าซื้อกิจการระหว่าง Zipevent แพลตฟอร์มจัดการอีเวนต์และจำหน่ายบัตรออนไลน์ในประเทศไทย กับ Link Station Group บริษัทญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจำหน่ายบัตร (Ticketing System) ถือเ...

Responsive image

KBank x Orbix Technology x StraitsX สาธิตการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยบล็อกเชนที่ SG FinTech Festival 2024

ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัวนวัตกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย e-Money on Blockchain ในงาน Singapore FinTech Festival 2024 ชูศักยภาพฟินเทคไทยบนเวทีโลก...

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...