สิ่งที่ทำให้ Netflix แตกต่างและเติบโตคือ 'การสร้างวัฒนธรรมองค์กรและคน'

สิ่งที่ทำให้ Netflix แตกต่างและเติบโตคือ 'การสร้างวัฒนธรรมองค์กรและคน'

Netflix สามารถทำผู้ใช้บริการเกิดการ Binge Watching หรือดูหนัง ซีรีส์หลายสิบตอนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนได้อย่างไร?

สิ่งที่ทำให้ Netflix แตกต่างคือ 'ความใส่ใจในรายละเอียด'

ปัจจุบัน Netflix  มีอยู่ใน 190 ประเทศ มีผู้ใช้งานกว่า 137 ล้านคน โดยสิ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและเข้าถึงผู้คนจำนวนมากได้นั้นมาจากการใส่ใจในรายละเอียด

การที่ Netflix สามารถย้ายบริการเช่าภาพยนตร์ไปยังโลกออนไลน์ และสามารถสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมได้นั้น เนื่องจากการทำการตลาดแบบ 'Personalization' เปรียบเสมือนมีฝ่ายบริการที่คอยให้ความช่วยเหลือในการเลือกหนังตามความสนใจของลูกค้า

มาเรื่องที่ว่าทำไมเราถึงละสายตาจาก Netflix ไม่ได้ง่ายๆ เปิดดูหนังทีไรเป็นต้องจบแบบมาราธอนทุกที ก็เพราะฟีเจอร์อย่าง 'PostPlay' ที่ตอนต่อไปจะเล่นอัตโนมัติภายในไม่กี่วินาที อีกทั้งฟีเจอร์ 'Skip Intro' ที่ผู้ชมสามารถข้ามไปดูหนังได้เลยทันที สิ่งเล็กๆ น้อยๆ นี่เองที่สามารถทำให้พวกเขาแตกต่างและเติบโต

เคล็ดลับความสำเร็จของ Netflix

3 สิ่งที่ Netflix ให้ความสำคัญและได้นำไปสู่ความสำเร็จคือ การสร้างทรัพยากรคน (People), การสร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้างในการเสนอไอเดีย (Culture), และการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นผู้นำทางความคิด (Leadership)

1. การให้ความสำคัญในการสร้างคน (People)

  • การลงทุนในบุคลากรที่รู้จุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง รู้ว่าจะสามารถใช้สิ่งที่มีในการสร้างความแตกต่างได้อย่างไร
  • การมีบุคลากรที่รักธุรกิจนั้นพอๆ กับการได้เป็นเจ้าของธุรกิจเอง
  • การมีบุคลากรที่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
  • หลีกเลี่ยงการมีบุคลากรไร้คุณภาพในองค์กร

2. การมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างในการออกไอเดีย 'ไม่ใช่ควบคุม' (Culture)

Netflix Culture

Netflix พบว่าหากพวกเขาให้พนักงานพึ่งตรรกะและ common sense แทนการทำตามกฎที่เข้มงวด ผลลัพธ์ที่ได้มักจะออกมาดีกว่า โดยการสร้างวัฒนธรรมที่ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมสามารถทำได้ดังนี้

  • การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าองค์กรจะเดินไปในทิศทางไหน
  • ผลักดันให้มีการเปิดกว้างยอมรับ มีความโปร่งใสในการตัดสินใจจากทุกฝ่าย ทั้งเรื่องกลยุทธ์ เป้าหมาย การวัดและประเมินผล การตั้งสมมติฐาน
  • การกำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนในทีมอย่างชัดเจน
  • นอกจากนี้ Netflix ยังมีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น พนักงานจะมีวันลาเท่าไรก็ได้ ทำงานจากที่ไหนก็ได้ ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถทำงานได้ตามเป้า หากคนทำงานหนักแต่ไม่ได้ผลลัพธ์ตามเป้า ก็จะไม่ได้เครดิตเท่ากับคนที่ทำงานได้ดี

3. การสร้าง 'ภาวะความเป็นผู้นำ' ให้คนในทีม (Leadership)

ผู้นำต้องยอมถอยออกมา เพื่อให้อิสระคนในทีมได้ออกไอเดียบ้าง เลิกคาดหวังให้ผู้นำระดับบนเป็นผู้มีอำนาจในการออกไอเดียได้เท่านั้น เพราะไม่ว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

บอกเป้าหมายคนในทีมอย่างชัดเจน ให้เข้าใจตรงกันว่าองค์กรจะเดินไปในทิศทางไหน และจะเป็นการดีที่สุดหากปล่อยให้คนในทีมหาวิธีทำงานตามแบบเฉพาะของพวกเขาเอง

ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของ Netflix คือ 'การนอน'

ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขาคือ 'การนอน' ไม่ใช่บริษัทไหน เพราะทุกวันนี้แม้แต่ผู้ที่คิดว่าตัวเองปลอดภัยที่สุดก็ไม่ใช่อีกต่อไป ผู้นำต้องทำให้คนในทีมมองหาโอกาสทั้งภายในและภายนอกองค์กรอยู่ตลอดเวลา ลองคิดว่าถ้าหากเป็นลูกค้าจะทำอย่างไร โดย Mitch ได้ทำการเปรียบเทียบคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง Blockbuster ที่ก่อนหน้าเคยมองข้าม Netflix มาแล้ว หรืออย่าง Microsoft ที่แต่ก่อนมองว่า Google ไม่ใช่บริษัทจริงๆ ด้วยซ้ำ หากผู้นำหรือคนในทีมมีทัศนคติแบบนี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะทำการปรับเสียแล้วมองทุกอย่างให้เป็นโอกาสในการเติบโต

มีหลาย startup ที่ประสบความสำเร็จก็เนื่องจากการที่พวกเขาสามารถแก้ปัญหาเล็กๆ ที่น่าปวดได้ ลองดูว่ามีอะไรในชีวิตประจำวันที่ทำให้คุณเสียเวลามากกว่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า ทั้งการจองโรงแรม การเช่ารถ หรือการกรอกเอกสาร แม้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม หากสามารถแก้ pain point นั้นได้ก็จะสามารถสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจของคุณได้

บริษัทส่วนใหญ่ล้มเหลวเนื่องจากพวกเขาละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันที่อาจเป็นโอกาสในการสร้างนวัตกรรมได้

โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งที่ทำให้ Netflix ประสบความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมได้นั้นก็เพราะพวกเขาเริ่มจากการให้ความใส่ใจกับ 'คนในองค์กร' ผลักดันให้พวกพนักงานทำความเข้าใจทั้งลูกค้าและตัวเอง รู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร รวมไปถึงสิ่งที่แม้แต่ลูกค้าเองก็ยังไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาต้องการอะไร จุดนี้นี่แหละที่จะสามารถสร้างประสบการณ์และทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคตได้

อย่ากลัวที่จะตัดสินใจผิดพลาด เพราะการเรียนรู้จะเกิดจากความล้มเหลว วัฒนธรรมที่เอื้อต่อการเกิดนวัตกรรมคือการเปิดโอกาสให้คนในทีมได้ลงมือทำ ทดลองทำซ้ำๆ มันไม่มีทางหรอกที่ทุกอย่างจะล้มเหลวไปเสียหมด

Techsauce Global Summit 2020

Techsauce Global Summit 2020

หลายปีที่ผ่านมาหลายองค์กรพยายามปรับโฉมตัวเองแล้วล้มเหลว ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ที่ล้มเหลวเพราะไม่ได้แก้ปัญหาที่รากฐานนั่นก็คือเรื่อง ‘คน’ 

มาร่วมขบประเด็นค้นหาแนวทางทั้งในด้านการคัดสรร ปลุกปั้น และบริหารคนในองค์กร การเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานสำหรับการทำงานในอนาคต อีกทั้งการหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการสร้างวัฒนธรรมมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในรูปแบบ conference และ workshop ได้ในงาน Techsauce Global Summit 2020 วันที่ 5-8 ตุลาคมนี้

ซื้อบัตรได้เลยที่ https://bit.ly/2Yhm5Pz
รายละเอียดเพิ่มเติม https://summit.techsauce.co


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ด้านความยั่งยืน หนุน SMEs เปลี่ยน Vision เป็น Action

บทสัมภาษณ์ คุณอัมพร ทรัพย์จินดาวงศ์ และคุณพณิตตรา เวชชาชีวะ เกี่ยวกับ ‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ที่เข้ามาช่วย SMEs เริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างเข้าใจและไม...

Responsive image

Intel พลาดอะไรไป ? ทำไมถึงต้องเปลี่ยน CEO กะทันหัน ? ถอดบทเรียนราคาแพงจากยุค Pat Gensinger

การ ‘เกษียณ’ อย่างกะทันหันของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ Intel ในต้นเดือนธันวาคม สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการเทคโนโลยี หลายฝ่ายมองว่าเป็นการบีบให้ออกจากบอร์ดบริหาร อันเนื่องมาจากผล...

Responsive image

GAC รถแห่งเมืองกวางโจว ขวัญใจแท็กซี่ยุคใหม่ | Tech for Biz EP. 30

แบรนด์รถยนต์ที่เป็นความภูมิใจของคนกวางโจว สู่ขวัญใจแท็กซี่ยุคใหม่ คลิปนี้ Tech for Biz จะพาไปรู้จัก GAC ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอีกเจ้าที่กำลังบุกตลาดเมืองไทย...