อยากลองใช้  Instagram Story Filter เพื่อทำ Marketing ให้กับแบรนด์ของคุณต้องรู้อะไรบ้าง? นี่คือ 4 ขั้นตอนง่ายๆ

1. วางแผนก่อนว่าเราอยากจะทำ Instagram Stoty Filter เพื่ออะไร / จะปล่อยช่วงไหน / จะโปรโมทผ่านช่องทางไหนบ้าง
2. Design รูปแบบ IG filter และเริ่มทำ อาจจะทำเองหรือจ้างคนอื่นทำ แต่ให้ระวังเรื่อง timeline เผื่อเวลา submit แล้วโดน reject ต้องส่งใหม่ไว้ด้วย
3. Submit Ig filter เข้า SparkAR Hub โดยเวลา submit ต้องใช้ Facebook Account ในการ submit (แต่ตอน publish สามารถเลือกได้ว่าให้ publish ใน Instagram)
4. รอ Approve แล้วก็เริ่มแคมเปญได้เลย!! ระหว่างรันแคมเปญก็อย่าลืมเช็ค dashboard กันด้วยว่ายอดคนใช้เป็นไปตามเป้าทีตั้งไว้รึเปล่า เพื่อจะได้ปรับกลยุทธ์ให้ทันกับสถานการณ์

ก่อนอื่นเกริ่นสั้นๆสำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Instagram filter หรือ Ig effect คืออะไร ยกตัวอย่างง่ายๆให้นึกภาพเวลาที่เราเล่นกล้องมือถือ กดปุ่มแล้วมีเอฟเฟคหูหมา หูแมวออกมาจากหัว แต่เป็นเอฟเฟคที่ใช้ได้เฉพาะในแอป Instagram ประมาณนั้น ส่วนคนที่เล่น Ig เป็นประจำน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว

0

 Advanced issue found

▲

1

ภาพ Jimmy Fallon ลองเล่น Ig filer “Which Disney Are you?” จาก arnopartissimo

Instagram เริ่มเปิดให้คนทั่วไปสร้าง filter เองได้เมื่อปลายปี 2019 ซึ่งในช่วงแรก filter ที่ออกมาส่วนใหญ่มาจาก creator community ที่อยากสร้างอะไรสนุกๆเจ๋งขึ้นมาให้คนอื่นเล่น หรือบางคนก็อยากทำเพื่อเพิ่ม traffic เข้ามาที่เพจตัวเอง ซึ่งช่วงหลังพอฟิลเตอร์ “Which Disney are you?” ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง แบรนด์ต่างๆก็เริ่มให้ความสนใจในการใช้ Ig filter มาทำ marketing กันมากขึ้น

ทำ IG filter ไปแล้วได้อะไร ตัวอย่างการใช้ IG filter ของแบรนด์ต่างๆในไทย

การใช้ Ig filter สำหรับ marketing นั้นสามารถทำได้หลายแบบขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ ซึ่งจุดประสงค์นี้จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบของ Ig filter ว่าจะหน้าตาจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะฉะนั้นก่อนที่แบรนด์จะเริ่มทำ filter ควรจะคิดก่อนว่าอยากจะทำไปเพื่ออะไร

0

 Advanced issue found

▲

 

• จากตัวอย่างฟิลเตอร์ด้านบน
  Content ของ Ig filter จะไม่ได้โปรโมทแบรนด์ตรงๆ แต่เป็น Content ที่ relate กับแบรนด์ เน้นความน่ารักหรือความสนุกปนฮา เช่น filter ของ charbar ที่มีชานมกับหัวใจตกลงมาจากฟ้า หรือของ 2manyuglyclothes ที่ให้แรนด้อมระดับความน่าเกลียดของตัวเอง
  ซึ่ง filter ลักษณะนี้สามารถใช้ target กลุ่มคนที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วเป็นการเพิ่ม brand engagement หรืออาจจะใช้ target กลุ่มคนใหม่ๆเพื่อเพิ่ม traffic เข้ามาที่ Ig Account ก็ได้ ซึ่งคนที่เข้ามาก็มีโอกาสที่จะกลายเป็น follower ในที่สุด

0

 Advanced issue found

▲

 

• ตัวอย่างเซตที่สอง
  จะเห็นว่า effect เน้นโชว์ตัวแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มากกว่าตัวอย่างแรก โดย Ig filter ลักษณะนี้จุดประสงค์ของ marketing จะโฟกัสที่การสร้าง awareness ให้กับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของแบรนด์ และเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ออกใหม่มากกว่า

อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างบางส่วนที่เรายกมา ใครที่สนใจดู Ig effect เพิ่มเติมลองไปดูได้ที่
Ig: everything.igfilter

สิ่งหนึ่งที่สำคัญและควรรู้ไว้สำหรับ Marketer คือ “IG Story Filter Marketing สามารถวัดผลได้” โดยสามารถเข้าไปดูใน SparkAR Hub Dashboard ได้ว่ามีคนใช้ filter กี่คนแล้ว (Total shares) หรือมีคนที่เห็น filter ทั้งหมดกี่คน (Total impressions) ซึ่งจะมีประโยชน์มากในการช่วยติดตามผลระหว่างทำ marketing 

อยากทำ IG Filter เริ่มยังไง ?

Keyword ที่สำคัญที่ต้องรู้คือ “SparkAR” หลังจากนั้นก็ google โลดจ้า

0

 Advanced issue found

▲

 

⚠️ ข้อควรระวังอยู่ตรงนี้ !! ถ้าหากแบรนด์วางแผนที่จะออก filter ในช่วงเทศกาลเช่น สงกรานต์ หรือใช้ในแคมเปญที่กำหนดวันไว้แล้ว ควรต้อง submit ล่วงหน้านานหน่อย เผื่อเรื่องรอคิว และเผื่อ filter โดน reject และต้อง submit ใหม่ด้วย ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็น uncontrollable factor ที่ต้องระวัง

มีข้อจำกัดอะไรบ้างในการทำ IG filter ?

ที่บอกว่ามีโอกาสที่ filter จะโดน reject เนื่องจากใน SparkAR มี policy อยู่ว่า filter แบบไหนที่จะ published ได้ โดยตัวอย่าง policy ที่ควรรู้เช่น

• ห้ามมีโลโก้เกิน 1 อันใน Ig filter และถ้าอยากใส่โลโก้จะต้อง integrate ไปกับ Ig effect เช่น ใช้กับ face tracking ขยับหน้าแล้วโลโก้ขยับตาม จะมาแปะนิ่งๆอยู่ที่มุมนี่ไม่ผ่านนะ อันนี้คือโดนเอง submit ไปไม่กี่วันก็โดนปัดตกเลย ต้องมานั่งแก้ส่งใหม่ (เป็นหนึ่งในพวกไม่อ่าน policy ก่อน)
• การใช้ตัวหนังสือ (text) ห้ามมี text เยอะเกินไป และต้อง integrate ไปกับ effect
• ห้ามใช้รูปคนจริงใน ig filter เช่น ถ้าทำเอฟเฟคสุ่มว่าคุณเป็นดาราคนไหน แล้วใช้รูปดาราจริง ส่งไปก็จะไม่ผ่าน

อันนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน โดยรายละเอียดฉบับเต็มสามารถไปอ่านได้ที่ SparkAR website

ถ้าหากไม่รู้ข้อจำกัดคร่าวๆไว้ก่อนก็จะมีความเสี่ยงของการ submit ไปแล้วโดน reject ซึ่งค่อนข้างเสียเวลาแก้และรอ approve ใหม่ เพราะฉะนั้นอ่านกันไว้คร่าวๆก่อนดีกว่านะจ้ะ

คนจะเข้ามาใช้ IG ฟิลเตอร์เรายังไง?

มีหลายวิธีที่เราจะสามารถโปรโมท Ig filter ของแบรนด์ได้ โดยหลักๆจะมีตามนี้

1. กดจาก link ใน Ig story ของคนที่ใช้ filter
2. Ig Account ที่อัพโหลด effect สามารถใส่ Swipe Up Effect ใน story ให้คนปัดขึ้นเพื่อใช้ effect ได้ โดยอีกวืธีคือฝากให้ influencer หรือเพจที่มียอด follower มากกว่า 10k ช่วยโปรโมทก็จะสามารถใส่ Swipe Up Effect ได้เหมือนกัน
3. ใน SparkAR Hub จะมี link ของ Ig filter ให้ ซึ่งสามารถใช้ link นั้นโปรโมทได้เลย หรืออาจทำเป็น bitly หรือ QR Code เพื่อให้คนสามารถไปใช้ได้ง่ายขึ้น
4. กดเข้าไปใช้ Ig filter จากปุ่มหน้ายิ้มใน Ig Account ที่อัพโหลด effect

จริงๆแล้วการ marketing Ig filter อาจจะมองเหมือนการโปรโมท short video content ก็ได้ ถ้าเราอยากให้คนแชร์เยอะ content หรือตัว filter ก็ต้องน่าใช้หรือใช้แล้วสนุก relate กับ target user ถ้าจะเน้นแต่ขายของคนก็อาจจะไม่ใช้และไม่แชร์ต่อ

อีกมุมหนึ่งถ้า content ดีแต่ไม่ได้คิดวิธีโปรโมท สุดท้ายท้ายทำออกมา ยอดแชร์ก็อาจจะไม่ได้ตามเป้า ตรงนี้ถ้า Ig ของแบรนด์มี followers เยอะอยู่แล้วก็โชคดีหน่อย ส่วนแบรนด์ใหม่ๆอาจจะต้องลองยิง ads หรือหา Influencer มาช่วยในการโปรโมท

สุดท้ายนี้การทำให้ content viral พูดง่ายกว่าทำอยู่แล้ว ซึ่งแบรนด์ทั้งหลายก็คงต้องลองไปนั่งคิดกันดูว่าจะใช้เทคนิคแบบไหน [อาจจะมาเขียนแยกอีก article ว่ามี filter แบบไหนบ้างที่คนนิยมเล่นกัน ถ้าสนใจกันก็บอกได้นะ]