Bitcoin เป็น FinTech ประเภทหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นไม่น้อย ไม่นานมานี้เราได้ไปเยือนต่างประเทศมาบ้าง ก็พบเห็นว่าเขามี Bitcoin Startup แข่งได้รับรางวัลมาแล้ว อยากจะขอพาผู้อ่านทุกท่านมาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าเจ้า FinTech ประเภทนี้ เข้ามา Disrupt เรื่องการเงินได้อย่างไร และสามารถนำไปใช้กับอะไรได้บ้าง
สำหรับในไทย ใช่ว่าจะไม่มีผู้ให้บริการ Bitcoin เราได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ coins.co.th ซึ่งเป็น FinTech Startup ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014 ปัจจุบันเป็นผู้นำในการให้บริการด้านกระเป๋าสตางค์ Bitcoin ของประเทศไทย
Bitcoin เป็นเงินสกุลดิจิตอลสำคัญของโลก ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯแล้ว หลายคนอาจจะยังมองว่า Bitcoin เป็นเรื่องไกลตัว จับต้องยาก ส่วนมากใช้กันในหมู่ Geek คอมพิวเตอร์ นักเก็งกำไร ที่ใช้ Bitcoin เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน แต่ Bitcoin และ Blockchain ความจริงแล้วสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายเรื่อง
ทาง coins.co.th ได้แนะนำข้อมูลเรื่องประโยชน์ของ Bitcoin ไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีตัวอย่างซึ่งช่วยให้เข้าใจว่า Bitcoin สามารถทำอะไรได้บ้าง และจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการเงินของทุกคนได้อย่างไร บทบาทของ Bitcoin กับการเงินในชีวิตประจำวัน ได้แก่
ปัจจุบันนั้น ประเทศหลักๆ เช่น อินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก และ ฝรั่งเศส มีการรับโอนเงินจากต่างประเทศในมูลค่าถึง 216.1 พันล้านเหรียญสหรัญฯต่อปี และ บางประเทศ การโอนเงินกลับของแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศนั้นคิดเป็น 30% ของรายการได้ที่เกิดจากการขายสินค้าและบริการทั้งหมด ปัจจุบันอย่างที่ทุกคนทราบ การโอนเงินข้ามประเทศนั้นมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงเฉลี่ย 8-15% ทำให้แรงงานที่ต้องการส่งเงินกลับบ้านนั้น ต้องเสียเงินไปกับค่าธรรมเนียมเหล่านี้จำนวนไม่น้อย แต่ด้วยเทคโนโลยีบิทคอยน์การโอนเงินข้ามประเทศจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากจนแทบจะไม่มีเลย
ด้วยข้อได้เปรียบทางด้านค่าธรรมเนียมนี้ ทำให้การทำธุรกรรมขนาดเล็กหรือ Micropayment สามารถเกิดขึ้นได้ ในปัจจุบัน เราสามารถโอนเงินแค่ 5 บาท ไปที่ไหนก็ได้ในโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน แม้หนึ่งบิทคอยน์ จะมีมูลค่าสูง (ประมาณ 15xxx บาท) แต่บิทคอยน์ มีลักษณะเป็นข้อมูลสามารถแบ่งย่อยได้ถึงทศนิยม 8 ตำแหน่ง จึงไม่มีปัญหาในการใช้จ่ายและโอนบิทคอยน์
ที่สำคัญชาว Freelance เตรียมเฮได้ ในเมื่อเราไม่จำเป็นที่จะต้องรับงานเฉพาะในประเทศที่เราอยู่อีกต่อไป เราสามารถส่งงานที่ทำผ่านอินเตอร์เน็ตกันได้ กว่าทศวรรษแล้วที่เรายังไม่เห็นการพัฒนาของระบบชำระเงินที่ค่าธรรมเนียมถูกลงเลย แต่วันนี้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน เปรียบเสมือนติดปีก Freelance ทั่วโลกให้เข้าสูตลาดแรงงานมากขึ้น
ทราบหรือไม่ว่าบัตรเครดิต บัตรเดบิตที่เราใช้กันทั่วไปนั้นมีค่าธรรมเนียมที่แฝงอยู่ โดยผู้ประกอบการที่รับเงินในช่องทางนี้ต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมให้ผู้ให้บริการระบบชำระเงินสูงถึงกว่า 3-5% ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายๆ ร้านถึงชอบออกโปรโมชั่นโดยให้ลูกค้าจ่ายเงินสดแล้วจะได้ลดราคา หรือ บางร้านถึงขั้นถ้าลูกค้าจ่ายบัตรเครดิตจะถูก Charge เงินบางส่วนเพิ่มเติมเลยทีเดียว ลองคิดง่ายๆ หากคุณเปิดบริษัทสักแห่งแล้วมีกำไรสุทธิประมาณ 6% ถ้าต้องมาจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต นั่นหมายความว่ากำไรกว่าครึ่งของคุณหายไปเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Wikipedia, Expedia, Dell, Microsoft และ Tesla ถึงตั้งใจที่จะรับการชำระเงินด้วย Bitcoin เพราะการชำระเงินในระบบนี้มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากหรือเรียกได้ว่าใกล้เคียง 0% เลยทีเดียว ลองจินตนาการถึง 3% นั้นที่ถูกดึงออกไปจากระบบ หากสามารถนำกลับเข้ามาย่อมมีผลต่อ GDP และระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างมีนัยยะสำคัญแน่นอน
ในประเทศที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินยังไม่พร้อม อาทิเช่น ฟิลิปปินส์ พม่า ประชาชนในประเทศต่างก็ประสบปัญหาทั้งการเปิดบัญชีธนาคารและค่าธรรมเนียมการส่งเงิน ซึ่งแม้กระทั่งการส่งในประเทศก็มีค่าธรรมเนียมที่สูง ซึ่งล่าสุดตัวเลขประชากรผู้มีบัญชีธนาคารในประเทศฟิลิปปินส์มีสัดส่วนเพียงแค่ 27% เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ coins.ph สาขาที่ฟิลิปปินส์จึงได้เข้าไปให้บริการกระเป๋าสตางค์ที่ทำหน้าที่เหมือนบัญชีธนาคาร ลูกค้าสามารถฝาก/ถอน/โอน เงินเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์รวมถึงการเติมเงินมือถือ ชำระบิลต่างๆ ได้ผ่านทางมือถือหรือคอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัยและสะดวกรวดเร็ว โดยทั้งหมดนี้ใช้เครือข่าย Blockchain เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง ทุกคนสามารถใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่า Bitcoin หรือ Blockchain คืออะไร เสมือนที่ทุกคนใช้งาน Skype เพื่อทำการโทร หรือ Video Call กับคนที่อยู่อีกฝั่งของโลกได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรู้ว่าเทคโนโลยี TCP/IP นั้นอยู่เบื้องหลัง
เมื่อพูดถึงบริการกระเป๋าสตางค์ในมือถือ การต่อยอดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้คือตลาดการกู้ยืมเงิน ในปัจจุบันเราจะเห็นการกู้ยืมเงินนอกระบบมากมาย เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ไม่มีประวัติทางด้านการเงินเพราะไม่มีบัญชีธนาคาร แต่ด้วยคุณสมบัติหนึ่งของเทคโนโลยี Blockchain คือ Public Ledger ซึ่งทำให้ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นนั้นสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นทุกคนในระบบ Bitcoin จะมีข้อมูลประวัติทั้งหมดที่สามารถช่วยให้ผู้ปล่อยกู้สามารถประเมินความเสี่ยงและเสนออัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมให้กับผู้กู้ได้
บางคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของประเทศ Zimbabwe ที่เกิดปัญหาภาวะอัตราเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) ในประเทศ มูลค่าของเงินที่ถืออยู่ เพียงแค่ข้ามวันอาจกลายเป็นเศษกระดาษได้ทันที Bitcoin สามารถเข้าไปช่วยประเทศเหล่านี้ได้โดยทำตัวเปรียบเสมือนค่าเงินทางเลือกที่ใช้กันในประเทศ แน่นอนความผันผวนในมูลค่าของ Bitcoin ยังเป็นสิ่งบางคนยังตั้งคำถาม แต่สำหรับในประเทศโลกที่สามบางแห่งความผันผวนนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยทันทีเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อในประเทศของพวกเขาเหล่านั้น
หลังจากรู้จักกับ Bitcoin กันแล้ว มารู้จักกับพวกเขาบ้าง coins.co.th หรือเรียกง่ายๆว่า คอยส์ ซึ่งปัจจุบันให้บริการกระเป๋าสตางค์ Bitcoin พร้อมทั้งการซื้อ ขาย โอนแลกเปลี่ยน Bitcoin ผ่านหน้าเว็บไซต์ มีการอำนวยความสะดวกให้คนไทยและคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายขึ้น มีช่องทางอำนวยความสะดวกทั้งการซื้อและการขาย สามารถรับเงินผ่านช่องทางต่างๆ โดยไม่ต้องใช้บัญชีธนาคาร นอกจากนี้สำหรับนักช็อป พวกเขายังมีช่องทางต่างๆ เช่น บัตรเงินสด บัตรของขวัญ หรือการช๊อปปิ้งออนไลน์ ให้ลูกค้าได้เลือกใช้จ่าย Bitcoin
coins.co.th สมัครใช้งานฟรี นอกจากนี้สำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจการซื้อขายใน Bitcoin ก็สามารถใช้บริการได้เช่นกัน ล่าสุดทางคอยส์ ได้ดำเนินโปรแกรม [email protected] สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการและธุรกิจต่างๆ ที่อยากทำการรับเงินด้วย Bitcoin สามารถรับเงินเป็น Bitcoin และเก็บไว้ หรือจะทำการแปลงเป็นเงินบาททันทีก็ย่อมได้จากระบบ API ที่มี ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อกับทาง coins.co.th ได้หลากหลายช่องทาง เช่น แฟนเพจ ไลน์ และสามารถลองใช้ Bitcoin โดยการสมัครเปิดกระเป๋าสตางค์ฟรีที่หน้าเว็บ coins.co.th ได้นะ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด