ทำไมสตาร์ทอัพญี่ปุ่น มองหาพันธมิตรธุรกิจในไทย พ่วงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สงสัยกันไหมว่า ธุรกิจไทยมีอะไรโดดเด่นจน 'สตาร์ทอัพญี่ปุ่น' ให้ความสำคัญ และมองหาพันธมิตรในไทยอย่างต่อเนื่อง?  มาคลายข้อสงสัยไปพร้อมๆ กันผ่านตัวแทน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร (JETRO : Japan External Trade Organization) หน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนการลงทุน ความร่วมมือ และการขยายธุรกิจญี่ปุ่นในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย 

Jetro

คุณเอสุเกะ มัตสึอุระ ผู้อำนวยการ SME, Startup Promotion Dept., JETRO กล่าวว่า JETRO มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพญี่ปุ่นทำตลาดต่างประเทศ โดยคุณเอสุเกะดูแลรับผิดชอบงานของ เจโทร กรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) ในการสนับสนุนสตาร์ทอัพญี่ปุ่นให้เข้าถึงตลาดหรือธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทย 

เนื่องจากมีบริษัทญี่ปุ่นราว 6,000 แห่ง ที่ดำเนินธุรกิจและมีสาขาอยู่ในประเทศไทย ทำให้เห็นว่า ญี่ปุ่นมีฐานลูกค้าเบื้องต้นอยู่ในประเทศนี้ไม่น้อย จึงจุดประกายให้สตาร์ทอัพญี่ปุ่นสนใจเมืองไทยและเริ่มเข้ามาสำรวจตลาด มองหาโอกาสและเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยเฉพาะยิ่ง เทคโนโลยี SaaS (Software as a Service) 

กอปรกับสตาร์ทอัพญี่ปุ่นที่พัฒนา Deep Tech, Green Tech และ Climate Tech เริ่มทำวิจัยตลาดในเมืองไทย และเห็นความสนใจขององค์กรธุรกิจไทยว่าต้องการ Deep Tech, Green Tech และ Climate Tech เข้าไปเสริมในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นประตูสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการมีกิจกรรม มีอีเวนต์ระดับภูมิภาค ซึ่งเชื่อมตลาดไทยกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าด้วยกัน สตาร์ทอัพญี่ปุ่นจึงเข้ามาและมีส่วนร่วมในตลาดนี้ได้ ผ่านทางหน่วยงานภาครัฐอย่าง JETRO หรืองานสัมมนาระดับภูมิภาค Techsauce Global Summit 

ในมุมของคุณเอสุเกะเห็นว่า สตาร์ทอัพญี่ปุ่นเข้ามาขยายธุรกิจในไทยผ่านทาง JETRO และจับคู่พันธมิตรทางธุรกิจสำเร็จหลายราย ยกตัวอย่าง Zeroboard สตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีสภาพภูมิอากาศ (Climate Tech) ของญี่ปุ่น ซึ่ง JETRO สนับสนุนการหาพันธมิตรท้องถิ่น (Local Partner) ในประเทศไทย และในที่สุดก็ได้พันธมิตรเป็นบริษัทนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดสัญชาติไทยชื่อว่า Innopower

“Zeroboard เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ซึ่ง JETRO พาพวกเขาไปร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีในงาน Techsauce Global Summit ครั้งแรกในปี 2023 ตอนนั้นสิ่งที่ JETRO สนับสนุนไม่ใช่แค่พื้นที่จัดแสดง แต่ยังสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจ โดยใช้แพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจของ Techsauce ช่วยให้สตาร์ทอัพมีโอกาสในการพูดคุยและพบปะพันธมิตรใหม่ราว 10 ครั้ง” 

คุณเอสุเกะเล่าต่อถึงความต้องการของ Innopower และ Zeroboard ที่แมตช์กันได้อย่างลงตัวว่า “เวลานั้น Innopower มองหาเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Green Tech, Climate Tech หรือโซลูชันใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงภาพการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะเดียวกัน Zeroboard สตาร์ทอัพด้าน Climate Tech ที่มีระบบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็มองหาพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศไทย เมื่อ Innopower พบว่า Zeroboard สามารถสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจได้ จึงมาจับคู่เป็นพันธมิตรกัน”  

ดีลนี้ประสบความสำเร็จเพราะต่างก็ตอบสนองความต้องการของกันและได้อย่างตรงจุด โดย Innopower ต้องการให้บริการลูกค้าด้วยแบรนด์ของตัวเอง ส่วน Zeroboard ต้องการพันธมิตรมาร่วมสร้างการเติบโต ไม่เน้นสร้างแบรนด์ Innopower จึงใช้เทคโนโลยีของ Zeroboard ให้บริการแพลตฟอร์มคำนวณและแสดงผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Report) อยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลูกค้าบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ด้วยโมเดลธุรกิจที่ลงตัวแบบ 'White Label' กล่าวคือ การที่บริษัทหนึ่งเป็นผู้ผลิตหรือเป็นเจ้าของเทคโนโลยี ส่วนอีกบริษัททำการตลาดและให้บริการเทคโนโลยีนั้นได้เหมือนขายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง 

นอกเหนือจาก Green Tech, Climate Tech คุณเอสุเกะบอกอีกว่า องค์กรไทยสนใจใช้การเทคโนโลยี AI เพราะทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยือนองค์กรขนาดใหญ่ มักได้ข้อมูลว่า บริษัทกำลังมองหาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI มาปรับปรุงขั้นตอนการทำงานภายในองค์กร หรือไม่ก็มองหาโซลูชัน AI มาใช้ในธุรกิจใหม่ ตลอดจนต้องการใช้ AI และ Big Data พัฒนาการตลาดและการขาย 

คุณเอสุเกะยังกล่าวเพิ่มอีกว่า เดิมทีสตาร์ทอัพญี่ปุ่นไม่สามารถเข้าถึงพันธมิตรท้องถิ่นในไทยได้เอง แต่เมื่อดีลผ่าน JETRO และใช้ Techsauce เป็นเกตเวย์ช่วยให้สตาร์ทอัพญี่ปุ่นเข้าถึงธุรกิจท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น กลายเป็นความง่ายที่สามารถดึงดูดองค์กรขนาดใหญ่ให้มาพบปะพูดคุยกันได้อย่างใกล้ชิดด้วย

“จากการพาบริษัทญี่ปุ่นเข้าร่วมงาน Techsauce Global Summit พบว่า เป็นเกตเวย์สำคัญที่ใช้หาพันธมิตร จับคู่ธุรกิจ ตลอดจนเพิ่มโอกาสพาสตาร์ทอัพญี่ปุ่นเข้าสู่ตลาดท้องถิ่น นอกจากนี้ ผมมองว่าโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีทั้งสำหรับสตาร์ทอัพและนักลงทุน ดังนั้น เชื่อว่างาน Techsauce Global Summit ครั้งต่อไป จะสามารถเชื่อมโยงสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพรายใหม่ ๆ ให้ค้นพบพันธมิตรในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สำเร็จ” คุณเอสุเกะกล่าวถึง Techsauce ในมุมพันธมิตรที่ร่วมซัพพอร์ตการเติบโตทั้งบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นและไทย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึก Beyond DeepSeek เมื่อมังกรจีนไม่ได้มีแค่หัวเดียว เปิด map กองทัพ Open-Weight AI ที่กำลังเขย่าบัลลังก์เทคฯ โลก

เจาะลึกรายงาน Stanford: เบื้องหลัง AI จีนที่ไม่ได้มีแค่ DeepSeek แต่คือระบบนิเวศ Open-Weight ที่น่ากลัว เผยกลยุทธ์ทำเงินจาก "ของฟรี" และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่องค์กรต้องรู้ก่อ...

Responsive image

Gartner ชี้สัญญาณอันตราย 5 จุดบอดของ GenAI ที่ผู้บริหารไอทีต้องเร่งจัดการก่อนจะสาย

Gartner เตือน CIO ถึง 5 จุดบอดสำคัญในการใช้ GenAI ทั้ง Shadow AI, หนี้ทางเทคนิค และทักษะคนที่ถดถอย พร้อมทำนายปี 2030 คือจุดชี้ชะตาธุรกิจ...

Responsive image

สรุป Insight จาก ‘Turn ThAI to Tech Tide’ ชี้ไทยผลิต AI Talent ได้ไม่ถึง 500 คนต่อปี ถอดรหัส 4 กลยุทธ์จาก ดร.เอ้ และ ดร.อ้อ กู้วิกฤต Talent พลิกอนาคต AI ไทย

เจาะลึกกลยุทธ์กู้วิกฤตระบบเทคไทยจากการศึกษาจนถึงนโยบายรัฐ จากเวที AI Innovation Summit 2025 แก้ปัญหาไทยโตช้าในสนาม Data Economy ระดับโลก...