เปิดบัญชี K-eSavings ง่าย เสมือนยกทั้งธนาคารมาอยู่ในมือเราด้วยระบบ eKYC | Techsauce

เปิดบัญชี K-eSavings ง่าย เสมือนยกทั้งธนาคารมาอยู่ในมือเราด้วยระบบ eKYC

โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อคิดถึงการไปทำธุระใดๆ ก็ตามในธนาคาร เรามักนึกถึงตู้กดบัตรคิว คนจำนวนมากที่ต่อแถวขอรับบริการต่างๆ เอกสารที่ต้องเตรียมไปจนล้นมือ ไหนจะเดินทางฝ่ารถติดไปยังสาขาใกล้บ้านที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ ซึ่งก็ต้องไปให้ถูกวันและเวลาที่ธนาคารเปิดทำการ โดยภาพรวมแล้วการต้องไปทำธุระที่ธนาคารดูจะเป็นเรื่องที่สร้างความเหนื่อย เป็นหนึ่งในกิจกรรมน่าเบื่อที่ต้องใช้ความอดทนอยู่ไม่น้อย เมื่อนึกถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ขั้นตอนที่กล่าวมาเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหา ‘คอขวด’ ที่คนยุคดิจิทัลต่างต้องการทางเลือกที่ดีกว่าเดิม เพราะธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตประจำวันที่ควรจะดำเนินไปอย่างคล่องตัวและเร็วขึ้นโดยไม่สะดุดติดขัดกับอะไรก็ตามที่เทคโนโลยีสามารถเสนอทางแก้ที่ดีกว่าได้

ข่าวดีที่กำลังเกิดขึ้นคือในตอนนี้บรรดาผู้ให้บริการทางการเงินต่างกำลังพัฒนาการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการหรือตอบโจทย์ Pain Point ต่างๆ ของผู้ใช้บริการ ตัวอย่างเช่นแอปฯ ของธนาคารที่สามารถทำให้ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมและใช้บริการต่างๆ บนมือถือได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสะดวกสบาย แต่ก็ไม่ใช่บริการทั้งหมดที่จะสามารถทำบนแอปฯ ได้ เพราะเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งของการให้บริการของธนาคาร นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า ‘การยืนยันตัวตน’ ของผู้ใช้บริการเพื่อให้ธนาคารสามารถมั่นใจได้ว่ามีข้อมูลของผู้ใช้บริการอย่างถูกต้อง เช่นต้องมั่นใจได้ว่าคนที่กำลังเบิกเงินเป็นคนเดียวกับเจ้าของบัญชีจริงๆ ความสำคัญของการยืนยันตัวตนในที่นี้ทำให้ก่อนที่จะเปิดให้เราเข้าถึงบริการอื่นๆ ทางธนาคารต้องขอ ‘รู้จักเราก่อน’ หรือภาษาที่ฝั่งธนาคารใช้กันเองอย่าง KYC (Know Your Customer) ซึ่งความสัมพันธ์แรกที่นำมาสู่การรู้จักกันก็คือการ ‘เปิดบัญชี’ นั่นเอง ในขั้นนี้เราจำเป็น ‘ต้องเดินทางไปยังธนาคาร’ เพื่อสมัครเปิดบัญชี ซึ่งเป็นก้าวแรกที่เป็นพื้นฐานสู่การรับบริการอื่นๆ จากธนาคาร โดยบริการส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถทำได้เองผ่านแอปฯ ไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน จ่ายบิล เติมเงิน ขอ Statement และอื่นๆ

แน่นอนว่านี่ก็คือปัญหาคอขวดสำคัญที่ต้องหวังพึ่งใช้ใช้เทคโนโลยีแก้ไข ล่าสุด KBank ออกบริการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (K-eSavings) ผ่าน K PLUS ที่พัฒนาระบบการยืนยันตัวตนรูปแบบใหม่ขึ้นมาโดยที่ลูกค้าของธนาคารไม่ต้องไปเปิดบัญชีที่ธนาคารอีกแล้ว แต่สามารถดำเนินการด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง บน K PLUS และจุด K CHECK ID ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนามารองรับกระบวนการ eKYC (Electronic Know Your Customer) โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การยืนยันตัวตนเป็นไปได้อย่างง่าย สะดวก และมีความปลอดภัยมากขึ้น

สะดวกรวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา และปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition

พูดง่ายๆ คือจากแต่ก่อนที่เราต้องเดินทางไปยังสาขาของธนาคารในเวลาทำการเพื่อเปิดบัญชีโดยยื่นบัตรประชาชนยืนยันตัวตนกับพนักงาน ซึ่งมีอุปสรรคทั้งในด้านของความไม่สะดวก และระยะเวลาดำเนินการที่ค่อนข้างนาน การเปลี่ยนมาเป็นระบบ eKYC ผ่านK PLUS และ K CHECK ID ผู้ใช้บริการสามารถจะเปิดบัญชีได้ด้วยตัวเองทุกเวลา และแทบทุกที่

อีกเรื่องที่เคยเป็นปัญหาคือด้านความปลอดภัย จากแต่ก่อนที่ต้องใช้พนักงานเป็นคนตรวจสอบว่าผู้ที่มาเปิดบัญชีกับคนที่มาเปิดเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งก็อาจเกิดความผิดพลาดของมนุษย์ หรือเกิดช่องว่างฉวยโอกาสสำหรับมิจฉาชีพ ระบบ eKYC ก็ได้ใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ระบบตรวจจับจุดต่างๆ บนใบหน้ากว่า 500 จุด ซึ่งมีความแม่นยำสูงมากมาใช้ รวมถึงเทคโนโลยี Liveness Detection ซึ่งจะตรวจจับว่าใบหน้าที่สแกนอยู่นั้นเป็นบุคคลจริงๆ ไม่ใช่รูปถ่ายหรือภาพจากวิดีโอ ตัดปัญหาการสวมรอยหรือความผิดพลาดอื่นๆ ไปได้โดยสิ้นเชิง ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ อยู่ในโครงการ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย

ขั้นตอนการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ K-eSavings

K-eSavings ทำให้ผู้เปิดบัญชีสามารถเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้บนแอปฯ K PLUS ได้ด้วยตัวเอง ขั้นตอนง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอปฯ K PLUS กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป จากนั้นก็ไปยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ขอเปิดบัญชีจริงๆ ที่จุดK CHECK ID โดยเสียบบัตรประชาชนเข้ากับเครื่อง และถ่ายภาพเซลฟีตัวเองจากกล้องมือถือผ่าน K PLUS กดยืนยันความถูกต้องและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ก็เสร็จสิ้นการเปิดบัญชี และเข้าถึงการบริการอื่นๆ บนแอปฯ K PLUS ได้ทันที

โดยการเปิดบัญชี K-eSavings จะไม่มีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ และให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 1.5% ต่อปีสำหรับ 100,000 บาทแรก ในช่วงแรกมีจุด K CHECK ID กระจายตัวอยู่ที่สาขาธนาคารกสิกรไทยอยู่ 380 จุดทั่วประเทศ และยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่เคาน์เตอร์บิ๊กเซอร์วิส ของ จำนวนกว่า 200 สาขา และที่ทำการไปรษณีย์ไทย 20 สาขา ซึ่งธนาคารมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนจุด K CHECK ID ที่พาร์ทเนอร์รายอื่นๆ ของธนาคารด้วย

“เราพยายามทำให้ทุกอย่างง่ายสำหรับลูกค้า โดยสามารถคีย์ข้อมูลจากที่บ้านมาได้เลย พอมาถึงที่ตู้ K CHECK ID คือแค่มาเสียบบัตรอย่างเดียว ซึ่งตรงนี้ใช้เวลาสั้นมากๆ เป็นหน่วยวินาทีเท่านั้นเอง” คุณสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยกล่าวถึงเบื้องหลังการออกแบบการบริการเพื่อตอบสนองพฤติกรรมที่ชอบความง่าย และความสะดวกรวดเร็วของคนยุคดิจิทัล และยังเสริมอีกว่า “เทคโนโลยีนี้เอามาทดแทนอะไรก็ตามที่เป็น Face to Face อะไรก็ตามที่ต้องมาเห็นหน้ากันแล้วต้องเซ็นต์ด้วยมือ หรือการตรวจยืนยันด้วยคนเหมือนในอดีต”

คุณนิศานาถ อู่วุฒิพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยตอกย้ำวิสัยทัศน์ของการให้บริการของธนาคารที่กำลังเปลี่ยนพื้นฐานทั้งหมดไป กล่าวว่า “ทิศทางที่เรากำลังจะไปคือให้ทุกอย่างเป็นดิจิทัล เราเปิดบัญชีโดยที่ไม่มีสมุด ข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ ก็ส่งเป็นไฟล์เข้าอีเมล์ ขอสเตทเมนท์ผ่านทางแอปฯ K PLUS คือบนแอปฯ ก็มีบริการต่างๆ เป็นอิเล็กทรอนิกส์โดยครบถ้วนอยู่แล้ว”

“เราอยากจะให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการอื่นๆ บนแอปฯ K PLUS ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น โดยการเปิดบัญชีเป็นพื้นฐานของการที่จะเข้าถึงและใช้บริการต่างๆ ของเราได้ง่ายขึ้น”

เมื่อมีบัญชี K-eSavings ลูกค้าก็สามารถที่จะทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านบนแอปฯ ซึ่งได้พัฒนาให้มีการบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่บริการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้บริการแบบดั้งเดิมของธนาคารอย่าง K+ Market ก็พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นหลากหลาย โดยบริการทั้งหมดที่มีในปัจจุบัน รวมถึงบริการในอนาคตล้วนมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ K-eSavings เป็นพื้นฐานนั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้น K-eSavings ไม่ใช่บริการที่เป็นเพียงเทคโนโลยีหรือฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพียงเท่านั้น แต่นัยสำคัญของบริการนี้คือการวางรากฐานการบริการธนาคารทั้งหมดในโลกดิจิทัล เมื่อการยืนยันตัวตนจากแต่ก่อนที่ต้องใช้การเจอหน้ากันระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการ เปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีที่ลบข้อจำกัดเดิมๆ ทั้งในด้านความสะดวกรวดเร็ว และโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาด ผู้ใช้บริการแทบไม่ต้องไปธนาคารอีกต่อไปแล้ว เสมือนว่าได้ยกทั้งธนาคารมาไว้ในมือของเรา ไม่เพียงเท่านั้นการวางรากฐานทางดิจิทัลนี้จะสามารถต่อยอดไปสู่โฉมพัฒนาการใหม่ๆ ของโลกบริการทางการเงินให้ตอบโจทย์ในด้านอื่นๆ ได้อีกมากมาย

ยิ่งไปกว่านั้น K-eSavings ไม่ใช่บริการที่เป็นเพียงเทคโนโลยีหรือฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพียงเท่านั้น แต่นัยสำคัญของบริการนี้คือการวางรากฐานการบริการธนาคารทั้งหมดในโลกดิจิทัล ผู้ใช้บริการแทบไม่ต้องไปธนาคารอีกต่อไปแล้ว เสมือนว่าได้ยกทั้งธนาคารมาไว้ในมือของเรา

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image
Responsive image

9 ทักษะดิจิทัล ปี 2024 สร้างมูลค่าให้บริษัทด้วย Tech Skills แห่งอนาคต

ทักษะดิจิทัล หรือทักษะด้านเทคโนโลยี (Tech Skills) ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด...

Responsive image

AI ล้ำหน้าหรือภัยอนาคต? แล้วมนุษย์จะเป็นผู้ล่าหรือเหยื่อ | Tech for Biz EP.17

ในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีการคาดการณ์ว่ากว่า 300 ล้านตำแหน่งจะหายไป คำถามคือ คุณจะยืนอยู่ฝ่ายไหนระหว่างเหยื่อที่ถูกแทนที่ หรือนักล่าที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ? แล้วต้องปรับต...