ความสำเร็จและก้าวต่อไปของ Coral NFT Marketplace โดย KX | Techsauce

ความสำเร็จและก้าวต่อไปของ Coral NFT Marketplace โดย KX

หลังการเปิดตัว KX (Kasikorn X) ธุรกิจในเครือ KBTG ในช่วงเดือนตุลาคมในปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจด้าน Decentralized Finance and Beyond  KX ได้ทำการเปิดตัว 3 ธุรกิจหลักเป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ Kubix ในส่วนธุรกิจ ICO Portal ต่อเนื่องด้วย Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace สำหรับซื้อขายงานศิลปะ เป็นพื้นที่สร้างโอกาสไร้ขอบเขต (Limitless Opportunities) ให้แก่ศิลปินและนักสะสมทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมจัดงานแสดงศิลปะดิจิทัล Thailand Digital Art Festival 2022 และล่าสุดได้เปิดตัวกองทุน Endless Capital สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) ภายใต้ Web 3.0 Ecosystem บทความนี้จะพาดูความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา 

ความสำเร็จและก้าวต่อไปของ Coral NFT Marketplace โดย KX

Kasikorn X ธุรกิจใหม่ที่มุ่งสู่ระดับสากล

KX คือ Autonomous Venture Builder ด้าน Decentralized Finance and Beyond มุ่งเน้นการสร้างธุรกิจใหม่ในด้านบริการทางการเงิน (Financial Service) และบริการอื่น ๆ (Non-Financial Service) เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ภายใต้การนำของคุณพอล ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder และดำเนินธุรกิจอย่างเป็นอิสระ พร้อมได้รับการสนับสนุนในระดับภูมิภาคเอเชียจากกลุ่ม KBank และ KBTG ทำให้สามารถดึงศักยภาพในแต่ละด้านมาช่วยสนับสนุน KX ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันมีทีมงานคุณภาพจากทั่วโลกร่วมงานกับ KX ทั้งประเทศไทย เวียดนาม และจีน เพื่อเติมเต็มเป้าหมายของ KX ในการเป็น International Company เพื่อรองรับการขยายสู่ International Regional-Global Expansion ในแต่ละธุรกิจ เป็นการ Leverage Footprint ของทั้งกลุ่มเพื่อทำให้สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละภูมิภาคได้  ในส่วนของกระบวนการทำงาน KX ใช้วิธีการบ่มเพาะไอเดียใหม่ ๆ (Incubate) ขยายผล (Scale) และแยกตัวธุรกิจออกไปตั้งเป็นบริษัทใหม่ๆ (Spin-off) และมีเป้าประสงค์ที่จะสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับเรื่อง Financial Services ที่ได้เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกำลังดำเนินการในธุรกิจ Non-Financial Services ที่มากขึ้นในปี 2565 

Coral - NFT Marketplace ที่ใช้ง่ายและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ทุกคน

‘Coral’ แพลตฟอร์ม NFT Marketplace ที่ได้เปิดตัวพร้อมกับ KX ในปีที่ 2564 ที่ผ่านมา สำหรับ Coral เป็น Super Simple NFT Marketplace ที่มีจุดเด่นแตกต่างอย่างชัดเจนโดยมีแนวคิดในการก่อตั้งที่พัฒนาขึ้นจากความเข้าใจปัญหาของนักสะสม ศิลปิน และแบรนด์ โดยมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนศิลปินไทยและเอเชียให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งปัญหาดังกล่าวพบว่าในภูมิภาคมีศิลปินและนักสร้างสรรค์ที่มีฝีมือจำนวนมาก แต่ไม่มีโอกาสในการประชาสัมพันธ์หรือช่องทางในการแสดงผลงานและขายผลงานที่ครอบคลุมเพียงพอ คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “Coral มีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับ Marketplace อื่น ๆ เราตั้งธงว่าในการเป็นประตูแห่งโอกาสสำหรับคนมากมายมหาศาล เป็นช่องทางที่สามารถให้ศิลปินและคนทั่วไปที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโชว์และสร้างเป็นรายได้กับตนเอง ศิลปินที่อยู่บนแพลตฟอร์มเรา พาร์ทเนอร์และแบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถทำงานร่วมกันได้ด้วยในแพลตฟอร์มเรา Coral จะเปิดโอกาสทางอาชีพเยอะแยะมากมายให้กับทุกคน”

ข้อแตกต่างของ Coral

  • Copyright Friendly Platform 

Coral เห็นถึงปัญหาของ NFT Marketplace ระดับโลกคือ ช่องว่างในการคัดลอกผลงานของศิลปิน ซึ่งสร้างผลกระทบต่อตัวศิลปิน รวมถึงศิลปินไม่ทราบถึงวิธีในการจัดการ Coral จึงให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องผลงานและศิลปินโดยจะมีกระบวนการสำหรับยืนยันตัวตนของศิลปินทุกคนที่อยู่บนแพลตฟอร์ม (Original Artist & Authentic NFTs) เพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ โดยมีการร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อดูแลปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับศิลปินที่ผลงานบนแพลตฟอร์ม Coral จะได้รับ Batch สีชมพูและสามารถนำผลงานจดแจ้งกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อนำเลขทะเบียนจดแจ้งประกอบบน Description ของงานศิลปะ รวมถึงดูแลกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อผลงาน ดูแลด้านข้อมูลและไฟล์ภาพที่ถูก Mint (สร้างขึ้น) บนแพลตฟอร์มจะถูกจัดเก็บใน Metadata บน Blockchain ที่ทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ นอกจากนี้ Coral จะมีทีมงามที่ให้ความช่วยเหลือศิลปินทุกท่านบนแพลตฟอร์มตั้งแต่การจดแจ้งผลงานไปจนถึงการดูแลเมื่อมีปัญหาการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ 

  • Global NFT Standard (Blockchain ETH-1155) 

จากสถิติบน Chain ดังกล่าว ซึ่งพบว่าบน Blockchain Ethereum มีอัตราการซื้อขาย NFT ทั้งหมดมากกว่า 70% เป็นเหตุผลให้แพลตฟอร์ม Coral เลือกให้บริการบน Blockchain Ethereum ซึ่งมีความ Global Standard แทนการให้บริการบนระบบอื่น ๆ โดย ETH ERC-1155 เป็นมาตรฐานข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกและสามารถนำไปใช้ได้กับทั้ง Non-fungible token และ Fungible token 

  • COLLECT NFT IN 3 STEPS

แพลตฟอร์ม Coral จะทำให้การสร้างและการซื้อขาย NFT เป็นเรื่องง่ายเสมือนกับการชอปปิ้งออนไลน์ทั่วไป โดยสามารถการสแกนคิวอาร์เข้าไปที่เว็บไซต์ https://coralworld.co/ และทำการชำระเงินด้วยเงินบาท ซึ่งลูกค้า Coral จะสามารถซื้องานศิลปะ NFT ด้วยสกุลเงินทั่วไป (Local Currency) เช่น เงินบาทหรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ลูกค้าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องแลกเหรียญสกุลคริปโตเพื่อนำมาซื้องานศิลปะอีกที ซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยาก โดยทางแพลตฟอร์มรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวกสำหรับทุกคน (Payment Method) ทั้งระบบ Credit Card Debit Card QR Code และ Mobile Banking (K-Plus) 

  • Coral NFT Wall Offline Focus

Coral ได้ประกาศความร่วมมือกับองค์กรในไทย ซึ่งล่าสุดจับมือกับสยามพิวรรธน์ทำ NFT Innovation Digital Wall ในพื้นที่ของสยามพารากอนและไอคอนสยามให้สามารถชมงานศิลปะ NFT ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งทาง Coral ให้ความสำคัญกับเรื่อง Offline-Experience ที่ควบคู่ไปกับ Online-Experience ในทุกงานที่จัดขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเล่าเรื่องและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ที่สนใจที่ใกล้ชิดมากขึ้นด้วย 

ล่าสุดในเดือนมีนาคม 2565 Coral เป็นผู้จัดงาน “Thailand Digital Arts Festival 2022” หรือ TDAF2022 งานแสดงศิลปะดิจิทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียเป็นครั้งแรก สร้างปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่กับการพลิกโฉมวงการศิลปะไทย โดย Coral รวบรวมทั้งศิลปินชั้นนำทุกแขนง ตั้งแต่ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชั้นเยี่ยม ศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ ดาวรุ่ง และศิลปินมืออาชีพ รวมถึงผู้มีชื่อเสียงและอินฟลูเอนเซอร์ร่วมงานเปิดตัว พร้อมด้วยมหกรรมงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยทำการควบรวมผลงานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง NFT ทำให้ผู้ซื้อจะได้รับผลงานศิลปะทั้งชิ้นงานจริงและงานศิลป์ที่ถูกแปลงเป็นไฟล์ดิจิทัล NFT บนแพลตฟอร์ม Coral 

คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “ความสำเร็จของ TDAF2022 เสมือนเป็นการจุดพลุให้กับอุตสาหกรรมดิจิทัลอาร์ต ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของวงการศิลปะทุกแขนงโดยการ Enable New Experience หรือ New Opportunity ให้กับศิลปินทุกท่าน" 

ภายในงานมีการพูดคุยถึงความร่วมมือเพื่อผลักดันงานศิลปะของไทยรวมถึงในเอเชียไปสู่ระดับโลก ได้รับเกียรติจากศิลปินมืออาชีพจำนวนมากกว่า 150 ท่าน มีความผสมผสานหลาย Generation ตั้งแต่ศิลปินรุ่นเก่าและศิลปินรุ่นใหม่และมีผลงานให้เลือกกว่า 1,000 ชิ้น โดย Coral สามารถพิสูจน์ได้ว่างานศิลปะของศิลปินจริงสามารถวางขายได้ในรูปแบบ NFT ที่มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านบาท มูลค่างานศิลปะบนแพลตฟอร์ม Coral มีราคาสูงหากเทียบกับที่อื่น โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 25,000-2,850,000 บาท 

คุณพอล ธนะเมศฐ์ เปิดเผยว่า “ในปัจจุบัน Coral NFT Marketplace คือตลาดซึ่งมีผลงานศิลปะ On-board เป็น Cross-Discipline อย่างแท้จริง เราได้ใกล้ชิดคนที่เป็นผู้ซื้อ เราเห็นว่าเขามองหาอะไร เราเอาตรงนั้นไปประยุกต์ในงานครั้งต่อ ๆ ไป คนที่เราเจอจะให้ความสำคัญมากกับผลงานและฝีมือศิลปิน ความหมายในภาพเหล่านั้น Message ของภาพที่สื่อความกับผู้ซื้อได้แบบ Personal และไม่เกี่ยงในเรื่องราคา ทำให้ Coral เข้าใจวิธีการในการจัดการนำเสนองานศิลปะและเข้าใจความต้องการของผู้ซื้อ เราได้ผลตอบรับที่ดี ภาพรวมมูลค่าผลงานศิลปะมีกระแสการตอบรับที่ดี และที่สำคัญคือทำให้ทราบถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่แท้จริง ”

‘Endless Capital’ กองทุนเพื่อเทคโนโลยีและธุรกิจแห่งอนาคต

‘Endless Capital’ กองทุนที่มุ่งเป้าสนับสนุนการลงทุนใน Startup ระดับ seed และ Series - A ซึ่งจะลงทุนในเทคโนโลยี Web 3.0, Blockchain และบริษัท Startup ที่ดำเนินการเกี่ยวกับ Metaverse จากทั่วโลก ภายใต้การดูแลของคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูลผล ประธานบริหารกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) และคุณพอล ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder เป็น Investment Committee (IC) ประกาศเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2565 สำหรับ Endless Capital ซึ่งมีประสบการณ์ในการเป็น VC, Angel Investor และ Entrepreneur ในการพิจารณาคัดเลือกโครงการหรือองค์กรที่เหมาะสมที่จะลงทุน คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “เราเป็น Angel Investment กองทุนจะมี Partnership Built-in ที่จะร่วมพัฒนาการใช้งานและเข้ามาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ สำหรับผู้ลงทุนรวมถึง Startup ที่ต้องการ Strategic Partners ที่มี Footprint และมาตรฐานการทำงานในระดับภูมิภาค ไม่ต้องกังวลเรื่องการหา Partnership”

ก้าวต่อไปของ KX และ Coral 

คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “ในปัจจุบัน KX มีโครงการที่อยู่ในช่วง Incubate จำนวนมาก อะไรที่เราปล่อยออกมาแล้ว ก็จะใช้พลังเต็มที่ในการผลักดันให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ลดความเสี่ยงและทำงานกับพาร์ทเนอร์ให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ KX โฟกัส Coral NFT Marketplace ล่าสุด Coral ก็ได้ประกาศความร่วมมือกับสภากาชาติไทย จัดตั้งกองทุนฉุกเฉิน Response Disaster และได้รับเกียรติจัดตั้ง Foundational Artist จากทางสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บน Platform เพื่อทำเป็นแคมเปญในการรับบริจาค ระดมทุน และช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเมื่อเกิดวิกฤตขึ้น” 

  • ‘Trust’  จากศิลปินและผู้ใช้งาน

เป้าหมายของ Coral คือ ความไว้วางใจจากศิลปินและนักสร้างสรรค์ทุกท่านที่อยู่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของ KX  ‘Building Trust in the Trustless World’ คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “ต้องการทำให้พลังของ Defi มาอยู่ในมือคนได้ ให้คนมาใช้ Product & Service ของธุรกิจที่ KX สร้างและในมุมของ Coral ต้องการการฟีดแบคจากศิลปินที่อยู่กับ Coral ในการมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้มีรายได้เสริม มีชื่อเสียงมากขึ้น สามารถโกอินเตอร์ได้” 

Coral ตั้งเป้าให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนศิลปินในไทยอย่างจริงจัง โดยการขยายการเข้าถึงให้ครอบคลุมทั้งประเทศ และรองรับการใช้งานสำหรับทุกศิลปิน ปัจจุบันมีศิลปินไทยวางแสดงผลงาน On-broad ประมาณ 150 กว่าคน ประกอบด้วยไฟล์ภาพและไฟล์วิดิโอจำนวนกว่า 1,000 ชิ้น ในฝั่ง Visitor เป็นผู้ซื้อจากไทย 80% และต่างประเทศ 20% นอกจากนี้กำลังวางแผนเพิ่มสัดส่วนผู้ซื้อจากต่างประเทศ ผ่าน Online Campaign ให้กับศิลปินบนแพลตฟอร์มเพื่อให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศได้ และการสร้าง Coral Community เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานทั้งสองฝั่งทั้ง ผู้ซื้อและศิลปิน โดยตั้งเป้าผู้ซื้อภายในภูมิภาค 80% และในไทย 20%  เมื่อเทียบสัดส่วนตลาดงาน NFT ทั้ง Crypto/Non-Crypto ในไทยซึ่งมีน้อยมาก จึงมีเป้าหมายว่าในช่วงเริ่มต้น Community-Based Campaign จะสามารถสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มการรับรู้จากได้มากขึ้นจากต่างประเทศ 

สำหรับส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายของศิลปิน จะมีค่าใช้จ่าย 3 ส่วน คือ ค่ามินท์ผลงานศิลปะบน Ethereum Network โดยมีอัตราอยู่ที่ 8,000-10,000 บาท ณ ปัจจุบันนี้ค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์ม 10% และ ค่าธรรมเนียมของ Payment Gateway 2.5% โดยทาง Coral ใช้วิธี Lazy Minting หรือการเสียค่าธรรมเนียมดังกล่าวเมื่อผลงานถูกซื้อเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้ก้าวต่อไป คือ ความสามารถที่จะขายงานได้ถูกลง และเข้าถึงคนจำนวนมากได้มากขึ้น 

  • Beyond Finance 

วิสัยทัศน์ในการพัฒนาธุรกิจที่เป็น Beyond Finance คือ การโฟกัสในเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือแค่บริการทางการเงิน ยกตัวอย่างอันแรก คือ งานศิลปะ คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “จากการเปิดตัว Coral NFT Marketplace เป็นสิ่งแรก ๆ จะเห็นว่าศักยภาพในการสร้างทรัพย์สินโลกดิจิทัล เรื่องการเงินจะมาสนับสนุนทีหลังเป็น Supporting Business ในโลกปกติของเรา ธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นแค่องค์กรที่สนับสนุน Finance เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการ Trading & Manufacturing การที่เกิดการซื้อขายและเกิดเศรษฐกิจตามมาก นอกจากนี้ KX และ Coral ยังมี Innovation ที่รอการออกมาปรับใช้เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่บริการด้านการเงินอีกจำนวนมาก จุดมุ่งหมายของเราคือ การ Empower และแก้ปัญหาเพื่อเปิดโอกาสให้กับคนจำนวนมหาศาล”

สำหรับภาพรวมทิศทางหลังจากนี้ คุณพอล ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า “ตลาดงานศิลปะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีอีกเยอะมากที่ยัง Unlock อยู่จำนวนมาก ศิลปินมีความเชื่อในผลงานและแพลตฟอร์ม ทั้งอุตสาหกรรม NFT พึ่งเป็นกระแสเติบโตครึ่งหลังที่ผ่านมา เชื่อว่าตลาดจะโตอย่างรวดเร็วและใหญ่ขึ้นมากมายมหาศาล โดยธรรมชาติของทุกอุตสาหกรรม จะมีการ Re-Standard เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าธุรกิจใดจะประสบความสำเร็จ และจะเหลือ Player อยู่ไม่กี่ราย ตัวศิลปินเองจะสามารถกำหนดแนวทางให้ตัวเองได้มากขึ้น รู้อะไรเหมาะกับเขาเช่นเดียวกัน เราจะได้เห็น Use Cases ใหม่ ๆ จำนวนมาก และจะมีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้น”  

 

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AI จะเป็น ‘ผู้กอบกู้’ หรือ ‘ผู้ทำลาย’ การ์ตูนญี่ปุ่น

เมื่อประตูสู่วัฒนธรรมและเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอย่าง อนิเมะและมังงะกำลังถูก AI แทรกแซง อนาคตของวงการนี้จะเป็นยังไง ?...

Responsive image

เจาะลึกเทรนด์ Spatial Computing จุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับองค์กรยุคใหม่

Spatial Computing คือเทคโนโลยีที่ผสานโลกเสมือนจริงและโลกจริงเข้าด้วยกัน ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัล ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการฝึกอบรมและ...

Responsive image

ถอดกลยุทธ์ ‘ttb spark academy’ ปั้น Intern เพิ่มคนสายเทคและดาต้า Co-create การศึกษาคู่การทำงานจริง

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เห็น Pain Point ว่าประเทศไทยขาดกำลังคนด้านดิจิทัล (Digital Workforce) และธนาคารก็ต้องการคนเก่ง Tech & Data จึงจัดตั้ง ‘ttb spark academy’ เพื่อปั้น ...