มีการคาดการณ์ว่าตลาด E-Commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถเติบโตจนมีมูลค่าถึง 240,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2568 และมีผู้ขายเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่มีความรู้ ทักษะ และเครื่องมือเพียงพอที่จะแข่งขันได้ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ โซลูชั่น และการพัฒนาทางด้านออนไลน์ ซึ่งต่างมีความสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจ และจะช่วยผลักดันให้แบรนด์สามารถให้สร้างยอดขายและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในธุรกิจ E-Commerce
วันนี้ที่งาน LazMall Brands Future Forum ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ประเทศสิงคโปร์ Lazada ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ "Super-Solutions" เพื่อสร้างแบรนด์บนแพลตฟอร์มทั้งรายเล็กและรายใหญ่ สู่การเป็น "Super eBusiness" หรือสุดยอดธุรกิจออนไลน์ เติบโตสู่ตลาดในภูมิภาคได้
โดย “Super-Solutions” จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาหลัก 3 ประการที่แบรนด์และผู้ขายมักประสบในการทำธุรกิจออนไลน์ ได้แก่ การสร้างแบรนดิ้ง (Branding) การทำการตลาด (Marketing) และการขาย (Sales) โดยจะเริ่มมีการประกาศใช้ในเดือนมีนาคมนี้ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 7 ปี ของ Lazada
มร. ปิแอร์ ปัวยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า “ไม่มีผู้ขายรายใดที่เล็กเกินไปที่จะเติบโต และไม่มีแบรนด์ใดที่ใหญ่เกินสำหรับการเป็นสุดยอดธุรกิจออนไลน์ (Super eBusiness) คือแนวคิดสำคัญที่ทำให้ Lazada เปิดตัว “Super-Solutions” เพื่อผลักดันแบรนด์และผู้ขายบนแพลทฟอร์มของเราให้สามารถดำเนินธุรกิจออนไลน์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย และเพิ่มจำนวนได้มากยิ่งขึ้น”
แบรนด์และผู้ขายบน LazMall สามารถเข้าร่วมแคมเปญ ‘Super’ ใดก็ได้จาก 4 ซีรี่ย์ เพื่อส่งเสริมการขายและพัฒนาการสื่อสารกับลูกค้าผ่านวิธีต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้ Super Brand Day ซึ่งเป็นวันลดกระหน่ำของแบรนด์นั้น และเป็นการโปรโมทแบรนด์ของตัวเองได้ด้วย
หากผู้ขายเป็นแบรนด์ใหม่ก็สามารถเข้าร่วม Super Grand Opening เพื่อเปิดตัวแบรนด์ใหม่บน Lazada ส่วนงาน “Super Category Festival” และ “Super Category Day” นั้น เป็นงานช้อปปิ้งที่แบรนด์และผู้ขายสามารถแสดงความเป็นผู้นำของตนได้ แบรนด์และผู้ขายบนลาซมอลล์ยังสามารถใช้เทคโนโลยี 360 องศา ซึ่งเป็นข้อมูล และความเชี่ยวชาญทางการตลาดและการขนส่งชั้นเยี่ยมของลาซาด้าระหว่างงาน Super-series ได้ทั้งหมด เพื่อช่วยวางแผนและจัดกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand awareness) และยอดขายได้ด้วยเช่นกัน
Lazada สนับสนุนให้แบรนด์และผู้ขายสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงผ่านการใช้ Customised Marketing การตลาดแบบมุ่งเฉพาะกลุ่มลูกค้า โดยส่งมอบเครื่องมือต่างๆ อาทิ Business Advisor Dashboard เรียลไทม์ที่สามารถแสดงข้อมูลล่าสุดเพื่อให้แบรนด์และผู้ขายนำไปใช้ในการตัดสินใจวางแผนเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมหน้าร้าน ทำให้นักช้อปเห็นผลิตภัณฑ์ของพวกเขามากขึ้น และผู้ขายเองสามารถเลือกสรรโปรโมชั่นที่เหมาะสม ตอบโจทย์ลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มยอดขายได้
แบรนด์สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งบนแพลตฟอร์มเพื่อชนะใจลูกค้า ด้วยการใช้ Decorator ที่ทันสมัยมากกว่าเดิม โดยแบรนด์และผู้ขายสามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ร่วมด้วย อาทิ การค้นหาด้วยรูปภาพ (Image Search) การไลฟ์สตรีม (live streaming) บนแอปพลิเคชัน Lazada และการปรับ Banner ร้านให้มีความเฉพาะตัว (Personalize) มากขึ้น
นอกจากนี้ Lazada ได้นำ big data มาใช้ช่วยแบรนด์และผู้ขายจัดลำดับความสำคัญของสินค้าหน้าร้าน พร้อมทั้งนำเสนอโปรโมชั่นผ่านการค้นหาได้ การเปิดตัวเครื่องมือแบบโซเชียลสำหรับแสดงความคิดเห็นระหว่างการไลฟ์สตรีม และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่านกิจกรรมในแอปพลิเคชัน อาทิ เกม เพื่อให้แบรนด์และผู้ขายสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ที่งาน Lazada ได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ 12 บริษัทชั้นนำด้านไลฟ์สไตล์ เทคโนโลยี และแฟชั่น เพื่อแสดงถึงความร่วมมือและทำให้การค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทดังกล่าวแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปในลักษณะของพันธมิตรทางธุรกิจ (JBP) เพื่อทำให้ แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงโครงสร้างเทคโนโลยีและการขนส่งชั้นนำ รวมไปถึงนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้าน E-Commerce ของ Lazada ขณะนี้ Lazada ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงและความร่วมมือ (MOU) กับแบรนด์ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Realme และ Coocaa แล้วส่วนแบรนด์ Huawei ได้มีการลงนามความร่วมมือไปแล้วก่อนหน้านี้ และยังมีแผนที่จะลงนามความร่วมมือกับแบรนด์ FMCG ชั้นนำอีกหลายหลายแบรนด์ในอนาคตข้างหน้า
ด้าน มร. จิง ยิน (Jing Yin) ประธานกรรมการ ของ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า "ตั้งแต่มีการเปิดตัว LazMall ในปี พ.ศ. 2561 Lazada ได้เห็นแบรนด์คู่ค้ารายแรกๆ ของเราเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงต้องการมอบสิทธิประโยชน์ของ LazMall นี้ให้กับแบรนด์และผู้ขายรายอื่นๆด้วย เพราะต้องการบ่มเพาะให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับ Lazada อย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จในฐานะธุรกิจออนไลน์”
โดยกลุ่มผู้ประกอบ SMEs ประมาณ 60% ในภูมิภาคนี้ มีความตั้งใจที่จะลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนท่ามกลางเศรษฐกิจดิจิทัลในยุคปัจจุบัน เครื่องมือทางธุรกิจ อาทิเช่น โซลูชันการค้าออนไลน์ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) ได้รับการบ่งชี้ว่าเป็นการลงทุนที่ควรค่าแก่การลงทุนเป็นอันดับต้นๆ
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาความเป็นเลิศด้าน E-Commerce Lazada ยังได้มอบรางวัลให้กับแบรนด์ที่สามารถดำเนินงานได้ดีเยี่ยม เพื่อแสดงความยินดีและชื่นชมในด้านความคิดสร้างสรรค์และการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมของแบรนด์และผู้ขาย โดยได้มอบรางวัลทั้งหมด 5 รางวัลให้กับแบรนด์ที่มีความโดดเด่นด้านการสร้างสรรค์วิธีการใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้า ซึ่งมีทั้งแบรนด์ระดับนานาชาติและแบรนด์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ Unilever (นวัตกรรมด้านการตลาดยอดเยี่ยม) Pampers (กิจกรรมทางโซเชียลมีเดียยอดเยี่ยม) Coocaa (แบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุด) Phillips (แบรนด์ขวัญใจลูกค้า) และ Wardah (เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม)
ทั้งนี้ Lazada ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม E-Commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปอีกขั้นด้วยการนำความบันเทิงเต็มรูปแบบสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shoppertainment) เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบอินเทอร์แรคทีฟ และในโอกาสรเฉลิมฉลองครบรอบ 7 ปีของลาซาด้าด้วยการจัดคอนเสิร์ต “Super Party’ ที่ไม่เหมือนใคร ในวันที่ 26 มีนาคม 2562 เวลา 18.00 น. ณ กรุงจาการ์ต้า โดยจะได้พบกับไลฟ์คอนเสิร์ตของนักร้องสาวสุดฮอตแห่งยุค Dua Lipa เจ้าของรางวัลแกรมมี่และบริทอวอร์ดส์ ขณะเดียวกันวันฉลองครบรอบของ Lazada ในวันที่ 27 มหกรรมลดราคาตลอดวัน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด