Machine Learning จะเข้ามาช่วยบรรดาผู้จัดการบริษัท "จัดการคน" ได้อย่างไร | Techsauce

Machine Learning จะเข้ามาช่วยบรรดาผู้จัดการบริษัท "จัดการคน" ได้อย่างไร

ปัจจุบัน Machine Learning เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น ในหลายธุรกิจและภาคส่วนต่างๆ  ความจริงแล้ว ในปี 2016 บริษัทที่เน้นด้าน AI กว่า 200 บริษัท ได้ขอเงินทุนซึ่งมีมูลค่าเกือบ 1.5 พันล้านเหรียญฯ และจำนวนหุ้นส่วนในสตาร์ทอัพ ด้าน AI ได้เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า จากประมาณ 70 ในปี 2011 เป็น 400 ในปี 2015

machine-learning-smart-brain-wallpaper-768x480

บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Google, Microsoft และ Amazon ได้เริ่มสร้างเครื่องมือ Machine Learning สำหรับจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่และรู้แพทเทิร์นของมันแล้ว แต่ยังมีศาสตร์แขนงหนึ่งที่ Machine Learning ยังไม่เคยเข้าไปมีบทบาท และเชื่อว่ามันมีความสามารถที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำงานรูปแบบเดิมๆ ได้ นั่นก็คือ การจัดการคนหรือ People Management นั่นเอง ในความเป็นจริง 55% ขององค์กรทั้งหมดยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลด้าน HR เพื่อที่จะทำนายประสิทธิภาพและพัฒนาการในการทำงาน

โดยเฉพาะเมื่อหลายๆ บริษัทเริ่มปรับตัวเข้ากับคลื่นลูกใหม่ของ Machine Learning คงใช้เวลาอีกไม่นานที่จะใช้ประโยชน์จากมันเพื่อพัฒนาระบบการจัดการคนที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยประโยชน์ของ Machine Learning มี 2 ด้าน ด้านแรก Machine Learning มีความสามารถในการจัดการอคติในที่ทำงานได้อย่างแท้จริง และด้านที่สองคือ มันสามารถช่วยผู้จัดการในการให้ Feedback แก่พนักงานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ สิ่งเหล่านี้สามารถรักษาวัฒนธรรมองค์กรและรักษาพนักงานดีๆ ไว้ในบริษัทได้เช่นเดียวกัน

ปัญหาด้านการจัดการคนในปัจจุบัน

ผู้บริหารมากกว่าครึ่งในปัจจุบัน เชื่อว่าการบริหารผลการปฏิบัติงานหรือ Performance Management ในบริษัทยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยผลักดันประสิทธิภาพการทำงานและความมีส่วนร่วมของพนักงานได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้จัดการมักรายงานว่า มีความแปรปรวนในคะแนนด้านความมีส่วนร่วมของพนักงานอย่างน้อย 70% ในแต่ละหน่วยธุรกิจ  และมีพนักงานเพียง 30% ในอเมริกาที่มีส่วนร่วมในบริษัท ซึ่งสิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการจัดการที่แย่ และการลาออกของพนักงานได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นอคติด้านเพศ อายุ การเลือกที่รักมักที่ชัง และอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในที่ทำงาน ปีที่แล้วมีรายงานว่า บริษัทต้องพยายามรักษาพนักงานเพศหญิงไว้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 56% ของผู้หญิงที่ทำงานด้านการคำนวณและคอมพิวเตอร์จะออกจากงานตอนเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาอยู่ในระดับกลาง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงมีส่วนร่วมน้อยกว่าผู้ชายถึง 20% ในการให้ Feedback เพื่อจะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

ไม่มีอดคติ จึงสร้างระบบการจัดการคนที่ดีขึ้นได้

ด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ในปัจจุบัน บริษัทสามารถมั่นใจได้ว่า อคติในที่ทำงาน (ไม่ว่าจะโดยพันธุกรรมหรือเพราะมีจุดประสงค์บางอย่างก็ตาม) จะถูกกำจัดไป Machine Learning จึงได้รับโอกาสที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบการจัดการคน หรือ HR บริษัทอย่าง Accenture, SAP และ Deloitte ที่ได้เข้าซื้อระบบบริหารผลการปฏิบัติงานที่มีระบบให้คะแนน (Rating) และจัดอันดับ (Ranking) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เก็บข้อมูลของพนักงานอย่างโปร่งใส เป็นโอกาสที่ดีในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีเพื่อประเมินพนักงานอย่างถูกต้อง และให้พนักงานเห็นภาพอย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนงานได้ ด้วยข้อมูลระดับนี้ จะทำให้ Machine Learning สามารถเปลี่ยนผู้จัดการ เป็นผู้ฝึกสอนมือโปรได้ทันที

สภาพแวดล้อมการทำงานในปัจจุบัน ผู้จัดการแทบไม่สนใจด้านการฝึกสอนพนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Feedback และการเรียนรู้จะมีประสิทธิภาพได้มากที่สุดก็เมื่อผู้จัดการทำการสอน (Coaching) และให้คำแนะนำในทันทีด้วยเนื้อหาที่เจาะจงและเหมาะสม ไม่ใช่รอถึงสิ้นปีค่อยมา Feedback จนทำให้เกิดความลำเอียงมากมาย โดยเฉพาะกับพนักงานได้คะแนนประเมินดีๆ หรือพนักงานที่มีคนรักคนชอบมากๆ ซึ่งแทนที่จะปล่อยให้ผู้จัดการเกิดความลำเอียง ก็สามารถใช้เครื่องมือ Machine Learning เก็บข้อมูลการทำงานของพนักงานในขณะนั้นๆ ทำให้ผู้จัดการสามารถนำข้อมูลมาประเมินไปพร้อมกันเลย โดยไม่ว่าจะวิจารณ์ หรือชมเชยก็จะอ้างอิงจากข้อมูลที่ถูกต้องและได้การรับรองโดยปราศจากอคติใดๆ

advanced-dip-of-gov-workplace-insp

Machine Learning สามารถช่วยมนุษย์ให้เป็นผู้จัดการที่ดีได้ โดยลดอคติของผู้จัดการที่อาจเกิดขึ้น Machine Learning จะนำมาใช้ในการบันทึกผลการปฏิบัติงานของพนักงาน และจะเป็นข้อมูลจริงที่ไม่อาจจะโต้แย้ง จากการนำข้อดีด้านการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของระบบนี้มาใช้ ผู้จัดการจะสามารถจำและประเมินได้ง่ายขึ้นว่าพนักงานคนไหนน่าจะทำงานสำเร็จมากกว่า รวมถึงสามารถให้ Feedback กับพนักงานได้โดยปราศจากความคิดเห็นส่วนตัว

จากความสามารถดังกล่าว Machine Learning สามารถเปลี่ยนสภาพที่ทำงานให้พนักงานทุกคนมาทำงานแล้วรู้สึกมีส่วนร่วมกับองค์กรได้โดยไม่ว่าจะเป็นเพศใด เชื้อชาติหรืออายุเท่าไร พนักงานก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอคติส่วนตัวของผู้จัดการอีกต่อไป พนักงานจึงสามารถสนใจแค่การทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายและพัฒนาการทำงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่  ในทางกลับกัน ผู้จัดการก็ควรจะเน้นด้านการให้ Feedback เพื่อจะช่วยพนักงานให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วย  การจัดการคนจำเป็นจะต้องก้าวตามยุคดิจิตอลให้ทัน ซึ่งเทคโนโลยี Machine Learning นี่เองคือตัวช่วยที่ดีอย่างยิ่งในขณะนี้

ที่มา: Venturebeat.com

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จัก Physical AI เอไอยุคใหม่ที่ Jensen Huang กล่าวถึงคืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ?

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงาน CES 2025 คือการที่ Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้มีการพูดถึงยุคต่อไปของ AI นั่นก็คือ ‘Physical AI’ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญยิ่งที่ AI กำลังจะเข...

Responsive image

4 เทรนด์เทคโนโลยีสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนโลกจาก CES 2025

สำรวจเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุดจาก CES 2025 ตั้งแต่ AI อัจฉริยะ ยานยนต์ล้ำสมัย ไปจนถึงการพัฒนาชิปกราฟิกและเทคโนโลยีหน้าจอแห่งอนาคตที่เปลี่ยนโฉมการใช้ชีวิตประจำวัน!...

Responsive image

เปิดตัว ‘รถบินแยกร่าง’ XPeng ผสมเครื่องบินกับรถตู้ รุ่น Land Aircraft Carrier ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท

XPeng Aero HT เปิดตัว Land Aircraft Carrier รถบินได้แบบแยกร่างสุดล้ำที่ CES 2025 พร้อม eVTOL พับเก็บได้ ใช้งานง่าย ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท วางแผนผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2026...