“ในยุคที่ผู้ฟังกำลังเปลี่ยนแปลงไป การสื่อสารยุคใหม่จึงต้องปรับตัวตาม”
บทความนี้ Techsauce มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน Marketing Insight Conference 2024 และเข้าฟังใน Session ของ ‘เทรนด์ Marketing Communication ในอนาคต’ โดยคุณสุธีรพันธุ์ สักรวัตร ผู้บริหารทีมการตลาด SCBX และคุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ ผู้บริหารอาวุโสระดับสูง Dentsu ได้ร่วมแชร์มุมมองสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารในอนาคต พร้อมให้แนวทางในการปรับตัวสำหรับแบรนด์ยุคใหม่
แบรนด์ในอนาคตต้องปรับตัวเร็วและตอบสนองไวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา AI และ Machine Learning จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการปฏิสัมพันธ์ที่แม่นยำกับลูกค้า รวมถึงการตัดสินใจที่ต้องรวดเร็วและชัดเจน ลดการประชุมที่ยืดยาวและไม่จำเป็น
‘การรอ’ ไม่ใช่สิ่งที่คนยุคใหม่ต้องการ เพราะผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเปิดรับเทคโนโลยีมากขึ้น และ AI ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แบรนด์ต้องปรับบริการให้เข้ากับความสะดวกสบายนี้ เช่น การใช้ Chatbot ตอบคำถามและให้ข้อมูลได้ในทันที
Consumer Eccentricity หรือผู้บริโภคยุคใหม่มีความ "กลายพันธุ์" มากขึ้น หมายความว่า พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ไม่เหมือนเดิม พวกเขามีความซับซ้อนและมีความต้องการหลากหลาย แบรนด์ไม่สามารถเป็นแค่ผู้ส่งสารอีกต่อไป แต่ต้องฟังและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคในแบบสองทาง ผู้บริโภคอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์
มีการพูดถึง Gen Beta ซึ่งเป็นคนที่เติบโตมาในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาคุ้นเคยกับการใช้หุ่นยนต์และ AI และกำลังจะกลายมาเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ของแบรนด์ในอนาคต
เราจะเรียกพวกเขาว่า AI-Empowered Consumer คนกลุ่มนี้มีความต้องการและคาดหวังที่ซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาได้รับข้อมูลและประสบการณ์ที่รวดเร็วและแม่นยำจาก AI และผู้บริโภคกลุ่มนี้มักไม่ชอบรอ ดังนั้นแบรนด์จึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้ AI ของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ทันท่วงที
ด้านคุณสุธีรพันธุ์ และคุณโอลิเวอร์ ชี้ว่า การสร้าง Conversation ที่โดนใจต้องอาศัยการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติ จริงใจ และสร้างรอยยิ้มเล็กๆ ได้ แบรนด์ที่เข้าใจจังหวะจะโคนของการสื่อสาร และถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนุกสนานจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้บริโภคและกลายเป็นที่จดจำได้ในระยะยาว
และได้แนะนำกลยุทธ์หลักทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่
คนฟังสมัยนี้เซียนเรื่องแยกแยะอะไรจริงอะไรปลอม ดังนั้น ความจริงใจคือหัวใจสำคัญ แบรนด์ต้องพูดจากใจ ไม่ใช่แค่สร้างภาพ เพราะผู้บริโภครู้ได้ทันทีเมื่อแบรนด์ทำอะไรที่ไม่เป็นธรรมชาติ และอย่าลืมว่า การสื่อสารที่เปิดเผย จริงใจ และไม่เสแสร้ง จะช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้ยั่งยืน
การใช้มุกตลกช่วยให้แบรนด์ดูเข้าถึงง่ายขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้ไปกระทบจุดอ่อนไหว มุกตลกที่พอดีและสร้างรอยยิ้มเบาๆ จะช่วยสร้างความประทับใจได้ดีกว่า รวมถึงการสื่อสารที่มีความตลกแบบพอประมาณ สนุกแบบไม่เกินขอบเขต คือเป็นสูตรลับที่ทำให้แบรนด์ดูเป็นกันเองและมัดใจผู้บริโภคได้
การทำตัวให้ดูสมบูรณ์แบบตลอดเวลาอาจทำให้แบรนด์ดูเข้าถึงยาก จริงๆ แล้วบางครั้งการเปิดเผย ความไม่สมบูรณ์แบบ กลับทำให้แบรนด์ดูน่ารักและมีเสน่ห์มากกว่า การยอมรับข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ บางครั้งทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์เป็น "มนุษย์" ไม่ใช่เครื่องจักร จุดนี้นี่แหละที่จะสร้างการเชื่อมต่อแบบอบอุ่นและยืนยาว
สรุปแล้ว เทรนด์การสื่อสารการตลาดในอนาคตไม่ได้แค่เน้นความเร็วและเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคที่ลึกซึ้งและจริงใจมากขึ้นอีกด้วย ในยุคที่ผู้ฟังกำลังเปลี่ยนไป การสื่อสารยุคใหม่ต้องให้เกียรติผู้ฟัง เพราะคนฟังรู้ว่าอะไรปลอม
แบรนด์ที่สามารถสร้างการสนทนาแบบธรรมชาติ และตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนของผู้บริโภคได้อย่างจริงใจ จะกลายเป็นผู้ชนะในสนามแห่งการตลาดยุคดิจิทัล
ข้อมูลจากงาน Marketing Insight Conference 2024
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด