AI และ IoT เทรนด์สำคัญที่จะเชื่อมเกาะเล็กๆ อย่างไต้หวันขยายไปสู่ตลาดโลก | Techsauce

AI และ IoT เทรนด์สำคัญที่จะเชื่อมเกาะเล็กๆ อย่างไต้หวันขยายไปสู่ตลาดโลก

  • ผู้ประกอบการรุ่นใหม่, การสนับสนุนของรัฐบาล และเทรนด์ธุรกิจต่างชาติที่เข้าไปในไต้หวัน คือ 3 ปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในวงการ startup ของไต้หวันในทุกวันนี้
  • จุดแข็งด้านทักษะเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้าง startup ในไต้หวัน โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI และ IoT ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไต้หวันเห็นถึงศักยภาพในการแข่งขัน และให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ
  • ไต้หวันตระหนักว่าตัวเองมีตลาดขนาดเล็ก จึงจำเป็นต้องเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาส สิ่งสำคัญที่จะดึงดูดให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาในตลาดไต้หวันคือจุดแข็งด้านบุคลากรที่เป็น tech talent
  • ขณะที่ Startup ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ ไปจนถึง E-commerce ก็เป็นเทรนด์ที่ดีในไต้หวัน เพราะคนไต้หวันมีนิสัยในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นทิศทางที่ทางรัฐบาลไต้หวันเองต้องการจะบุกตลาด SEA ด้วยเช่นเดียวกัน

Techsauce ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Meet Taipei Startup Festival 2018 ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้เรียนรู้วงการ startup ในไต้หวันซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของบุคลากรที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี และเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ดีเอ็นเอแบบนี้จะส่งผลต่อเทรนด์ธุรกิจ startup ในไต้หวันอย่างไร เรามาฟังจากคำบอกเล่าของ Katie Chen Founder & CEO จาก Business Next Media Group ผู้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง startup community ในไต้หวัน รวมถึงการเป็น organizer ของงาน Meet Taipei อีกด้วย

ภาพรวมของ startup ไต้หวันในปัจจุบัน

ด้วยความที่ Meet Taipei เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนวงการ startup ในไต้หวันมากว่า 5 ปีแล้ว ผ่านมุมมองของผู้จัดงานที่จะมาแชร์ให้ฟัง น่าจะฉายให้เห็นภาพรวมของ startup ecosystem ของไต้หวันในปัจจุบันอย่างครอบคลุม

Katie Chen Founder & CEO จาก Business Next Media Group

“ปัจจุบันนี้มี 3 ปัจจัยที่สำคัญใน startup ecosystem ของไต้หวัน ปัจจัยแรกคือตัวผู้ประกอบการ ผลวิจัยบอกว่าคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเรียนจบกว่า 70% อยากจะเริ่มธุรกิจของตัวเอง ปัจจัยถัดมาคือรัฐบาลไต้หวันที่มีความตั้งใจจะผลักดันให้ startup เติบโต สุดท้ายคือเทรนด์ของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาอยู่ใน ecosystem ของไต้หวันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันไต้หวันมีความเป็น global market มากขึ้น”

ตลอดทั้งงานเราจะได้เห็นบูธของ startup จากนานาประเทศกว่า 100 บูธ และกว่า 300 บูธ ที่เป็น startup ของไต้หวันเอง ซึ่งก็แบ่งออกเป็น 6 ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสำหรับไต้หวันเองถือว่ามีศักยภาพในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมาช้านาน เทรนด์ของ startup ในไต้หวันเองก็ดูจะได้รับอิทธิพลมาจากจุดแข็งซึ่งธุรกิจยุคก่อนหน้าได้บุกเบิกไว้ไม่น้อย รวมไปถึงพฤติกรรมของคนไต้หวันเองที่สอดรับกับยุคสมัยของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

นอกเหนือจากภาคธุรกิจ ก็มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในเรื่องของความโปร่งใสของรัฐบาล โดยรัฐมนตรีดิจิทัล Audrey Tang

“มีสามอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองสำหรับ startup ไต้หวัน อันแรกคือ AI และ IoT เพราะไต้หวันมีจุดแข็งในเรื่องนี้มานานแล้ว รัฐบาลไต้หวันลงทุนใน AI และ IoT ค่อนข้างมาก เพราะมองเห็นถึงศักยภาพในตลาดที่มากกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อันที่สองคือ FinTech และสุดท้ายคือ startup ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ สำหรับผู้บริโภคทั่วไป หรือ E-commerce ถึงแม้ว่าตลาดในไต้หวันจะไม่ได้ใหญ่มากด้วยจำนวนประชากร แต่คนไต้หวันค่อนข้างมีความแอคทีฟในการที่จะเปิดรับเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน”

เทรนด์การใช้ AI มาใช้ในภาคธุรกิจต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่เห็นได้มากในงาน

ในส่วนของการสนับสนุนจากทาง VC เองก็มีทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ แต่บทบาทส่วนใหญ่ก็ยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่มีส่วนสำคัญมานาน

“VC ที่สำคัญในไต้หวันมีอยู่สองกลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกค่อนข้างจะเป็นผู้เล่นรายใหม่ ซึ่งเป็นทั้ง incubator และ accelerator อย่างเช่น Appwork อันที่สองคือ VC รายใหญ่ในตลาดอย่าง CDIB กลุ่มนี้ก็ยังเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีบทบาทมากใน startup ecosystem ณ ปัจจุบัน”

รัฐบาลไต้หวันลงทุนใน AI และ IoT ค่อนข้างมาก เพราะมองเห็นถึงศักยภาพในตลาดที่มากกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ

WeMo Scooter : บริการเช่า scooter ไฟฟ้าผ่านแอป สามารถเช่า scooter ที่อยู่ใกล้ที่สุด และจอดไว้ที่ปลายทางใดก็ได้

ด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่และจำนวนประชากร ตลาดที่เล็ก จึงต้องเชื่อมต่อเพื่อการขยายและพัฒนาตลาด

ที่นี่เต็มไปด้วย tech talent มี skill set ที่ยอดเยี่ยมด้านเทคโนโลยี ความสำคัญอีกเรื่องคือการที่มี complete supply chain ในด้านของ hardware ดังนั้นไต้หวันจึงมีปัจจัยที่เหมาะสำหรับการสร้างนวัตกรรมมากๆ

รัฐบาลไต้หวันเองมีความตระหนักถึงขนาดของตลาดภายในที่ไม่ใหญ่นัก เนื่องจากมีขนาดพื้นที่จำกัดและจำนวนประชากรไม่มากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ดังนั้นจึงมีความตั้งใจในการผลักดันการค้าระหว่างประเทศ มีการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีในการดึงดูดนักลงทุน และธุรกิจจากต่างชาติเข้ามาช่วยแลกเปลี่ยนและพัฒนาเศรษฐกิจไต้หวัน ซึ่งก็ยังมีข้อติดขัดบางอย่างที่เป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจต่างประเทศที่จะเข้าไปขยายในไต้หวัน

“รัฐบาลไต้หวันทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมสำหรับธุรกิจต่างชาติที่จะมาขยายที่นี่ แต่ในส่วนของอุปสรรคหลักๆ แล้วจะมีอยู่สองเรื่อง อย่างแรกเป็นปัญหาด้านความแตกต่างด้านวัฒนธรรม อย่างที่สองเป็นเรื่อง regulation”

“กระนั้นก็ดีไต้หวันก็ยังคงเหมาะกับการเข้ามาขยายธุรกิจสำหรับต่างชาติ เพราะที่นี่เต็มไปด้วย tech talent มี skill set ที่ยอดเยี่ยมด้านเทคโนโลยี ความสำคัญอีกเรื่องคือการที่มี complete supply chain ในด้านของ hardware ดังนั้นไต้หวันจึงมีปัจจัยที่เหมาะสำหรับการสร้างนวัตกรรมมากๆ ”

MemePR : Platform ที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สามารถ localized ไปยังตลาดต่างประเทศ

ทิศทางของรัฐบาลไต้หวันในการส่งเสริมเศรษฐกิจผ่าน startup

นอกเหนือจากอุปสรรคและโอกาสข้างต้น รัฐบาลไต้หวันก็มีแนวทางในการส่งเสริม startup ทั้งในและต่างประเทศดังต่อไปนี้

“สำหรับ startup ในไต้หวัน มี incubator จำนวนมากที่มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลเพื่อให้ startup สามารถตั้งไข่และเติบโตได้ อันที่สองเป็นในเรื่องของการปรับความยืดหยุ่นของ regulation เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจ startup ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้น”

“สำหรับ Startup ต่างประเทศ รัฐบาลจะให้ความสนใจในภาคธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI และ IoT ดังนั้นในส่วนนี้จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษ มีโครงการหรือโปรแกรมต่างๆ ที่ผลักดันขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจนี้เติบโต ขณะเดียวกันในการส่งออกนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน หรือ E-commerce ไปยังตลาดต่างประเทศตอนนี้ก็มีการโปรเจกต์ที่โฟกัสตลาด SEA อย่างในโปรเจกต์ที่เรียกว่า New Southbound Policy โดยประเทศไทยเองก็ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญ”

ท้ายที่สุดคือสิ่งที่ยังต้องพัฒนาต่อไปใน startup ecosystem ของไต้หวัน

“ข้อจำกัดคือไต้หวันเป็นรัฐที่ไม่ใหญ่ ตลาดจึงถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ดังนั้นไต้ควรทำตัวเป็นเหมือน hub ในการเชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆ และที่สำคัญอีกอย่างคือต้องพยายามผลักดันให้ startup ไต้หวันมี signature ที่ดังระดับโลก ผลักดันให้ประสบความสำเร็จในระดับ global มากขึ้น”

ว่ากันว่าแต่เดิมคนไต้หวันมักมีความเชื่อว่าเกาะเล็กๆ ที่ตั้งของพวกเขามีความสมบูรณ์โดยตัวมันเอง พวกเขาจึงมีความเพียบพร้อมโดยที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนหรือมีปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอก ทัศนคติแบบนี้ส่งอิทธิพลให้ผู้ประกอบการไต้หวันรุ่นก่อนๆ ไม่ได้มีความคิดที่เชื่อมโยงกับตลาดโลกนอกประเทศมากนัก แต่ในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีปฏิวัติพรมแดนแทบทุกอย่างให้เลือนหายไป เราได้เห็นความพยายามของวงการ startup ไต้หวันที่เปิดรับ แลกเปลี่ยน สร้างเครือข่ายทางธุรกิจและนวัตกรรมกับตลาดโลก น่าสนใจว่าจุดแข็งที่ต่อยอดมาจากความชำนาญทางเทคโนโลยีจะส่งผลต่อศักยภาพในการแข่งขัน และบทบาทของ startup ไต้หวันในตลาดโลกอย่างไร

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...