ปฏิเสธไม่ได้กับการเข้ามามีบทบาทของ AI ทั้งในชีวิตประจำวันของเรา และในส่วนของธุรกิจที่นำเอาเทคโนโลยีนี้เข้ามาเพื่อพัฒนาให้องค์กรมีความสามารถมากขึ้น พร้อมกับตอบรับกับความเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้น
ทั้งเรื่องของ Generative AI, Cybersecurity, Cloud และอื่น ๆ มีผลอย่างมากต่อองค์กรของไทย อย่างที่เราได้เห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ว่าองค์กรต่าง ๆ หันมาปรับ Transform ตัวเองไปสู่การเป็นองค์กรที่ดำเนินการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลก่อนการ Disrupt ในธุรกิจของตน
และไม่ใช่แต่เพียงองค์กรเอกชนเท่านั้น ทางรัฐบาลเองก็มีออกแบบ Roadmap สำหรับปรับใช้ AI พร้อมกับเดินหน้ายกระดับไปสู่การเป็น AI Hub แห่งอาเซียน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในไทย
ซึ่งที่ผ่านมาก็มีงานที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการจะเปลี่ยนธุรกิจด้วยการนำเอาเทคโนโลยีอัจฉริยะ อย่างงาน MFEC Inspire - Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage อีกหนึ่งความน่าสนใจในแวดวง AI, Data และ Cloud กับการเปิดตัว 3 Core Solutions สำหรับภาคธุรกิจในการ Transform และรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในโลกเทคโนโลยี
นอกจากโซลูชันที่น่าสนใจแล้ว ภายในงานยังมี AI Transformation Club เป็น Networking Club สำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนา AI แต่ยังมีทรัพยากรจำกัด ผ่านคำแนะนำและการรวบรวมความเชี่ยวชาญขององค์กรต่าง ๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยยกระดับความสามารถในการพัฒนา AI โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลง
และก่อนที่เราจะไปส่องความสำเร็จและโซลูชันที่น่าสนใจกับงาน MFEC Inspire - Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage เราจะพาไปทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของเทคโนโลยีอย่าง AI และ Cloud ในปัจจุบันที่สร้างผลกระทบต่อภาคธุรกิจของไทย พร้อมกับเปิดตัวยูนิตธุรกิจใหม่ของ MFEC และพันธมิตร อีกหนึ่งความสำเร็จที่ต่อยอดจากงาน MFEC Inspire ครั้งล่าสุด ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับให้กับธุรกิจ
ความนิยมในเทคโนโลยี AI กำลังเป็นที่น่าจับตามองในบ้านเรา อย่างที่เราเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ผู้คนใช้งาน AI กันผ่านสมาร์ทโฟน ใช้ในการช่วยทำงาน แปลภาษา ไปจนถึงการใช้งานกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมภายในบ้าน ในขณะที่ภาคส่วนธุรกิจก็หันมาปรับใช้ AI ในการดำเนินงานมากขึ้นโดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2024 นี้ ธุรกิจจะทำการ Transform ด้วยการนำเอา Generative AI มาปรับใช้งานมากขึ้น
ด้วยความต้องการในการสร้างกลยุทธ์ให้สามารถแข่งขันกันได้ในตลาดที่ปัจจุบันนี้มีการผลักดันทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจจึงต้องทำการ Transform ตัวเองทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการนำเอา AI มาใช้งาน พร้อมกับสนับสนุนให้พนักงานในองค์กรมี Mindset เพื่อเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและสามารถปรับเปลี่ยนทักษะของตัวเองได้
ตามเป้าหมายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES ได้กำหนดที่จะสร้างให้ประเทศไทยกลายเป็น AI Hub หรือศูนย์กลางด้าน AI แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2027 เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาร่วมลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี Cloud และ AI
เป้าหมายแรกของการเดินหน้าสู่การสร้าง AI Hub คือ นโยบาย “Cloud First” ที่จะโปรโมทให้ประชาชนหันมาใช้งานแพลตฟอร์ม Digital ID อย่างแอปพลิเคชัน ThaiD ที่ส่วนราชการหลายแห่งเริ่มให้ประชาชนใช้งานไปแล้ว ในขณะเดียวกันทางรัฐบาลก็จะผลักดันให้เกิด Tech Talents ด้าน AI มากขึ้น
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีกำหนดที่จะดำเนินแผนงานกลยุทธ์ด้าน AI ระดับชาติเฟส 2 ภายในปี 2024 นี้ โดยแผนงานดังกล่าวจะครอบคลุมการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2022-2027 ที่จะส่งเสริมให้กลุ่มธุรกิจและสังคมสามารถสร้างมูลค่าจาก AI ได้กว่า 48 ล้านบาทภายในปี 2027 และจะเร่งผลักดันให้ลำดับใน AI Readiness Index จากลำดับที่ 59 เมื่อปี 2021 ขึ้นมาเป็น Top 50 ในปี 2025
ถึงแม้ว่า เป้าหมายการเดินหน้าด้าน AI ของประเทศไทยจะมีแผนอย่างชัดเจนตั้งแต่ระดับองค์กร ไปจนถึงระดับชาติ แต่จากงาน MFEC Inspire - Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage โดย MFEC บนเวทีของคุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บิสซิเนส แอพพลิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจอย่าง การ Transform ขององค์กรจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ว่า
ประเทศไทยเสพ Tech จนกลายเป็นยาพิษ
คุณเล้งได้อธิบายประเด็นหลักที่ธุรกิจไทยก้าวผิดจนทำให้เกิดผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของต้นทุนการใช้งานเทคโนโลยีว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนด้าน IT เพิ่มขึ้นถึง 100% เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้ประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยเฟ้อสูงที่สุด เนื่องจากต้นทุนสูง ในขณะที่ GDP ยังคงต่ำ
เช่นเดียวกับการปรับตัวขององค์กรไปใช้บริการ On-Cloud ด้วยความหวังที่จะพัฒนาให้การทำงานสะดวก รวดเร็ว และลดต้นทุนการทำงานลง แต่ผลที่ออกมากลับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะต้นทุน On-Cloud ในปัจจุบันนั้นสูงกว่าการใช้ On-Premise เสียอีก
การปรับใช้ IT Infrastructure และเปลี่ยนการใช้งานมาเป็นระบบ Cloud จะเห็นว่า องค์กรต่างต้องรับเอาผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศเข้ามาใช้งานมากขึ้น แต่สิ่งที่น่ากังวลที่จะตามมาคือ การปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ยกตัวอย่างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์บางตัวปรับราคามากถึง 4 ครั้ง ทำให้ราคาสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 40% ในขณะที่บางบริการเคยมีการขายผลิตภัณฑ์แบบขายขาด หรือให้บริการแบบ Perpetual ก็ปรับมาเป็นให้บริการแบบ Subscription แทน การปรับขึ้นราคาเหล่านี้ ส่งผลให้องค์กรต้องเพิ่มต้นทุนอีกกว่า 200-300%
และตัวละครสำคัญอย่าง Generative AI ที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ต้องคอยจับตาเรื่องต้นทุนการใช้งาน เนื่องจากกระบวนการของ AI ทั้งหมดยังไม่มีประเทศไทยเลย ตอนนี้คนไทยทำได้เพียงเรียนรู้ และใช้งานอย่างเดียว แต่ถ้าหากวันใดวันหนึ่งมีการปรับราคาขึ้นมา หรือปิดกั้นการใช้งาน จะส่งผลกระทบระดับร้ายแรงกับประเทศไทยทันที
อย่างไรก็ตาม คุณเล้งมองว่า AI ไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องทำ ซึ่งการจะนำ AI มาปรับใช้งานได้สำเร็จจะต้องมี 2 สิ่งสำคัญ คือ Data Strategy และ People และการสร้าง 2 สิ่งนี้ได้จะเป็นตัวช่วยลดภาระให้กับธุรกิจได้ เพราะ
เทคโนโลยีต้องนำมาซึ่งความสามารถทางการแข่งขัน ไม่ใช่กลายมาเป็นภาระให้กับภาคธุรกิจ
คุณเล้งได้เน้นประเด็นของการยกระดับ “คน” เพราะเราจะไม่สามารถปลดพันธนาการได้ถ้าไม่มี “คน” แต่ตอนนี้ประเทศมีความสามารถในการผลิตคนในสาย IT ได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
คุณเล้งมองว่า ประเทศไทยยังมีคนที่มีความสามารถไม่แพ้ใคร และถึงมีการผลิตคนเก่ง ๆ ออกมาได้ ก็ถูกส่งออกไปต่างประเทศมากกว่า ดังนั้น เรื่องของคนจึงเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ธุรกิจควรหันมาให้ความสำคัญ เพื่อช่วยกันผลักดันให้คนเก่งในวงการ IT มีเพิ่มขึ้น
จากการสำรวจของ AWS ภายใต้หัวข้อ “Accelerating AI Skills: Preparing the Asia-Pacific Workforce for Jobs of the Future” พบว่า องค์กรมีความต้องการ Tech Talents ด้าน AI มากถึง 94% และมีถึง 64% ขององค์กรเหล่านี้ที่ไม่สามารถหา Tech Talents ได้ตรงตามความต้องการ
ในขณะเดียวกัน องค์กรหลายแห่งก็ไม่รู้วิธีที่จะเทรนให้มี Tech Talents ด้าน AI เกิดขึ้น และในฝั่งของพนักงานกว่า 81% ก็ไม่แน่ใจว่าจะสายงานใดที่จะเหมาะสมกับทักษะด้าน AI
ทางสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ก็มีการตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ที่มีทักษะความสามารถด้านดิจิทัลจาก 28% ไปสู่ 70% ภายในปี 2025 โดยจะพัฒนาตั้งแต่เพื่อสร้างผู้มีความรู้ความสามารถระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ โดยรัฐบาลอาจมีการเข้ามาลงทุนมากขึ้นในการออกแบบโปรแกรมหรือเทรนผู้ที่สนใจ พร้อมกับสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้กับอุตสาหกรรมในการนำเอา AI มาปรับใช้
เช่นเดียวกันกับทาง MFEC ที่มีแผนจะช่วยยกระดับการรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม โดยภายในงาน MFEC Inspire - Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage ได้มีการนำเสนอถึง 3 Core Solutions ที่จะมีส่วนเข้ามาปิดช่องว่างในการ Transform ขององค์กรของไทย ได้แก่
นอกจากนี้ ยังมี AI Transformation Club - Networking Club สำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนา AI แต่มีทรัพยากรจำกัด โดยได้รวบรวมเอาความเชี่ยวชาญขององค์กรต่าง ๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม มาเป็นทางเลือกและตัวช่วยในการยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนา AI ไปถึง 10 เท่า โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลงกว่า 90%
นอกจากการพัฒนา People แล้ว การยกระดับ Data Strategies ก็มีความสำคัญกับองค์กรที่ต้องการจะ Transform ไม่น้อยเช่นกัน หากองค์กรสามารถบริการจัดการข้อมูลได้ดีเพียงพอ การพัฒนา AI เพื่อธุรกิจก็จะทำได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยหนึ่งในโซลูชันที่น่าสนใจสำหรับองค์กรและธุรกิจที่ต้องการจะยกระดับ AI เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาด คือ บริการ “End-to-End Solution for Data & AI” ที่ออกแบบโดย DataWise
DataWise คือ ยูนิตใหม่ของธุรกิจที่เกิดจากความร่วมมือของ MFEC และบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท บิสซิเนส แอพพลิเคชั่น จำกัด (BAC) และ Data Café เพื่อออกแบบและสร้างบริการโซลูชันที่ครอบคลุมทั้ง ด้าน Data & AI สำหรับธุรกิจ พร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านฐานข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ การทำ Data Platform, Real time Data, Analytic Solution และ AI
การเดินหน้าของโครงการและงานต่าง ๆ ของ MFEC และพันธมิตรจนนำมาสู่การเปิดตัว DataWise คือความก้าวหน้าและการตอกย้ำถึงความสำคัญของการเอาข้อมูลที่มีอยู่ภายใน และภายนอกองค์กร ให้เข้ามามีบทบาทในพัฒนาภาคธุรกิจ จากประสบการณ์ของทีมงานในโลกของ Data ไม่ต่ำกว่า 20 ปี และทีมงามที่มีความสามารถหลากหลายเป็นจำนวนมาก
สำหรับบริการ End-to-End Solution for Data & AI คือบริการที่พัฒนามาเพื่อการจัดการด้านข้อมูลสำหรับธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยี และพัฒนาคนดังนี้
ท้ายที่สุดแล้ว การปรับตัวของภาคธุรกิจในการรับเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI เข้ามาใช้งานยังคงต้องอาศัยปัจจัยอีกหลายด้านในการผลักดันไปสู่ความสำเร็จ เพื่อส่งประเทศไทยขึ้นไปยืนเป็นเบอร์ 1 ด้าน AI Hub แห่งอาเซียน ทั้งการพัฒนาทักษะคน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ไปจนถึงออกแบบและสร้างกลยุทธ์เพื่อการยกระดับเทคโนโลยีให้สอดคล้องไปกับการทำงานภายในองค์กร
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DataWise: https://www.mfec.co.th/datawise/
อ้างอิง: Techsauce, MFEC (1) (2), Bangkok Post (1) (2) (3), Access Partnership, Thailand Business News
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด